Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
LALANA MONDTREE
•
ติดตาม
13 ส.ค. 2022 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์
ดูแลตัวเองให้ไหว..แล้วค่อยไปดูแลคนอื่น
เคยสงสัยและมีคำถามกับตัวเองไหมว่า
ทำไมต้องดูแลตัวเอง? เราดูแลตัวเองเพื่อใคร?
การเปรียบเปรยที่อธิบายการดูแลตัวเองได้ค่อนข้างดี คือการเปรียบเทียบในเรื่อง “หน้ากากออกซิเจน” ที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินบนเครื่องบิน
ในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเกิดความดันในห้องโดยสารต่ำบนเครื่องบิน ลูกเรือจะบอกให้เราสวมหน้ากากออกซิเจนให้ตัวเองก่อนที่จะช่วยสวมให้คนข้างเรา ด้วยเหตุผลว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เราทั้งคู่จะขาดออกซิเจนพร้อมกัน ถ้าเราสวมหน้ากากให้กับตัวเองก่อน เราก็จะสามารถช่วยเหลือคนข้างตัวหรือคนอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราได้
เราต่างมี “หน้ากากออกซิเจน” เป็นของตัวเอง ก็คงไม่ต่างกับพลังงานชีวิตที่เรามี ที่เป็นสภาพความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ที่เรามีไว้ใช้ดำเนินชีวิตในทุกวันก้วยความพร้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าเปรียบร่างกายเราให้เป็นรถยนต์ และพลังงานชีวิตคือน้ำมัน เมื่อรถไม่มีน้ำมัน รถก็วิ่งไม่ได้ ถ้าเราให้ความสำคัญกับการดูแลความต้องการของคนอื่นก่อน พลังงานสะสมที่เรามีอยู่อาจมีไม่พอหรือไม่มีเลยที่จะแบ่งปันให้กับใครได้
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเราและคนอื่นเลย พูดง่ายๆคือ ถ้าพลังงานเราหมด เราก็ช่วยเหลือใครไม่ได้
บางคนอาจจะตีความเรื่องการรักตัวเองว่าเป็น “ความเห็นแก่ตัว” เพราะเลือกเอาตัวเองเป็นสำคัญ แต่การรักตัวเองเป็นเรื่องของ"การรับผิดชอบ" และการลำดับความสำคัญให้ตัวเอง โดยที่ไม่เบียดเบียนใคร เพื่อให้เรามีพลังที่จะช่วยเหลือคนอื่นตามความสามารถและตามกาลที่เหมาะสมต่อไป
แต่การรักตัวเองจะกลายเป็นความเห็นแก่ตัวทันที ถ้าเรามัวกลับมาใส่ใจตัวเองโดย"ไม่สนใจความรู้สึกและความต้องการของคนอื่นเลย"
การดูแลตัวเองไม่ได้หมายถึงการออกไปกินมื้อหรู จิบไวน์แพง เพราะนั่นเป็นเพียงแค่การทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นชั่วคราว แต่การดูแลตัวเองหมายถึงการซื้อเวลาให้ชีวิตนานขึ้นอีกนิด มอบอิสระให้ตัวเองเพื่อใช้ชีวิตนานขึ้นอีกหน่อย
การดูแลตัวเองมีสี่ด้านสำคัญ คือ
1. ด้านสุขภาพร่างกาย
ร่างกายก็เปรียบได้กับรถยนต์ที่เคลื่อนเราจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ง่ายๆว่าถ้าเราป่วยก็ไปทำงานไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน ดังนั้นสุขภาพร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับการดูแลเป็นอันดับต้นๆ หากเรามีสุขภาพที่ดี สิ่งอื่นในชีวิตก็จะตามมา
เราสามารถปฎิบัติดูแลตัวเองได้อย่างง่ายๆในแต่ละวัน ดังนี้
1.1 ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง เพราะน้ำทำหน้าที่สำคัญโดยนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงและดูแลเรื่องการขับของเสียในร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ร่างกายเราสูญเสียน้ำอยู่ตลอดเวลาในรูปแบบปัสสาวะ เหงื่อและลมหายใจ เราจึงต้องดื่มน้ำให้เป็นนิสัยเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ ข้อสังเกต เมื่อเริ่มขาดน้ำ ร่างกายจะส่งสัญญาณให้เรารู้สึกหิวน้ำเพื่อให้เราดื่มน้ำนั่นเอง
1.2 ดูแลอาหารการกินที่มีประโยชน์ เลือกกินอาหารที่ให้สมดุลและเหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของตัวเอง เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง อัตราการเผาผลาญ หรือภูมิหลังทางพันธุกรรม ดังนั้นอย่าเชื่อและกินตามคนอื่น แต่ฝึกเรียนรู้ที่จะฟังร่างกายของตัวเองและเลือกกินให้ถูกต้องเหมาะสมกับร่างกายของเรามากกว่า
1.3 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้เหมาะสมกับร่างกายและวัยของตัวเอง ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย หรือร่างกายไม่ได้ขยับเป็นประจำ ก็จะทำให้อวัยวะส่วนนั้นเสื่อมลงและสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ ก็เหมือนรถที่จอดนิ่ง ไม่นานก็จะขึ้นสนิมและสุดท้ายก็เคลื่อนไปไหนไม่ได้ การออกกำลังกายจะทำให้มีสุขภาพดีในระยะยาว ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง การทรงตัว และความยืดหยุ่น
การออกกำลังกายให้ได้ผลดีนั้นจะต้องค่อย ๆ ทำและต้องใช้เวลา แต่ควรทำอย่างสม่ำเสมอให้เป็นนิสัยอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที ก็เพียงพอที่จะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้เรารู้สึกดี มีความพึงพอใจในรูปร่างของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
1.4 ให้ร่างกายได้รับแสงแดดอย่างน้อยวันละ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน D นอกจากจะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันโรคแล้ว วิตามิน D ยังช่วยเพิ่มระดับสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารในสมองชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสภาวะทางอารมณ์ ช่วยลดความตึงเครียด จะทำให้อารมณ์แจ่มใส
และในเวลากลางคืนจะกระตุ้นให้สมองสร้างสารเมลาโทนิน (Melatonin) ทำหน้าที่ช่วยให้นอนหลับง่ายและเป็นเวลามากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ การทำงานของร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกง่วงระหว่างวัน
2. ด้านการเงิน
การบริหารการเงินเป็นหนึ่งในทักษะการใช้ชีวิตที่สำคัญ ปัญหาการเงินเป็นสาเหตุหลักของความเครียดสำหรับหลายคน และเป็นต้นตอที่นำไปสู่วงจรอุบาทว์ โดยส่วนตัวเชื่อในหลักการ“การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” เพราะการไม่มีหนี้ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตตามความต้องการของเราอย่างมีอิสระ
ปัญหาการมีหนี้เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสและทำให้รู้สึกท้อแท้ การละเลยปัญหานี้จะยิ่งทำให้เครียด ดังนั้นเผชิญหน้ากับความจริง ยอมรับและค่อยๆจัดการกับปัญหาไป โดยเริ่มจากการตระหนักว่า เราไม่สามารถปลดหนี้ได้หมดในคราวเดียว จดรายการหนี้สินที่มีทั้งหมด แล้วเริ่มจัดการทีละรายการ โดยเริ่มจากการชำระหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน เมื่อทำได้สำเร็จ จะช่วยสร้างความมั่นใจและทำให้มีกำลังใจในการชำระหนี้ก้อนต่อไปเรื่อยๆจนหมด
1
เรียนรู้และฝึกฝนโดยใช้หลักการบริหารการเงินง่ายๆ คือ ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้ เมื่ออยากซื้อของสักชิ้น ต้องตอบตัวเองให้ชัดเจนว่าเป็นของที่ “อยากได้” หรือ “จำเป็น” จัดการแยกเงินเป็นสัดส่วนสำหรับรายรับ-รายจ่าย เงินฉุกเฉิน เงินเก็บออมและลงทุนตามความสามารถทางการเงินที่หามาได้ ทำงานพิเศษเพื่อเพิ่มรายได้ เมื่อเราจัดการบริหารการเงินได้ จะทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานและสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น
3. ด้านอาชีพการงาน
แน่นอนว่า เราต่างก็ทำงานเพื่อให้มีรายได้ในการดำเนินชีวิต บางคนต้องเริ่มทำงานจากงานที่ตัวเองไม่ชอบและต้องการ ไม่ว่าด้วยเหตุผลหรือค่านิยมส่วนตัวอะไรก็แล้วแต่ หลายคนไม่ได้ทำงานในฝันที่ตัวเองอยากทำ หลายคนทำงานแบบไร้เป้าหมายเพราะยังค้นหาตัวเองไม่เจอ
ไม่ใช่ทุกคนจะได้ทำงานในฝันหรือจับพลัดจับผลูได้เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านที่ริเริ่มด้วยตัวเอง เราทุกคนเกิดมาต่างก็มีพรสวรรค์ความสามารถที่ต่างกันไป บางครั้งพรสวรรค์และความสนใจที่มีส่วนตัว ก็ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพที่เราทำแล้วมีความสุขได้ไปตลอด เพราะได้ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ
ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาตัวเองเสมอ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการทำอะไร ก็ต้องเปิดโลกทัศน์ตัวเองให้กว้างขึ้น โดยการช่วยเหลือคนอื่นหรือเป็นอาสาสมัครเป็นการช่วยให้ค้นพบตัวเองได้ทางหนึ่ง อ่านให้มาก เรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ๆที่ประโยชน์ให้กับตัวเองเสมอ ทักษะอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบและสนใจเป็นส่วนตัว ที่สามารถต่อยอดความฝันของตัวเองเพื่อตัวเองได้
4. ด้านความรักและความสัมพันธ์
“ถ้ามีความสัมพันธ์ในชีวิตที่ดี ชีวิตก็ดี”
1
ไม่ว่าเราจะ "คิด" ว่าตัวเองอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง หรือแม้กระทั่ง "อยาก" อยู่คนเดียวโดยไม่มีใครอื่น ในความเป็นจริง เราไม่สามารถตัดขาดจากสังคมได้ เพราะเรายังคงส่วนหนึ่งของสังคมที่ยังคงเชื่อมต่อไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เคยมีคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า ทำไมเราถึงไม่เจอคนใหม่ๆที่น่าสนใจ ที่นำความคิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่ทำให้เราก้าวหน้า คนที่เราสามารถสร้างเครือข่ายเพื่อให้ได้งานใหม่ ถ้าเราไปเที่ยวกินดื่มที่เดิม พบปะผู้คนหน้าเดิมๆตลอดเวลา เราก็คงมีชีวิตสังคมที่น่าเบื่อ ชีวิตก็ไม่พัฒนาก้าวหน้าไปไหนแน่นอน
เรียนรู้และพาตัวเองออกจากวงโคจรเดิมๆ เพราะการมีชีวิตสังคม ไม่ใช่แค่เป็นการเติมเต็มชีวิตให้มีความสนุกสนานอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้เราได้พบปะและรู้จักผู้คนมากหน้าหลายตาจากหน้าที่การงานที่ต่างกัน ทำให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น และเพิ่มโอกาสให้ชีวิตพัฒนามากขึ้น
เมื่อเราดูแลตัวเองเป็น เราก็มีพลังงานบวกที่ทำให้เราจดจ่อกับสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันได้ ช่วยให้จัดการกับปัญหาที่มีได้ดีขึ้นตามไปด้วย
สุดท้ายแล้ว เมื่อใดที่เราดูแลตัวเองไหว เมื่อนั้นเราก็ดูแลคนอื่นได้
พัฒนาตัวเอง
ไลฟ์สไตล์
ข้อคิด
6 บันทึก
10
11
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อิสรภาพทางชีวิต
6
10
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย