วิชาโทรโข่ง
เมื่อวานเห็นข่าวผู้บริหารรถยนต์ค่ายหนึ่งออกมาขอโทษลูกค้าเรื่องปัญหาการชดเชยรถที่ตกลงไม่จบแล้วก็นึกย้อนไปถึงอีกเหตุการณ์คล้ายกันเมื่อหลายปีก่อนที่มีลูกค้าอีกราย ขับรถที่มีปัญหาซ่อมไม่จบเหมือนกัน ไปที่หน้าศูนย์บริการแต่เป็นคนละค่ายกับข่าวล่าสุด
แล้วก็จัดการทุบรถโชว์นักข่าว สุดท้ายก็ลงเอยแบบเดียวกันคือ ค่ายรถต้องโร่ออกมาขอโทษจนเป็นข่าวอย่างที่เห็น
2 เรื่องนี้พาให้นึกถึงเรื่องของพี่คนสนิทอีกคน เคยคือโน้ตบุ๊กยี่ห้อนึง ซื้อมาแล้วมีปัญหาทั้งๆ ที่พึ่งซื้อมาและอยู่ในระยะประกันทุกอย่าง ติดต่อเคลมกับร้านที่ขายก็ไม่ได้คำตอบ ติดต่อเข้าบริษัทก็เงียบโทรเข้าสำนักงานใหญ่ของบริษัทโน้ตบุ๊ก ก็ได้รับแต่คำตอบว่าของไม่มี เดี๋ยวจะเช็กให้
ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชน หรือจะเรียกเก๋าเกมก็ได้ พี่คนนี้เลยใช้วิธีเอาโทรโข่งไปยืนพูดหน้าตึกสำนักงานของบริษัทโน้ตบุ๊กแห่งนั้นช่วงพักกลางวัน
สิ่งที่พูดก็ไม่ได้พูดให้แบรนด์เสียหายแม้แต่น้อย โดยใจความที่ไปพูดก็ประมาณว่า ทุกคนที่เดินผ่านไปมาครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ผมซื้อโน้ตบุ๊กยี่ห้อ… รุ่น… มาครับแล้วเครื่องมีปัญหา จะขอเปลี่ยนก็ยังไม่ได้คำตอบเลย ตอนนี้เดือดร้อนมากเพราะไม่มีคอมฯ ไว้ทำงาน อยากขอคำแนะนำจากทุกคนว่าต้องทำยังไง พูดแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนพนักงานของแบรนด์นั้นต้องรีบลงมาคุยด้วย
วิธีการคุยของพี่ก็แสบสุดๆ
คือ พูดผ่านโทรโข่งใส่หน้าเจ้าหน้าที่กลุ่มนั้น เจ้าหน้าที่บอกพี่พูดธรรมดาก็ได้ผมหูจะแตกแล้ว พี่คนแสบก็บอกก็พูดธรรมดามาตั้งนานแล้วไม่ได้ยินก็เลยหาเครื่องมือมาให้ได้ยินแน่ๆ
สรุปว่า วิชาโทรโข่งได้ผล ไม่เกิน 2 ชั่วโมง โน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ก็ลงมาถึงมือ พร้อมกับคำตัดพ้อของเจ้าหน้าที่ว่า พี่ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พวกผมเดือดร้อนกันหมด เมื่อพี่แสบของผมถามกลับไปว่า เครื่องใหม่ก็มีนี่ แล้วทำไมถึงไม่ให้ ก็ไม่ได้รับคำอธิบายอะไร
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ในยุคที่ลูกค้ายังไม่มีสื่อโซเชียลในมือ แบรนด์เจ้าของสินค้าเลยคิดว่าการตีมึน แกล้งไม่ได้ยินจะเป็นวิธีที่ได้ผล แต่สมัยนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่การขายและการบริการหลังการขาย กลายเป็นของคู่กันที่แบรนด์จะละเลยไม่ได้เลยแม้เพียงนิดเดียว
อย่าคิดว่าเสียงเรียกร้องจากลูกค้าคนเดียวไม่มีความหมาย หรือทำอะไรแบรนด์ไม่ได้
ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ลูกค้าทุกวันนี้ มีโทรโข่งเป็นร้อยตัวอยู่ที่ปลายนิ้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะกดปุ่มใช้งานหรือไม่
เมื่อไหร่ที่โทรโข่งถูกกดใช้งาน เมื่อนั้นอาจเป็นจุดจบของแบรนด์เราก็ได้
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
