Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
•
ติดตาม
1 ต.ค. 2022 เวลา 12:19 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ ‘กรุงเกียวโต’ อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นนับ 1,000 ปี
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ทำการเปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหนึ่งในเมืองที่คนไปเยอะที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘เกียวโต’
เมืองหลวงแห่งประวัติศาสตร์ที่สะท้อนรากเหง้าทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างขีดสุดของญี่ปุ่นจวบจนถึงปัจจุบัน
อาจกล่าวได้ว่า “หากจะเข้าใจว่าญี่ปุ่นเป็นทุกวันนี้ได้อย่างไร ให้ศึกษาประวัติศาสตร์เกียวโต”
1
Bnomics ในวันนี้ จึงอยากพาทุกท่านไปย้อนรอยประวัติศาสตร์เกียวโตอดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นมายาวนานถึง 1,074 ปี
⭐ประวัติศาสตร์ยุคก่อนเป็นเมืองหลวง
แม้จะมีการค้นพบร่องรอยของมนุษย์บริเวณเกาะญี่ปุ่นในช่วง 10,000 ปีก่อนคริสตกาล (ยุคโจมง) แต่ในบริเวณเกียวโตนั้นยังไม่พบหลักฐานการมีอยู่ของมนุษย์
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 6 มีการค้นพบหลักฐานของมนุษย์ในบริเวณเกียวโตคือ ศาลเจ้าชิโมงาโมะ (Shimogamo Jinja) เชื่อกันว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเทมมู (ค.ศ. 675 - 686) เพื่อบูชาเทพเจ้า Kamo Tamayori-hime ให้ช่วยคุ้มครองภัยอันตรายที่จะมาสู่เกียวโต
2
ก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้าสู่สมัยเฮอันซึ่งมีเมืองหลวงคือ นครเฮอันเคียว (เกียวโต) ญี่ปุ่นได้เริ่มวางรากฐานทางวัฒนธรรม ศาสนา ศิลปะในยุคสมัยก่อนหน้ามาบ้างแล้ว
เช่น ในสมัยอาสึกะ (ค.ศ. 550 - 710) สามารถรวมชาติญี่ปุ่นให้อยู่ภายใต้จักรพรรดิได้ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อร่างทางศาสนาและวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น
ต่อมา ในสมัยนารา (ค.ศ. 710 - 750) เกิดพงศาวดารชื่อ โคะจิกิและนิฮอนโชคิ ซึ่งถือเป็นหลักฐานลายลักษณ์อักษรที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างมาก
1
เพราะทำให้เห็นความพยายามในการรวมชาติญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่สมัยนั้น การเล่าถึงความชอบธรรมของจักรพรรดิในการปกครอง รวมถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นผูกพันกับธรรมชาติและศรัทธาต่อเทพเจ้า
1
โคะจิกิ เป็นวรรณกรรมที่ถูกแต่งโดยเจ้าชายโทะเนะริ ใช้นามแฝงว่าโอโนะ ยะสึมะโระ และเขียนด้วยตัวอักษรจีนโบราณ
ถูกแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ภาค ภาคแรก คือ เล่าถึงตำนานการกำเนิดเทพและโลกมนุษย์จนถึงสมัยจักรพรรดิจิมมุ (จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น) และอีกสองภาคเป็นการเล่าเรื่องราวของจักรพรรดิญี่ปุ่นไล่เรียงตามลำดับ
หากจะกล่าวว่า “เกียวโต (ยุคเฮอัน) เป็นยุคทองแห่งวัฒนธรรมญี่ปุ่น สมัยอาสึกะและสมัยนาราถือเป็นการวางรากฐานทางวัฒนธรรมให้เกียวโตเช่นกัน”
2
⭐ แรกเริ่ม ‘นครหลวงเกียวโต’
ในศตวรรษที่ 3-6 ญี่ปุ่นมีเมืองหลวงหลายแห่งด้วยกัน ขึ้นอยู่กับการแย่งชิงและเปลี่ยนผ่านอำนาจไปมาของผู้ปกครองในขณะนั้น เช่น เมืองนะนิวะโนะมิยะ จังหวัดโอซาก้า เมืองโอซึเคียว จังหวัดชิกะ เมืองอะซึกะโนะมิยะ จังหวัดนารา
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 784 จักรพรรดิคันมุต้องการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่จากนาราไปยังเกียวโต เพื่อหลีกหนีฐานอำนาจเดิมที่สนับสนุนจักรพรรดิเท็นมุ และการเรืองอำนาจของขุนนางตระกูลฟูจิวาระที่มีอำนาจมากในแคว้นนารา รวมถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาอย่างขีดสุด
1
โดยเหตุผลที่เลือกเกียวโตเป็นเมืองหลวงคือ ‘ความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์’
2
พื้นที่ฮิกาชิยาม่ามีภูเขาล้อมรอบ 3 ด้าน ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ได้แก่ เขาฮิงะชิ เขาคิตะยะมะ และเขานิชิยะมะ เหมาะที่จะเป็นป้อมปราการเมือง
นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำ 3 สายไหลผ่านเมืองคือ แม่น้ำอุจิ แม่น้ำคัทซึระ และแม่น้ำคะโมกะวะ เป็นประโยชน์ในแง่ความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการอยู่อาศัย
ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 794 พระองค์มาที่นครหลวงแห่งใหม่และมีพระราชดำรัสว่า “I here by name this city Heian-Kyo” แปลว่า “ฉันขอตั้งชื่อเมืองนี้ว่าเฮอันเคียว”
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกียวโตจึงกลายเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างยาวนานถึง 1,074 ปี
เมืองเกียวโต ได้วางรากฐานและพัฒนาทางวัฒนธรรมให้มีความรุ่งเรืองและเข้มแข็งด้านพระพุทธศาสนาจนถึงขีดสุด มีการสร้างวัดหลายแห่งบนเชิงเขาทั้ง 3 แนว เช่น วัดโทจิ (To-ji) และวัดไซจิ (Sai-ji)
นอกจากนี้ มีการวางรากฐานทางวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน เช่น พิธีชงชา พับนกกระดาษ การทอผ้า การเลี้ยงไหม และเครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น
1
⭐ ที่มาของชื่อเมืองหลวงเฮอันเคียว → เกียวโต →ไซเกียว
กล่าวมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจสับสนว่าทำไมบางทีก็เรียกเกียวโต บางทีก็เรียกเฮอันเคียว โดยผู้เขียนจะขออธิบายในส่วนนี้เพิ่มเติม
แรกเริ่มในปี ค.ศ. 794 มีการใช้ชื่อว่า ‘เฮอันเคียว’ แปลว่า นครหลวงอันสงบและสันติซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองหลวงเก่าแก่ของจีนที่ชื่อ ฉางอาน แปลว่าความสงบสุขชั่วนิรันดร์
ประกอบไปด้วย เฮ (平) แปลว่าสงบสุข ราบเรียบ, อัง หรือ อัน (安) แปลว่าสงบ และเกียว (京) แปลว่าเมืองหลวง
บางทีก็มีการเรียกว่า ‘เคียวโนะมิยะโกะ’ มาจากคำว่า ‘เคียว’ และ ‘มิยะโกะ’ แปลว่าเมืองหลวง
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 11 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘เกียวโต’ แปลว่า นครหลวง รากศัพท์มาจากภาษาจีนคำว่า ‘จุงตู’ (京都)
2
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ได้มีการย้ายเมืองหลวงจากเกียวโตไปที่เอโดะ (โตเกียว) จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไซเกียว’ ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงตะวันตก (ให้สอดคล้องกับโตเกียวที่แปลว่าเมืองหลวงตะวันออก) แต่ผลสุดท้ายก็กลับมาใช้เกียวโตจนถึงปัจจุบัน
1
⭐ ผังเมืองนครหลวงเฮอันเคียว
ไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นที่ได้รับอิทธิพลจากจีน หากแต่แนวคิดและการวางผังเมืองก็ได้รับอิทธิพลจากจีนร่วมด้วย
ผังเมืองเฮอันเคียวถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้าย ‘กระดานหมากรุก’ รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกับเมืองฉางอาน โดยพระราชวังหลวงหันหน้าไปทางทิศใต้ตามแบบฉบับเมืองหลวงจีน
1
ส่วนราชการหลักเรียกว่า ไดไดริ (Dai-Dairi) ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจของจักรพรรดิและรัฐบาลถูกวางตำแหน่งไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ
นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งเมืองให้เป็นสัดส่วน เพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า เช่น แบ่งพื้นที่ตลาดฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีการสร้างคูคลอง เพื่ออุปโภคบริโภค มีการตั้งท่าเรือไว้ติดกับแม่น้ำ เพื่อขนส่งสินค้าได้สะดวก
ตั้งแต่ปี 794 จนถึง 1868 เมืองเกียวโตสามารถรักษาสถานะเมืองหลวงมาอย่างนานและสั่งสมวัฒนธรรมของชาติญี่ปุ่นได้อย่างเข้มข้น
อันเป็นผลจากภูมิศาสตร์ของเกียวโตที่มีเทือกเขาธรรมชาติเป็นแนวป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีแม่น้ำไหลผ่านเมืองสะท้อนความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัย
รวมถึงการเป็นสถานที่ประทับของพระจักรพรรดิมาเป็นเวลากว่าพันปี แม้จะมีสงครามกลางเมืองแย่งชิงอำนาจ แต่เมืองเกียวโตก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูตลอดเวลา
ผู้เขียน : ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website :
https://www.bnomics.co
Facebook :
https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit :
https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics
https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube :
https://www.youtube.com/bnomics
Twitter :
https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
●
หนังสือเกียวโตประวัติศาสตร์ พันปี เขียนโดย พีรภัทร ห้าวเหิน
●
https://www.quora.com/Why-did-the-capital-move-from-Nara-to-Kyoto
●
https://www.britannica.com/place/Kyoto-Japan/The-people
เครดิตภาพ : UVM Libraries' Center for Digital Initiatives :: The University of Vermont via Wikicommons Media
เกียวโต
ญี่ปุ่น
ประวัติศาสตร์
9 บันทึก
19
10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
All About History
9
19
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย