17 ต.ค. 2022 เวลา 13:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔎 [INVESTMENT] - ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรติดตามจากการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
📝 บทความโดย T-Da
3
นักลงทุนที่ลงทุนในจีนอยู่แล้ว หรือกำลังหาจังหวะเข้าลงทุนในจีน ต้องไม่พลาดที่จะติดตามการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ เพราะประธานาธิบดีจะอ่านรายงาน Political Report ที่จะกล่าวถึงทิศทางของประเทศจีนในระยะกลาง-ยาว และการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายต่างๆ
นอกจากนี้การประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ที่จัดขึ้นทุกๆ 5ปี ซึ่งกินเวลาราว 1สัปดาห์นี้ ยังมีเป้าหมายหลักเพื่อกำหนดคณะกรรมการลำดับต่างๆ ในพรรค (Party Line) และเป็นการกำหนดแนวทาง (Guide Line) ในภาพใหญ่เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศในระยะกลาง-ยาวอีกด้วย
📝 ในส่วนของ Party Line นั้นจะเริ่มจาก
1
1) สมาชิกสภาพแห่งชาติจีน 2,300 คน ที่มารวมตัวกันเพื่อคัดเลือก "สมาชิกคณะกรรมการกลาง" 200 คน และสมาชิกสำรองคณะกรรมการกลางอีก 170 คน
2) จากนั้นสมาชิกคณะกรรมการกลางจะคัดเลือก "สมาชิกกรรมการกรมการเมือง" 25 คน (member of Politburo) ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจผ่านการประชุม Politburo ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างน้อยเดือนละครั้ง
3) จากนั้นสมาชิกกรรมการกรมการเมืองจะคัดเลือก "คณะกรรมการกรมการเมือง" 7 คน (Politburo Standing Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่กุมอำนาจสูงสุด และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายระดับสูง รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ Xi Jinping จะได้เป็นหนึ่งใน "คณะกรรมการกรมการเมือง" ทั้ง 7 คน โดยอัตโนมัติในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซึ่งถูกคัดเลือกโดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน)
นั่นหมายความว่าการประชุมสมัชชาใหญ่ฯ นี้ก็มีส่วนสำคัญในการคัดเลือกคนที่จะมากำหนดแนวทางการเปลี่ยนแปลงของประเทศจีนในระยะกลาง-ระยะยาวด้วย เพราะสมาชิกแต่ละคนอาจมีลักษณะ "เน้นการเติบโต" (pro-growth) หรือ "เน้นการปฏิรูป" (pro-reform) ที่แตกต่างกันไป คล้ายกับคณะกรรมการธนาคารกลางที่มีทั้ง "สายเหยี่ยว" (Hawkish) และ "สายพิราบ" (Dovish) นั่นเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วนโยบายต่างๆ ก็จะถูกจัดลำดับความสำคัญตาม Guide Line เป็นสำคัญ
2
ในส่วนของ Guide Line นั้น โฆษกของการประชุม นาย Sun Yeli ได้กล่าวถึงวาระแห่งชาติสำหรับ 15-30ปี ข้างหน้าว่าจะสร้างประเทศสังคมนิยมแบบทันสมัยอย่างยิ่งใหญ่ในทุกแง่มุม (building a great mordern socialist country in all respects) โดยจีนจะลงลึกในการปฏิรูปด้านอุปทานเพื่อให้ประเทศเติบโตต่อไปได้อย่างแน่นอน (deepen supply-side reform to ensure the nation's continued growth) ในขณะที่นโยบายการจัดการ Covid-19 ของจีนนั้นเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลคุ้มค่าแม้จะแลกมาด้วยความยากลำบากในเชิงเศรษฐกิจซึ่งยากจะเลี่ยงได้
2
จากนั้นประธานาธิบดี Xi Jinping ได้อ่านรายงาน Political Report ในวันเปิดประชุม เริ่มด้วยการชื่นชมความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ในการลดความยากจน การปกป้องอธิปไตยของประเทศ และการทูต ที่ทำให้สามารถรักษาเสถียรภาพทางสังคมไว้ได้ ซึ่งในรายงานฉบับเต็มนั้นมีการใช้คำว่า "ความปลอดภัย" (security หรือ safety) รวมทั้งสิ้น 89 ครั้ง ซึ่งมากกว่าการประชุมครั้งก่อนที่ใช้คำนี้ 55 ครั้งในขณะที่มีการใช้คำว่า "ปฏิรูป" (reform) ในการประชุมครั้งนี้ 48 ครั้ง ลดลงกว่าการประชุมครั้งก่อนที่ใช้คำนี้ 68 ครั้ง
1
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญอีก 4 ประเด็น ได้แก่
1) นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) - จีนจะให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดที่เปลี่ยนไปและความเข้าใจในเชื้อไวรัสที่มากขึ้นจะทำให้กลยุทธ์การจัดการโรคมีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ตรงจุดมากขึ้น และได้ผลมากขึ้น โดยผู้นำระดับสูงที่นั่งประชุมในแถวหน้าล้วนแต่ไม่สวมหน้ากากอนามัยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้นำอย่าง Hu Jintao และ Wen Jiabao ในวัย 80ปี, Song Ping ในวัย 105ปี และ Politburo Standing Committee อีกหลายท่านในวัยสูงอายุ
3
2) การพัฒนาประเทศยังเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Development is the top priority for the Party) - มีการเน้นย้ำว่าจะยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งมีการกำหนดเป้าหมาย GDP per capita ว่าจะต้องอยู่ในระดับเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วขั้นกลาง (medium-level developed country) ภายในปี 2035 คล้ายกับการประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ครั้งที่ 18 เมื่อปี 2012 ที่มีการประกาศว่า GDP ในปี 2020 จะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 2เท่าเทียบกับปี 2010
2
นับเป็นสัญญาณที่ดีเพราะการประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ครั้งที่ 19 เมื่อปี 2017 นั้นไม่มีการกล่าวถึงเป้าหมาย GDP เลย!
3) นโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity Policy) - ยังคงมีการกล่าวถึงนโยบายนี้ว่าจะมีการปรับการกระจายรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นนโยบายเดิมต่อจากการประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ครั้งที่ 19 พร้อมกันนี้จะเร่งรัดการสร้างระบบนิเวศน์นวัตกรรมและเทคโนโลยีให้มีศักยภาพที่แข่งขันได้ในระดับโลก
4) นโยบายเกี่ยวกับไต้หวันและฮ่องกง (Policy towards Taiwan & Hong Kong) - จีนจะไม่ละทิ้งจุดยืนของนโยบายที่จะรวมชาติอย่างสันติ แต่ยังคงสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะใช้กำลังหรือวิธีการอื่นใดตามความจำเป็น (ซึ่งถ้าตีความตามกฏหมายห้ามแยกประเทศที่บังคับใช้เมื่อปี 2005 ก็หมายความว่าจีนสามารถใช้วิธีที่ไม่ใช่ทางสันติได้หากไต้หวันประกาศเอกราช) ส่วนของฮ่องกงนั้นได้ผ่านความวุ่นวายในปี 2019 ซึ่งจีนควบคุมสถานการณ์ให้ฮ่องกงกลับมามีเสถียรภาพและพร้อมที่จะเติบโตต่อไปได้แล้ว
📝 จากประเด็นสำคัญใน Political Report และบริบทแวดล้อมต่างๆ น่าจะพอสรุปได้ในเบื้องต้นว่า
1) จีนยังยืนยันไม่ละทิ้ง Zero-Covid Policy ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะหาทางออกอย่างไร แต่อาจจะมีการปรับวิธีการจัดการโควิดในรูปแบบที่ต่างจากเดิม
1
2) หากตีความว่าจีนอาจจะเพิ่ม GDP per capita ขึ้นเป็น 2 เท่าภายในระยะเวลา 15ปี (2020 - 2035) หมายความว่า GDP จีนจะต้องเติบโตเฉลี่ย 4.7% ต่อปีตั้งแต่ปี 2021-2035 ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายภายใต้โครงสร้างประชากรที่อายุเพิ่มขึ้น, ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา, และความขัดแย้งกับมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ
3) ยังมีการกล่าวถึงนโยบาย Common Prosperity ที่ทำให้จีนเข้ามาคุมเข้มทั้งเรื่องหนี้สิน ภาคอสังหาริมทรัพย์ การศึกษา และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ตั้งแต่เมื่อ 5ปีก่อน แต่น่าจะเบาลงบ้างเพราะต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศจีนในเวทีโลก
1
4) ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-ไต้หวันยังคงมีอยู่ ซึ่งรวมถึงการใช้กำลังด้วย แต่มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายการคุมเข้มเกี่ยวกับฮ่องกงแล้ว (แต่ยังยึดแนวทางหนึ่งประเทศสองระบบอยู่)
5) แม้จะมีการพูดถึงการพัฒนา "development" และมีการตั้งเป้าหมายของ GDP per capita แบบกว้างๆ แต่การพูดถึงความปลอดภัย "security หรือ safety" ยังมีน้ำหนักมากกว่า จึงยังคาดหวังไม่ได้ที่จะเห็นการกลับลำเชิงนโยบายจาก pro-reform เป็น pro-growth แบบเต็มที่
สำหรับรายละเอียดของนโยบายในด้านต่างๆ ที่จะทยอยออกมาสอดรับกับ Guide Line นั้น นักลงทุนคงต้องติดตามต่อในการประชุม Politburo รอบเดือน ธ.ค. 2022 นี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2023 ด้วยว่าการปรับ Party Line จะมีผลต่อทิศทางของประเทศจีนอย่างไรในอนาคต
4
🔊 นักลงทุนท่านใดสนใจเข้ามาร่วมกลุ่ม LINE เพื่อศึกษาการลงทุนที่ดีไปกับทีม Trader KP สามารถติดต่อได้ที่ LINE Official @traderkp (https://lin.ee/a3S9iGv) ได้เลยครับ การลงทุนที่ดีอยู่ห่างจากคุณเพียงไม่กี่คลิก 👍😊
หรือรับการแจ้งเตือนข่าวด่วนทาง LINE กับ Trader KP ได้ที่ - https://bit.ly/3OPOvYV
#ทันโลกกับTraderKP #BlockditExclusive #TDa
โฆษณา