27 ก.ย. 2022 เวลา 05:50 • หนังสือ
#129 CWG. 4️⃣ — บทที่ 3️⃣0️⃣ (ตอนที่ 1) : ลูกรักของฉัน พวกเธอกำลังเติบใหญ่และกำลังกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงอันศักดิ์สิทธิ์ของตนเองมากขึ้นในทุกๆวัน
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : How do I, how do they, integrate all of this?
นีล : แล้วผมและคนอื่นๆ จะนำทั้งหมดที่พระองค์บอกมาบูรณาการเข้าด้วยกันได้ยังไงครับ❓
We’ve been given some great insights here about how humans could live if we were an awakened species, but the question now is, how do we make this work in everyday life?
เราได้รับญาณทัศน์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับวิถีชีวิตของมนุษย์ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่ตื่นขึ้นแล้ว แต่คำถามก็คือ เราจะนำวิธีการดำเนินชีวิตเหล่านั้นมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราในตอนนี้ได้ยังไงครับ❓
If I’m in the fire department, I need to change my own behaviors before I can begin to think of producing some kind of change on the planet. Gandhi had it right. I need to be the change I wish to see. But I have not been able to do that to my satisfaction. I’m finding that information is one thing, integration is another.
หากผมคือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจริงๆตามที่พระองค์บอก ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะไปเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนแปลงคนอื่นหรือเปลี่ยนอะไรบางอย่างบนโลกใบนี้
ซึ่งคานธีพูดถูก การเปลี่ยนแปลงแบบใดก็ตามที่ผมปรารถนาที่จะเห็น ผมต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแบบนั้นก่อน การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มที่ตัวผมเองก่อนเป็นอันดับแรก แต่ผมก็ทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ผมไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในตอนนี้เลยสักนิด ผมพบว่าข้อมูลที่เราได้รับเป็นเรื่องหนึ่ง การบูรณาการข้อมูลที่เราได้รับเพื่อนำไปใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยสิ้นเชิง
The great sadness of my life is that I haven’t been able to fully integrate all that I have come to know and understand as a result of our conversations. I haven’t been able to make it a consistent part of my life. I mean, my daily interactions, not just my daily thoughts.
และเรื่องน่าเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็คือ การที่ผมไม่สามารถบูรณาการทุกอย่างที่ผมรู้และเข้าใจที่ได้จากการสนทนาทั้งหมดของเราเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ ผมไม่สามารถทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผมได้ ผมหมายถึง การดำเนินชีวิตตามแบบที่ผมเข้าใจ ไม่ใช่เป็นแค่ความคิดหรือความรู้ที่อยู่แต่ในหัว แต่ไม่เคยนำมันออกมาใช้ในชีวิตเลย
And here’s what I don’t want to do. I don’t want to share with others messages that cannot be actually lived and demonstrated. I’m not interested in pie-in-the-sky, impractical, unworkable, or non-achievable evolutionary goals.
และนี่คือเรื่องที่ผมไม่อยากทำ ผมไม่อยากแบ่งปันข้อมูลอะไรก็ตามที่ผมไม่สามารถทำตามได้ในชีวิตจริง และเห็นผลของการปฏิบัติตามนั้นได้ด้วยตัวเองซะก่อน ผมไม่สนใจกับเป้าหมายของการวิวัฒนาการที่เป็นเหมือนกับวิมานในอากาศ ที่ฟังดูดีแต่ทำตามไม่ได้ หรือใช้ไม่ได้จริง หรือไม่สามารถบรรลุผลตามนั้นได้จริง
A : These goals are achievable, I promise you. Regular, normal human beings have lived their lives in the ways that have been described here.
พระเจ้า : ฉันให้สัญญากับเธอได้เลยว่าเป้าหมายเหล่านี้บรรลุผลได้จริง มีมนุษย์ตั้งเยอะแยะที่ใช้ชีวิตในแบบที่เราคุยกันในที่นี้จนเป็นเรื่องปกติ
.
Q : That may be so, and I am so very glad to know that, but I can tell you that in my experience this has been a huge challenge. I hear you say that I am Love, for example, and that we are all Love; that Love is what we're made of, that it is Who We Are.
นีล : ก็อาจจะใช่ครับ และผมก็ดีใจมากที่ได้รู้เรื่องนี้ แต่จากประสบการณ์ของผม ผมสามารถยืนยันกับพระองค์ได้เลยว่า นี่เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง ก็อย่างที่พระองค์เคยบอกเอาไว้ว่า ผมก็คือความรัก และพวกเราทุกคนต่างก็เป็นความรัก; ว่าความรักคือสิ่งที่สร้างเราขึ้นมา ว่าเราเกิดขึ้นมาจากความรักของพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือสิ่งที่เราเป็นจริงๆหรือตัวตนที่แท้จริงของเรา
Well, you know, I think I’m a loving person, I want to be a loving person, I try to be a loving person, but far too often I say something or do something or am something that is just plain and simply not very loving.
แต่พระองค์รู้ไหมครับว่า ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนที่น่ารัก ผมอยากเป็นคนที่น่ารัก ผม “พยายาม” เป็นคนที่น่ารัก แต่บ่อยครั้งที่ผมทั้งพูด หรือทำบางอย่าง หรือ เป็นในบางสิ่ง ที่พูดง่ายๆว่า ไม่น่ารักเอาซะเลย
Either I’m not loving the Earth, or I’m not loving my myself, or, saddest of all for me, I’m acting in a way that is not very loving toward another.
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้รักโลกมากพอ หรือไม่ได้รักตัวเองมากพอ หรือที่น่าเศร้าที่สุดจากทั้งหมดที่ผมเป็น ก็คือผมกำลังแสดงออกในลักษณะที่รักผู้คนได้ไม่มากพอ
I want to get above that. I want to move past it. I want to go beyond it. I’m entering the first third of my seventh decade on this Earth and I’m really wanting to see more progress. How long, oh God, how long will this take?
ผมอยากเป็นคนที่ดีกว่านี้ อยากจะก้าวข้ามมันไปให้ได้ ผมต้องการไปให้ไกลกว่านั้น ผมต้องการเห็นตัวเองก้าวหน้ามากกว่านี้อย่างแท้จริง เพราะผมเองก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มากว่า 70 ปีแล้ว อีกนานแค่ไหนครับ โอ้ พระเจ้า ผมจะต้องใช้เวลาอีกนานมากแค่ไหนกัน❓
A : You're being very hard on yourself. Many who know you would say you're a very loving person. And so is everyone who has been drawn to this conversation, or has found themselves following this dialogue “by chance.”
พระเจ้า : เธอเข้มงวดกับตนเองมากเกินไปแล้ว หลายๆ คนที่รู้จักเธอ จะบอกว่าเธอเป็นคนที่น่ารัก นั่นรวมไปถึงทุกคนที่ถูกดึงดูดมาที่การสนทนานี้ หรือ ที่กำลังติดตามสิ่งที่เราพูดคุยกันนี้ด้วย “ความบังเอิญ” อีกด้วย
It is true, indeed, of everyone on the Earth. You are, all of you, my wonderful children, growing and becoming more and more of your True Divine Self every day.
ในความเป็นจริงแล้ว เธอ และพวกเธอทุกคนบนโลกบนนี้ คือ ลูกๆอันประเสริฐของฉัน ที่กำลังเติบใหญ่และกำลังกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงอันศักดิ์สิทธิ์ของตนเองมากขึ้นในทุกวัน
It is as I told you in our very first conversation . . .
อย่างที่ฉันเคยบอกเธอไว้ในการสนทนาครั้งแรกของเรา (เล่ม 1) . . .
You are goodness and mercy and compassion and understanding. You are peace and joy and light. You are forgiveness and patience, strength and courage, a helper in time of need, a comforter in time of sorrow, a healer in time of injury, a teacher in times of confusion. You are the deepest wisdom and the highest truth; the greatest peace and the grandest love.
เธอคือความดีงามและความเมตตากรุณา คือความเห็นอกเห็นใจและเข้าอกเข้าใจ เธอคือสันติสุข ความเบิกบาน และแสงสว่าง เธอคือการให้อภัยและความอดทน คือความเข้มแข็งและความกล้าหาญ คือผู้ให้การช่วยเหลือในยามจำเป็น ผู้ให้การปลอบโยนในยามทุกข์ใจ ผู้ให้การเยียวยาในยามบาดเจ็บ คือครูผู้สอนในยามสับสน เธอคือปัญญาที่ลึกล้ำที่สุดและสัจธรรมสูงสุด คือสันติภาพและความรักอันยิ่งใหญ่ที่สุด
You are these things. And in moments of your life you have known yourself as these things. Choose now to know yourself as these things always.
เธอคือสิ่งเหล่านี้ และ ณ ชั่วขณะหนึ่งของชีวิต เธอได้รู้จักตัวเองในฐานะสิ่งเหล่านี้ ว่าเธอเป็นสิ่งเหล่านี้ บัดนี้ จงเลือกที่จะรู้จักตัวเองว่าเป็นสิ่งเหล่านี้เถิด เธอเป็นสิ่งเหล่านี้เสมอมาและตลอดไป
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา