17 ก.ย. 2022 เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔎 [INVESTMENT] - หุ้นจีน ADR ยังไม่พ้นเสี่ยงถูก Delist ! แม้จีน-สหรัฐฯ แถลงว่าได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว
📝 บทความโดย T-Da
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2022 บริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของจีน 5 บริษัทที่ซื้อขายอยู่ในตลาด NYSE ก็ได้ยื่นขอถอดถอนออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (Voluntary Delisting) ซึ่งได้แก่ China Life Insurance, Aluminium Corporation of China (Chalco), Petro China, Sinopec, และ Sinopec Shanghai Petrochemical (บริษัทลูกของ Sinopec)
นักลงทุนตีความว่าการถอนตัวของบริษัทรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 บริษัทข้างต้น เป็นการตัดปัญหาให้ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับภาครัฐของจีน) ต่อทางการสหรัฐฯ จะช่วยเปิดทางให้การเจรจาหาทางออกสำหรับบริษัทเอกชนจีนอื่นๆ ที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ หรือ "หุ้นจีน ADR" ทั้งหลายนั้นทำได้ง่ายขึ้น
ต่อมาในวันที่ 26 ส.ค. 2022 กลต.ของจีน หรือ CSRC (China Securities Regulatory Commission) กับ หน่วยงานกำกับดูแลบัญชีของสหรัฐฯ หรือ PCAOB (Public Company Accounting Oversight Board) ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการให้ PCOAB เข้าตรวจสอบรายงานบัญชีของ "หุ้นจีน ADR" อีกกว่า 200 บริษัท จึงดูเหมือนจะเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุน
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายชี้ว่าอาจเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่าความเสี่ยงที่ "หุ้นจีน ADR" หรือหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ จะถูกห้ามซื้อขายและถูกถอดออก (Delisting) จากตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ นั้นได้จบลงแล้ว
1
เนื่องจากข้อความที่ CSRC และ PCAOB ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับข้อตกลงที่เกิดขึ้นนั้นตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
- โดย PCAOB บอกว่า "ถ้าจีนทำตามที่ตกลงกัน" ทาง PCAOB ก็จะได้รับสิทธิ์ตามข้อเรียกร้อง 3 ประการที่จะเข้าถึงข้อมูลการตรวจสอบบัญชีและหลักฐานจากผู้ตรวจสอบบัญชีทั้งในจีนและฮ่องกงอันปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐของจีนได้อย่างสมบูรณ์
- ส่วน CSRC นั้นเน้นย้ำถึง "ความเท่าเทียม" ของหลักความร่วมมือระหว่างกัน ที่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขทางกฏหมายของทั้งสองฝ่ายด้วย นั่นคือเอกสารหลักฐานที่สหรัฐฯ จะทำการตรวจสอบต้องถูกส่งผ่าน กลต.จีน
📌 ความพยายามของสหรัฐฯ ในการเข้าตรวจสอบบัญชีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 20ปี ที่ผ่านมา
หน่วยงาน PCAOB ของสหรัฐฯ นั้นถูกตั้งขึ้นในปี 2002 เพื่อตรวจสอบบัญชีบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หลังเหตุอื้อฉาวเรื่องการตกแต่งบัญชีของบริษัท Enron ที่นำไปสู่การล้มละลาย ซึ่ง PCAOB ก็มีความพยายามจะตรวจสอบบริษัทที่จัดตั้งในประเทศอื่นๆ แต่เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมถึงบริษัทจีนด้วย
อย่างไรก็ดีทางการจีนพยายามปฏิเสธการเข้าตรวจบัญชี "หุ้นจีน ADR" มาตลอด จนกระทั่งเกิดเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับการตกแต่งรายได้ของ Luckin Coffee (ร้านกาแฟตรากวางคู่แข่งสตาร์บัคส์จีน) ในปี 2019 ที่จบลงด้วยการ Delisting ออกจาก NASDAQ ในช่วงกลางปี 2020
ในเดือน ธ.ค. 2020 สหรัฐฯ จึงผ่านร่างกฏหมาย HFCAA (Holding Foreign Companies Accountable Act) ซึ่งมีผลให้บริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่ถูก PCAOB ระบุว่าไม่สามารถเปิดเผยรายงานการตรวจสอบบัญชีได้ติดกัน 3 ปี จะต้องถูกระงับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอย่างเร็วที่สุดก็จะเกิดในช่วงต้นปี 2024
1
ต่อมาในเดือน มิ.ย. 2021 วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติให้ปรับลดข้อกำหนดของ HFCCA จาก 3ปี เหลือเพียง 2ปี และการระงับการซื้อขายในสหรัฐฯ ทั้งหมด (รวมถึงการซื้อขายแบบ OTC ด้วย ไม่ได้ระงับการซื้อขายเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียว)
2
ดังนั้นหากมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นกฏหมายแล้ว จะทำให้บริษัทจีนใดๆ ก็ตามที่ถูก PCAOB ระบุรายชื่อให้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบบัญชีแต่ไม่สามารถนำส่งรายงานการตรวจสอบบัญชีของปี 2021 และ 2022 ให้ PCAOB ได้ภายในเดือน มี.ค. 2022 และ 2023 เป็นเวลา 2ปี ติดต่อกัน จะต้องถูกระงับการซื้อขาย ซึ่งจะมีผลให้ถูกถอดจากตลาดหลักทรัพย์ (Delisting) ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 นี้เลย
1
ทาง กลต.สหรัฐฯ ได้ทยอยประกาศรายชื่อบริษัทที่ถูกกำหนดให้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบบัญชีตามกฏหมาย HFCAA ไว้ในเว็บไซต์ www.sec.gov/hfcaa ซึ่งตั้งแต่ มี.ค. - ส.ค. 2022 ได้ประกาศมาแล้ว 162 บริษัท จากจำนวนทั้งสิ้น 238 บริษัท ที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาด NYSE และ NASDAQ ซึ่งหากคิดจากมูลค่าตลาดแล้วกว่า 40% จะเป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก
"หุ้นจีน ADR" เริ่มปรับตัวโดยการทำ Dual Primary Listing หรือ Secondary Listing ในตลาดหุ้นฮ่องกง (Hang Seng) เผื่อกรณีโดนระงับการซื้อขายในสหรัฐฯ ก็จะย้ายไปซื้อขายในฮ่องกงแทน หรือบางบริษัทอาจเลือกวิธี Privatization โดยทำการเสนอราคาขอซื้อหุ้นกลับจากผู้ถือหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์
1
นักลงทุนที่ลงทุนใน "หุ้นจีน ADR" อยู่ก็ต้องคอยติดตามข่าวว่าการตรวจสอบที่จะเริ่มในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้ และผลตรวจเบื้องต้นที่จะประกาศในช่วงปลายปีนี้มีพัฒนาการอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมแผนรับมือในกรณีที่ผลการตรวจสอบไม่เป็นไปตามคาด นักลงทุนต้องพิจารณาว่าจะขายหุ้นออกเลย หรือขอโอนย้ายหุ้นไปซื้อขายในตลาดฮ่องกงแทน (เสียค่าโอนย้าย 5USD ต่อ 100หุ้น)
นอกจากนี้ยังต้องติดตามว่า HFCAA ฉบับเร่งรัดที่ผ่านวุฒิสภาสหรัฐฯ ไปแล้วจะประกาศเป็นกฏหมายเมื่อใด เพราะจะเร่งให้ความเสี่ยงที่ "หุ้นจีน ADR" จะถูก Delist นั้นมาเร็วขึ้น และปิดทางเลือกที่จะซื้อขายแบบ OTC ในสหรัฐฯ ไปด้วย
🔊 นักลงทุนท่านใดสนใจเข้ามาร่วมกลุ่ม LINE เพื่อศึกษาการลงทุนที่ดีไปกับทีม Trader KP
สามารถติดต่อได้ที่ LINE Official @traderkp (https://lin.ee/a3S9iGv) ได้เลยครับ การลงทุนที่ดีอยู่ห่างจากคุณเพียงไม่กี่คลิก 👍😊
หรือรับการแจ้งเตือนข่าวด่วนทาง LINE กับ Trader KP ได้ที่ - https://bit.ly/3OPOvYV
#ทันโลกกับTraderKP #BlockditExclusive #TDa
โฆษณา