13 ต.ค. 2022 เวลา 23:31 • ไลฟ์สไตล์
“ทำ 3 ข้อนี้ให้ได้”
“ … สรุปก็คืองานพัฒนาจิตมี 3 งาน
อันที่หนึ่งฝึกจิตใจให้อยู่กับเนื้อกับตัว
อันที่สองแยกขันธ์ให้ได้
อันที่สามเห็นขันธ์แต่ละขันธ์
เห็นสภาวะแต่ละสภาวะตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก
ดูสิมันจะโง่จนไม่ได้มรรคได้ผลเชียวหรือ
ถ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ชาตินี้ไม่ได้ชาติต่อไปก็ง่ายๆ แล้ว
ไม่ใช่ทุกคนจะได้ หลวงพ่อไม่ได้ชี้ขาดว่าทุกคนจะต้องได้ในชาตินี้
แต่ถ้าเราทำไม่เลิก แล้วเราไม่ได้มีวิบากอะไรรุนแรง
วันหนึ่งเราก็ต้องได้
เพราะฉะนั้นทำ 3 ข้อนี้ให้ได้ คืองานพัฒนาจิต
ถ้าพูดเทียบกับปริยัติ อันแรกก็คือ การพัฒนาสัมมาสมาธิขึ้นมา
งานที่สองคือ การเจริญปัญญาเบื้องต้น
อันที่สามคือ การเจริญให้เกิดวิปัสสนาปัญญา
เราฝึกไป ถ้าทำ 3 งานนี้แล้วมันยังไม่ได้ ก็ผิดปกติแล้ว
บางคนไม่ได้ มี ทำถูก ทำมากพอแล้วยังไม่ได้
บางทีมันมีวิบาก
อย่างมันทำสิ่งที่เรียกว่า อริยูปวาโท ดูหมิ่นพระอริยะ
มันไม่ได้หรอก มันเป็นกรรมที่หนัก
อย่างเราดูถูก เราไม่รู้ยุคนี้ใครเป็นพระอริยะ
สมมติเราไปดูถูกครูบาอาจารย์ แล้วท่านเกิดดีขึ้นมา
เราไปประณามท่านขึ้นมา
1
อย่างช่วงที่ผ่านมาก็มี ไปดูถูกหลวงปู่แสง
หลวงพ่อไม่ยืนยันว่าหลวงปู่แสงเป็นพระอริยะ
แต่ถ้าท่านเป็นพระอริยะ
คนที่ประณามท่านก็เป็นอริยูปวาโท ไม่มีทาง
อีกพวกหนึ่งที่จะทำไม่ได้ ก็คือพวกที่มีกรรมหนักจริงๆ
พวกทำอนันตริยกรรม ฆ่าพ่อฆ่าแม่
พวกนี้ทำไม่ได้หรอก
อีกพวกหนึ่งที่ทำไม่ได้ คือพวกที่มุ่งพุทธภูมิ
เขาจะทำได้จนถึงจุดที่ทำวิปัสสนา
จนจิตเป็นกลางต่อสภาวะทั้งหมดทั้งปวงแล้ว
แต่มรรคผลไม่เกิด
เพราะเขาหวังของใหญ่กว่าที่จะเป็นสาวก
แต่ถ้าเป็นคนอื่นๆ ทั่วๆ ไปอย่างพวกเรา
เราไม่เคยฆ่าพ่อฆ่าแม่
อย่างเป็นฆราวาสไม่สามารถทำให้สงฆ์แตกแยกได้
สังฆเภท คนที่ทำสังฆเภทได้คือพระเท่านั้น
โยมทำสังฆเภทไม่ได้ แค่สนับสนุนให้พระทำสังฆเภท
ก็กรรมหนักเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ใช่พระ แล้วเราไม่เคยฆ่าพ่อฆ่าแม่
เราไม่ได้ทำอนันตริยกรรมไป 3 ข้อแล้ว
เราไม่เคยทำร้ายพระพุทธเจ้า เราไม่เคยฆ่าใคร
เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ฆ่าพระอรหันต์
อนันตริยกรรม 5 ข้อ พวกเราไม่มี
ฉะนั้นเราระวังปากไว้เท่านั้น อย่าเที่ยวดูถูกคนอื่น
ถ้าจิตเราไปปรามาสคนอื่น ขอขมาเสีย
อนันตริยกรรมแก้ไม่ได้ อริยูปวาโทขอขมาได้
มันไม่เท่ากัน
1
ส่วนหวังพุทธภูมิ ถ้ายังหวังอยู่อริยมรรคก็ไม่เกิด
ถ้าเราไม่ติดเงื่อนไขเหล่านี้
แล้วเราภาวนาทำถูก แล้วทำให้มาก
เราควรจะได้อะไรบ้างในชาตินี้
โสดาบันไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องยากเลย
รักษาศีล 5 ให้ดี แล้วก็ทำอย่างที่หลวงพ่อบอก
ฝึกจิตใจให้มันรู้เนื้อรู้ตัวไว้ แล้วก็แยกขันธ์
กายส่วนกาย จิตส่วนจิต เป็นคนละส่วน
เห็นแค่ว่าเป็นคนละส่วน
บางคนได้ยินว่าแยกขันธ์ก็แยกพิสดาร
ถอดจิตขึ้นไปอยู่บนอากาศแล้วมองลงมาที่กาย นี้ไม่ใช่
อันนั้นแยกด้วยกำลังของฌาน
แยกจิตไปอยู่กลางอากาศอย่างนั้น ไม่ใช่แยกอย่างนั้น
แยกด้วยความรู้สึก กายก็อย่างหนึ่ง จิตก็อย่างหนึ่ง
ไม่ได้ถอดจิตออกจากร่าง
อยู่ด้วยกันแต่เป็นคนละอัน เหมือนเรามีปัญญาแยก
สมมติเรามีน้ำเขียวน้ำแดง ทุกวันนี้เห็นน้ำแดงเยอะ อยู่ตามศาลพระภูมิ เลี้ยงน้ำแดงกัน
ถ้ามีปัญญาจริงจะรู้น้ำไม่มีสี
ไอ้แดงๆ เป็นสิ่งที่เจือปนในน้ำ แยกอย่างนี้
ปัญญามันแยกได้ แยกขันธ์ก็อย่างนั้น
น้ำแดง สีแดงกับน้ำมันก็ยังอยู่ด้วยกัน
1
เวลาแยกขันธ์มันก็เห็นกาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันก็อยู่ด้วยกันแต่มันแยกกัน เหมือนน้ำกับสีแดงมันแยกออกจากกัน
กายกับจิตมันอยู่ด้วยกัน
แต่มันแยกออกจากกัน เป็นคนละอันกัน
1
ค่อยๆ ฝึก โอกาสที่จะได้มรรคได้ผลในชีวิตนี้
โสดาบันไม่ใช่ยากอะไรนักหนาหรอก
ทำให้ถูก ทำให้พอ อดทน
ทำแล้วก็ขี้เกียจ ไม่ได้หรอก
นี้เป็นการสรุป คล้ายๆ เวลาเรียนจะจบแล้ว
พวกพระเข้าพรรษาเรียนจะจบแล้ว
ก็สรุปรวบยอดให้ฟัง เอาไปทำเอา
ถ้านั่งเพ่งเอาไปเรื่อยๆ ชาติหน้ายิ่งเพ่งเก่งกว่านี้อีก
ไม่ได้เรื่องหรอก …”
.
หลวงพ่อปราโมทย์​ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
8 ตุลาคม 2565
อ่านธรรมบรรยายฉบับเต็มได้ที่ :
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา