8 พ.ย. 2022 เวลา 02:00 • หนังสือ
ผู้นำคนนั้นสอนให้รู้ว่า Leadership Leader-shit
หนังสือโดย ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ เล่มนี้เป็นหนังสือที่ผูกเรื่องเล่าต่าง ๆ จากแหล่งที่มาหลาย ๆ แหล่ง ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง ภาพยนตร์ กีฬา การเมือง หนังสือต่าง ๆ รวมทั้ง ประสบการณ์การทำงานของคุณท้อฟฟี่เอง เข้ากับ เรื่อง ”ภาวะผู้นำ” ว่าสิ่งที่ผู้นำที่ดีควรมี ควรเป็น ควรปฏิบัติ และสิ่งควรหลีกเลี่ยง ดำเนินเรื่องผ่านเรื่องเล่าที่เล่าได้สนุก ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องและสาระที่ได้รับเป็นอย่างดี มากกว่าการรับสารที่ต้องการสื่อโดยการบอกตรง ๆ เป็นข้อ ๆ เสียอีก ทำให้เห็นภาพชัดเจน และง่ายต่อการนำไปประยุกต์ใช้
ข้อคิดสำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือ “ผู้นำอาจมีได้เพียงหนึ่ง แต่ภาวะผู้นำ ทุกคนสามารถมีได้ และเป็นได้” เรื่องเล่าต่าง ๆ ที่คุณท้อฟฟี่เล่ามานั้น ผู้อ่านสามารถนำข้อคิด ไปใช้ได้ โดยมิจำเป็นต้องเป็นแต่ผู้นำอย่างเดียวเท่านั้น ทุกคนมีภาวะผู้นำได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องนำตัวเอง ทั้งในหน้าที่การงาน ในชีวิตประจำวันหรือในครอบครัว เมื่อนำตัวเองได้ดี เราก็จะสามารถนำผู้อื่น ได้ดีเช่นกัน
นอกจากเรื่องภาวะผู้นำแล้ว หนังสือเล่มนี้ เน้นความสำคัญของการทำงานเป็นทีม เน้นการให้ความสำคัญของคนในทีมแต่ละคน โดยให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม ไม่มีใครเหนือหรือสำคัญไปกว่าใคร และที่สำคัญยังเน้นย้ำหลักสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คือ ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือ “empathy”
ขอยกตัวอย่างข้อคิด 10 ข้อ เกี่ยวกับภาวะผู้นำ หรือสิ่งที่ผู้นำที่ดีควรมี ที่ได้จากการอ่านเล่มนี้
1. เลิกพล่าม: รู้ว่าพูดเพื่อ มีความรู้จริงในสิ่งที่พูด มีความสามารถในการถ่ายทอด ใส่ใจคนฟัง และใส่ใจความรู้สึก; ถามตัวเองเสมอก่อนพูดว่า Does this need to be said? then Does this need to be said by me? And then Does this need to be said by me now?
2. งานและหัวหน้างานสร้างคน(ลูกทีม) คนก็สร้างงานและหัวหน้างานเช่นกัน (bidirectional relationship)
3. Belief preseverance or backfire effect and cognitive dissonance การเชื่อบางสิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา คือ ตรรกะวิบัติที่ผู้นำควรหลีกเลี่ยง
4. “พูดไปก็เท่านั้น” คือ กรอบคิด fixed mindset แนะให้เปลี่ยนกรอบคิดมาเป็น growth mindset ให้มองว่าเป็นปัญหาผู้อื่นในทีมก็เป็นปัญหาของเราด้วย จึงร่วมกันแก้ไขปัญหา และก่อนคิดว่า พูดไปก็เท่านั้น ให้ตระหนักว่า “ถ้าเราไม่พูดอะไรจะเกิดขึ้นตามมา”
5. เปลี่ยนจาก “จะเอาอะไรอีก” เป็น “จะให้อะไรได้อีก” เปลี่ยนจาก “โลกหมุนรอบตัวเรา” ไปเป็น “เราเป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในจักรวาล” นึกถึงตัวเองให้น้อยลง คิดถึงผู้อื่นให้มากขึ้น
6. การสื่อสาร คือ หน้าที่ของผู้นำ นอกจากเป็นการถ่ายทอดข้อมูลแล้ว ยังแสดงถึงทัศนคติของผู้พูด การสื่อสารที่ดี มีสามองค์ประกอบสำคัญ เป้าหมาย สาร และสื่อ เป้าหมาย คือ ผู้รับสารได้ฟังและเข้าใจ สารต้องมีคุณภาพ และสื่อโดยยึดผู้ฟังเป็นศูนย์กลาง
7. ผู้นำที่ดีควรมี healthy ego หรือ ความเชื่อว่า ตัวเองมีดี มากกว่า unhealthy ego หรือ ตัวเองมีดีกว่าคนอื่น healthy ego นี้ ช่วยให้เรามองว่าคนอื่นก็มีดี จึงสร้างโอกาสในการทำงานเป็นทีม ให้ความเชื่อมั่นผู้อื่น เราจึงได้ความเชื่อมั่นกลับมา
8. Empathic leader ผู้นำที่ดี มี outward mindset รู้ว่าเขาต้องการให้เราทำอะไร ก่อนเขาร้องขอ ช่างสังเกต ให้อิสระในการตัดสิน (independent responsible leader) สร้างสิ่งแวดล้อมที่บ่มเพราะนักแก้ปัญหา และเป็น role model ที่ดี
9. ตัวอย่างผู้นำนักแก้ปัญหา ได้แก่ ผู้จัดละครที่ต้องบริหารคน เลือกคนที่ใช่ ใช่ทั้งความสามารถและความอยากทำงาน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคน มีความฝันร่วมกันในงาน รู้ลึกและรู้กว้าง ปรับตัวง่าย ถ่อมตน ใครเยอะมา เยอะตอบแบบผู้ร่วมงานหรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
รับฟังเมื่อเกิดปัญหา ต้องทำ 3 ก. คือ แก้ (ไข) กรอง (คนที่ควรรู้) และ เก็บ (ความรู้สึก) มองคู่แข่งให้เป็นมิตร win-win situation (not winner takes all or zero sum game) เลิกยึดติดกับความสำเร็จเก่า ๆ อย่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับการเปลี่ยนแปลง ให้ใช้การเปลี่ยนแปลงให้เป็นประโยชน์ ความสุขในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ จงอยู่กับปัจจุบัน
10. หน้าที่ของผู้นำและผู้ร่วมงาน ได้แก่ การร่วมกันทดลอง ลองผิดลองถูก และนำมาแก้ไข ช่วยให้งานสำเร็จได้ เติมเต็มสิ่งที่องค์กรขาด และทำให้องค์กรดีขึ้น การแก้ปัญหาบางครั้งต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ พยายามเน้นกระบวนการ มากกว่า คำตอบสุดท้ายในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ พยายามออกไปดูโลกภายนอกบ้าง ความคิดสร้างสรรค์จึงบังเกิดได้ ใส่ใจรายละเอียดน้อย ๆ แม้ว่าจะน้อย แต่อาจเปลี่ยนโลกได้ การทำงานของเราสามารถเปลี่ยนโลกได้ และสร้างความหมายให้ชีวิตได้เช่นกัน
นี่เป็นเพียงข้อสรุปในส่วนแรกของหนังสือเท่านั้น ถ้าได้อ่านตัวเล่ม เราจะได้อ่านเรื่องราวที่ทั้งสนุก น่าติดตาม ให้ข้อคิด รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับสไตล์การเล่า การเขียนของคุณท้อฟฟี่ ทำให้เล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าหามาอ่านมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะคนทำงาน น่าจะอินไปกับเรื่องเล่าในหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา