24 ก.ย. 2022 เวลา 12:19 • ประวัติศาสตร์
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ผู้ปกครองเวลส์ กับตอบคำถามทำไม “ว่าที่กษัตริย์อังกฤษถึงต้องใช้ตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์”
เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ (พระยศเดิม) ได้รับการสถาปนาตำแหน่งใหม่เป็น “เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์” ซึ่งเป็นตำแหน่งของมกุฎราชกุมารที่จะขึ้นครองราชย์บัลลังก์อังกฤษเป็นลำดับต่อไป
2
แล้วคำว่า “เจ้าชายแห่งเวลส์” มีความเป็นมาได้อย่างไร ทำไมผู้ที่จะขึ้นครองราชย์คนต่อไปถึงต้องใช้ตำแหน่งนี้
3
วันนี้ Bnomics จึงอยากพาทุกท่านย้อนรอยประวัติศาสตร์ผู้ปกครองแห่งเวลส์ พร้อมกับไปหาคำตอบว่าแล้วทำไมรัชทายาทของอังกฤษถึงต้องใช้คำว่า “เจ้าชายแห่งเวลส์”
⭐ กำเนิดเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales)
ก่อนที่เราจะไปตอบคำถามว่า ทำไมรัชทายาทอังกฤษถึงต้องใช้ตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์ เราอาจจะต้องมองย้อนกลับไปถึงประวัติศาสตร์ผู้ปกครองเวลส์ในอดีตกาลก่อน
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1066 ดินแดนของเวลส์ได้แบ่งออกเป็นหลายอาณาจักร ได้แก่ Gwynedd, Powys, Seisyllwg, Dyfed, Brycheiniog, Morgannwg and Gwent ซึ่งแต่ละอาณาจักรมีผู้ปกครองเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์
ถึงแม้ว่า ดินแดนเวลส์จะมีหลายอาณาจักร และแต่ละอาณาจักรจะมีผู้ปกครองของตนเอง แต่ทุกอาณาจักรก็ยังต้องสวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์อังกฤษซึ่งมีอิทธิพลมากในขณะนั้น
2
เมื่อแต่ละอาณาจักรในเวลส์มีผู้ปกครองเป็นของตนเองแสดงว่าเจ้าชายแห่งเวลส์จะมีทุกอาณาจักรเลยไหม?
คำตอบคือ เจ้าชายแห่งเวลส์ไม่ได้มีทุกอาณาจักร
2
แต่เกิดขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการในปี 1240 จากการที่ผู้ปกครองในแต่ละอาณาจักรยอมรับผู้ปกครองที่ชื่อ Llewelyn ap Iorwerth แห่งอาณาจักร Gwynedd ให้เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เพราะความเฉลียวฉลาดและเก่งกาจสามารถขยายดินแดนและอิทธิพลของอาณาจักรออกไปได้อย่างกว้างขวาง
ซึ่งแม้แต่กษัตริย์อังกฤษเองก็ยังรับรู้ว่า Llewelyn คือ ผู้ปกครองแห่งเวลส์ที่มีอำนาจสูงสุด
3
จนกระทั่งในปี 1240 หลังจากที่ Llewelyn เสียชีวิต ชีวประวัติของเขาได้ถูกบันทึกในพงศวดารแห่งเวลส์ว่าเขาคือ “เจ้าชายแห่งเวลส์”
3
⭐ สิ้นสุดเจ้าชายแห่งเวลส์
จากที่กล่าวไปในช่วงต้นว่า เจ้าชายแห่งเวลส์นั้นก็ยังไม่ได้ถูกสถาปนาอย่างเป็นทางการ
1
คำว่าเป็นทางการ หมายถึง การได้รับการสถาปนาจากกษัตริย์อังกฤษในตอนนั้น (เพราะถึงอย่างไรชาวเวลส์ก็ยังต้องสวามิภักดิ์กับอังกฤษ)
1
โดยหลังจากที่ Llewelyn ap Iorwerth เสียชีวิต หลานชายของเขาชื่อว่า Llywelyn ap Gruffudd ได้แต่งตั้งตนเองเป็น “เจ้าชายแห่งเวลส์” เช่นเดียวกัน
หากแต่…เขาต้องการเป็นผู้ปกครองอาณาจักรเวลส์โดยไม่ต้องขึ้นกับอังกฤษอีกต่อไป
4
แต่ความพยายามของ Llywelyn ap Gruffudd ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากในขณะนั้นเกิดสงครามกลางเมืองอังกฤษ (สงครามบารอนครั้งที่ 2) ระหว่างฝ่ายขุนนางนำโดย Simon de Montfort ที่ต่อต้านกษัตริย์อังกฤษ (เฮนรี่ที่​ 3)
โดยผลการรบ คือ ฝ่ายกษัตริย์อังกฤษเป็นผู้ชนะ
3
ดังนั้น การจะลุกขึ้นสู้กับอังกฤษในตอนนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้ Llewelyn ap Gruffudd ต้องเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่และยอมลงนามอยู่ภายใต้กษัตริย์เฮนรี่ที่ 3 แลกกับการที่พระองค์แต่งตั้ง Llewelyn ให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์อย่างเป็นทางการ
2
เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดสำคัญ เพราะสะท้อนให้เห็น “ความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างอังกฤษและเวลส์” ว่ากษัตริย์อังกฤษเป็นผู้มอบตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์ให้ ซึ่งแตกต่างจาก Llewelyn ap Iorwerth (ผู้เป็นปู่) ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองเวลส์ด้วยกันเอง
1
และแล้วความสัมพันธ์เชิงอำนาจนี้ก็ชัดเจนยิ่งขึ้นในปลายศตวรรษที่ 13 เมื่อกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 1 ประกาศสงคราม เพื่อรวบอำนาจให้เวลส์ตกอยู่ภายใต้อังกฤษโดยสมบูรณ์
3
โดย Llewelyn ap Gruffudd ได้เสียชีวิตในสงครามและ Dafydd (น้องชาย) ถูกตัดสินประหารชีวิต จึงถือเป็นจุดสิ้นสุดเจ้าชายแห่งเวลส์ที่เป็นชาวเวลส์นั่นเอง
2
⭐ การสืบทอดตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์มาสู่อังกฤษ
2
หลังจากอาณาจักรเวลส์ถูกรวมกับอังกฤษ กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 1 ได้ปรับเปลี่ยนให้ตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์ให้เป็น “รัชทายาทแห่งอังกฤษ”
3
โดยในปี 1301 มีการสถาปนาเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (ภายหลังขึ้นเป็นกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 2) ขึ้นเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์อย่างเป็นทางการ
ถึงอย่างนั้น มีตำนานเล่าว่า ในปี 1284 หลังจากที่พระราชโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ประสูติ พระองค์อุ้มพระราชโอรสไปที่หอคอย ณ ประสาทคาร์นาร์วอน
1
พร้อมประกาศต่อหน้าขุนนางชาวเวลส์ว่า “Here is your new Prince of Wales” หรือ “นี่คือ เจ้าชายแห่งเวลส์พระองค์ใหม่ของพวกท่าน”
5
และนี่คือจุดเริ่มต้นของประเพณีการสืบต่อรัชทายาทของอังกฤษจวบจนถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ปี 1301 จนถึงปัจจุบัน อังกฤษมีผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) ทั้งหมด 22 พระองค์ด้วยกัน
2
โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษคิดเป็นเวลากว่า 61 ปี คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ หรือปัจจุบันคือกษัตริย์ชาร์ลที่ 3 นั่นเอง
4
อย่างไรก็ตาม การได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งเจ้าชายแห่งเวลส์มาก่อน เช่น พระเจ้าจอร์จที่ 6 (พระบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2) ที่ขึ้นครองราชสมบัติจากตำแหน่งเดิมคือ ดยุคแห่งยอร์ค (Duke of York) โดยไม่ได้ใช้คำว่าเจ้าชายแห่งเวลส์
1
หากมองกลับมาที่ปัจจุบัน ประเด็นเรื่องการสถาปนารัชทายาทอังกฤษให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ยังคงสะท้อนถึงความขมขื่นในแง่ประวัติศาสตร์ระหว่างทั้งคู่ จะเห็นได้ว่ามีชาวเวลส์บางส่วนยังรู้สึกไม่พอใจต่อการสถาปนารัชทายาทโดยใช้คำว่า “แห่งเวลส์” ซึ่งเปรียบเสมือนการตอกย้ำความพ่ายแพ้และมีอำนาจเหนือเวลส์ในอดีต
3
ผู้เขียน : ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
เครดิตภาพ : Hulton-Deutsch Collection/CORBIS/Corbis via Getty Images

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา