วิธีการฉายภาพ (Projection methods)
คือการสร้างภาพฉายโดยอาศัยเส้นสมมุติจากสายตาของคนมองภาพวัตถุนั้นๆ (line of sight) ไปยังมุมขอบของภาพบนระนาบรับภาพสมมุติ (plane of projection) เพื่อสร้างเป็นภาพ 2 หรือ 3 มิติ แล้วแต่วัตถุประสงค์การใช้งาน
การฉายภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกแสดงมุมมองด้านใดด้านหนึ่งของวัตถุหรือหลายด้านประกอบกัน เพื่อให้ผู้ใช้ภาพนั้นได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าวัตถุดังกล่าวมีองค์ประกอบสำคัญอะไรบ้างอย่างครบถ้วน โดยเลือกฉายภาพจากมุมมองของวัตถุที่มีความซับซ้อน เข้าใจยาก มาแสดง ดังนั้น การเลือกมุมหรือด้านของวัตถุที่จะนำมาแสดงผ่านการฉายภาพจึงมีความสำคัญอย่างมาก
วิธีการฉายภาพสามารถแบ่งได้แบ่งเป็นหลายประเภทดังนี้
1. แบบ perspective
แบบนี้เส้นสมมุติจะรวมและเริ่มที่จุดเดียวจากจุดมอง แล้วกระจายออกไปตามมุมขอบของภาพที่มอง ไม่ขนานหรือมาบรรจบกันอีก
ภาพที่ 1
2. แบบขนาน (parallel projection)
แบบนี้เส้นสมมุติจะเริ่มจากตำแหน่งมุมขอบที่มองจุดเดียวจากจุดมอง ทุกเส้นจะขนานกัน แบ่งย่อยได้เป๋น 2 ประเภทคือ ใหญ่ๆ คือ
2.1 แบบ oblique
2.2 แบบ orthographic
ในแบบ orthographic ยังสามารถแบ่งได้อีกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
2.2.1 แบบ Axonometric
2.2.2 แบบ Multiview หรือเรียกว่า “การฉายหลายมุมมอง”
ภาพที่ 2
สามารถสรุปภาพรวมวิธีการฉายภาพได้ดังภาพที่ 3
ภาพที่ 3
การฉายภาพหลายมุมมองโดยทั่วไปจะเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งจาก 2 แบบ คือภาพฉายมุมที่ 1 (first angle) และภาพฉายมุมที่ 3 (third angle) ดังภาพที่ 3 ซึ่งมีตำแหน่งการยืนมองภาพ 3 ตำแหน่ง คือ
1. ยืนมองอยู่ด้านหน้าวัตถุ โดยมองตรงไปยังพื้นผิวทั้งหมดที่มองเห็นจากฝั่งด้านหน้า ภาพฉายที่ได้จะวางอยู่บนภาพฉายด้านหน้า (front view)
2. ยืนมองอยู่ด้านหน้าวัตถุ แต่ก้มมองตรงไปยังพื้นผิวด้านบนของวัตถุ ภาพฉายที่ได้จะวางอยู่บนภาพฉายด้านบน (top veiw)
3. ยืนอยู่ด้านข้างของวัตถุ (ซ้ายหรือขวา) แล้วมองตรงไปยังพื้นผิวด้านข้องวัตถุ ภาพฉายที่ได้จะวางอยู่บนภาพฉายด้านข้าง ภาพฉายที่ได้จะวางอยู่บนตำแหน่งภาพด้านข้าง (side view)
ภาพที่ 4
ภาพที่ 5
โครงสร้างตำแหน่งจัดวางภาพฉายมุมที่ 3 และภาพวัตถุต้นแบบที่ต้องการสร้างเป็นภาพฉายซึ่งมักแสดงด้วยภาพ isometric จะเป็นดังภาพที่ 6
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
