27 ต.ค. 2022 เวลา 03:47 • การตลาด
แตกต่างอย่างไรให้ชนะใจคน
Creative Differentiation
กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
คุณบี สโรจ เลาหศิริ
ที่ปรึกษาการตลาด เจ้าของเพจสโรจขบคิดการตลาด
อดีต Head or Marketing Transformation Bluebik
วันนี้เราอยู่ในโลกที่หมุนและเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เทคโนโลยีทำให้เราต้องปรับตัวตลอดเวลา digital disruption ทำให้ชีวิตของผู้ประกอบการง่ายขึ้น คือมีเครื่องมือเยอะขึ้น เข้าถึงลูกค้าและ resource ต่าง ๆ ได้มากขึ้นก็จริง แต่ในขณะเดียวกันลูกค้าก็เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ทำให้ทุกคนต่างมีทางเลือกมากมายมหาศาล
เช่นแต่ก่อนถ้านึกถึง skincare ก็มีแค่ Brand ใหญ่ ๆ แข่งกัน Unilever VS P&G … วันนี้เหรอคะ แค่ search (ที่จริงไม่ต้อง search ก็ได้นะ แค่คิดพี่มาร์คก็รู้แล้ว 555) มี brand skin care เพียบบบบบ เต็ม feed เราไปหมดเลย จะเอา global, local ระดับไหน มีคร๊บบบ สั่งซื้อได้แค่ปลายนิ้วทุกสิ่งติง
ทุกธุรกิจทุกผลิตภัณฑ์อยู่ในสถานการณ์เดียวกันหมดนะคะ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สินค้าสุขภาพ ความงาม อะไรใด ๆ เข้า social media ไม่ว่าจะ Facebook, IG, TikTok, ect … มีคู่แข่งเพียบ ลูกค้ามีทางเลือกละลานตาละลานใจจริง ๆ
แล้วเราจะทำยังไงให้เราโดดเด่น ... แตกต่างเหนือคู่แข่งที่มีมากมายเป็นร้อยเป็นพันกันดี
“Stop competing to be the best.
Compete to be U N I Q U E”
Michael E. Potter
โลกทุกวันนี้ไม่ต้องการคนที่ดีที่สุด แต่ต้องการ “คนที่แตกต่างอย่างมีคุณค่า” จงเป็นคน ๆ นั้น เอ๊ะ ... แล้วดีที่สุดมันไม่ดียังไง? ลองคิดดูว่าเราเคยเจอสิ่งที่ดีที่สุดจริง ๆ ไหม ดีที่สุดของเรามันดีที่สุดของคนอื่นหรือเปล่า เราชอบเราว่าดี คนอื่นอาจจะว่าไม่ดีก็ได้เนาะ #ดีของเราไม่เท่ากัน หรือแม้แต่ตัวเราเองในช่วงเวลาต่างกันยังชอบหรือรู้สึก “ดี” กับสิ่งต่าง ๆ ต่างกันเลย
เก้าอี้ใน conference แบบ theatre ที่คนจัดเลือกมาให้นุ่มกว่าและใหญ่กว่าปกติ มันอาจจะดีที่สุดละสำหรับคนที่ชอบฟัง แต่คนที่อยากจดแบบเบ็นก็คิดว่าน่าจะดีกว่านี้เนาะ ถ้ามันเป็นเก้าอี้แบบ lecture ส่วนคนที่สูงวัยก็อาจจะอยากได้ที่มันเอนได้ ergonomic chair ต้องมา ดังนั้น ergonomic chair จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนกลุ่มนี้
ถ้าอยากดีที่สุด ยังไงเราก็ไม่มีวันเป็นที่สุดได้ ก็เหมือนทำร้านกาแฟ เราไปเรียนกับ barista ที่ดีที่สุดในโลก บินหาเม็ดกาแฟที่ดีที่สุดมาจากทั่วโลก ถ้าจะไปทาง “ดีที่สุด” ไม่ว่าเราจะยังไง เราก็ดีที่สุดได้แค่เท่ากับร้านที่ดีที่สุดร้านนั้น ไม่มีทางแตกต่างได้ ...
ดังนั้นในวันที่ผู้บริโภคมีทางเลือก กลยุทธ์ของเราคือต้องเลือกเช่นกันว่าจะทำและไม่ทำอะไร คุณบีแนะนำให้เราเลือกที่จะแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และมีคุณค่ากับกลุ่มเป้าหมายของเราให้ดีที่สุด สรุปง่าย ๆ คือแตกต่างให้ดีที่สุด เลอค่าที่สุดนั่นเองค่ะทุกคน 😊
Think ahead of the Competitors
เรามีคู่แข่งเราจึงต้องแตกต่าง ถ้าอยู่ในธุรกิจผูกขาดไม่มีคู่แข่งเล้ยยยยย อ่ะ แน่นอนว่าเราจะทำอะไรก็ได้อ่ะเนอะ เพราะยังไงก็ชนะ ยังไงลูกค้าก็ต้องเลือกเราอยู่ดี (แถวบ้านเรียกอีกอย่างว่าไม่มีทางเลือก ซึ่งคงเป็นไปได้ยากมาก ๆ อยู่แล้ว) เมื่อมีคู่แข่งมากมายคล้ายฝูงลิง เราจึงต้องคิดให้เหนือ ต้องก้าวข้ามไปให้ชนะคู่แข่งให้ได้
How…??
คุณบีมีสมการความคิดสร้างสรรค์มาฝากให้เราเอาไปทดลองคิดและลงมือทำกันดูค่ะ
Creative Differentiation Equation:
Competitive Strategy
x Marketing Mixes
สมการนี้มี 2 ข้างค่ะ ข้างหนึ่งคือ Competitive Strategy (กลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบ) อีกข้างคือ Marketing Mixes (ส่วนผสมทางการตลาด) เอา 2 ตัวนี้มา x กันเราก็จะได้ไอเดียกิ๊บเก๋ยูเรก้าพาราไดซ์ว่าเราจะสร้างความแตกต่างในมิติไหนได้บ้าง 😊
เรามาเริ่มกันที่ฝั่งซ้ายก่อนนะคะ ว่ามีอะไรให้เราเลือกเอาไป X ได้บ้าง
⭕ Competitive Strategy
จากตำราของคุณปู่ Michael E. Potter กลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบมี 2 ตัวค่ะคือ differentiation และ cost leadership แต่โลกผ่านมาถึงทุกวันนี้แล้วคุณบีบอกว่า 2 ตัวอาจจะไม่พอ เพราะเราอยู่ในยุคที่รวดเร็ว ยุคที่มีเรื่องของ digital และ data เป็นหัวใจสำคัญ
คุณบีเลยให้เพิ่มมาอีก 4 ตัว รวมกันเป็น 6 กลยุทธ์เจ๋ง ๆ ใน New Competitive Strategy
- differentiation
- cost leadership
- speed
- data driven
- accessibility
- collaboration
1.
differentiation
ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน คุณบีใช้คำว่า “แตกต่าง อย่างมีคุณค่า ต่อผู้บริโภค” ขีดเส้นใต้คำว่า “อย่างมีคุณค่า” นะคะทุกคน ต่างจริงแต่ไม่มีประโยชน์อะไรกะใครก็ไม่ได้นะวิ เช่นบอกว่าฉันต่างนะ ไข่เจียวฉันใหญ่ที่สุดในโลก ... เพื่อ!!! … แกจะใหญ่ไปทำไม ใครจะกินหมดดดดด ... เนี่ยเค้าเรียกแตกต่างอย่างไร้ประโยชน์ ไม่ดี ไม่เอานะไม่ทำ...
แกจะต่างยังไงก็ได้นะเว้ย จะเป็น world first ครั้งแรกในโลก จะ biggest ใหญ่ที่สุดในโลก เป็น the new news, the out of norm, the no one ever doing it, the hardest, the craftest อะไรใด ๆ ได้หมด แต่ที่สำคัญที่สุด…ให้ขีดเส้นใต้ไว้เสมอ
It must be matter for people.
มันต้องมีคุณค่าสำหรับผู้คน มันจึงจะ “ขาย” นะ โอเคนะทุกคน
2.
cost leadership ความได้เปรียบเรื่องต้นทุน (ต้นทุนต่ำหรือทำได้ดีกว่าชาวบ้านชาวช่องแหละเนาะ) เรามีกระบวนการบางอย่างที่ทำให้เรากำหนดราคาได้ต่ำกว่าตลาด โดยที่ไม่ใช่การขายตัดราคา แบบว่าขายแล้วยังอยู่ได้อ่ะนะ ไม่ใช่ขายขาดทุนแข่งกัน ... เพื่ออออ!!!
3.
speed ชนะที่ความเร็ว จะเร็วในขั้นตอนไหนกระบวนไหนก็ว่ากันไป
4.
data driven มีและใช้ข้อมูลที่คู่แข่งไม่มีเพื่อการตัดสินใจหรือเพื่อ support & service ผู้บริโภค
5.
accessibility ทำให้เราเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ไปไหน ๆ ยังไงก็เจอ
6.
collaboration จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน อย่างที่เค้าว่าค่ะไปคนเดียวอาจไปได้ไม่ไกล ยุคนี้เป็นยุคของการจับมือกัน การมีพันธมิตรมาจากต่างน่านน้ำหรือต่างอุตสาหกรรมกันจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ที่แตกต่างได้อย่างนึกไม่ถึงเลยค่ะ
และนั่นคือด้านซ้ายของสมการค่ะทุกคน เป็นการสร้างหรือหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันนั่นเองค่า
มาถึงฝั่งที่ 2 คือฝั่งขวากันบ้าง นั่นก็คือ
⭕ marketing mixes
เดิม ๆ ที่เรารู้กันก็คือ 4Ps หรือ Product, Price, Place, Promotion แต่เพื่อให้ไอเดียบรรเจิดมากขึ้น กระฉูดหนักขึ้น คุณบีเพิ่มของเล่นในสมการข้างซ้ายให้เป็น 9Ps ค่ะ
- Proposition
- Product
- Package
- Price
- Place
- Promotion
- Process
- People
- Physical Evidence
1. Proposition >> จุดยืนทางการตลาดของเรา ไปสู่ขอ (propose) เค้าแล้วให้สัญญากับเค้าว่าอะไร
2. Product >> สินค้า บริการของเราซึ่งต้องแตกต่าง แต่ต้องสอดคล้องกับข้อเสนอหรือจุดยืนของเรานะ เช่น ถ้าเราบอกว่าเราจะส่งมอบประสบการณ์ที่มีความสุขให้กับครอบครัว สินค้าบริการของเราก็ต้องทำให้ทุกคนในครอบครัว enjoy ช่วงเวลาดี ๆ ได้ร่วมกัน ... ไรงี้
3. Package วิธีการนำเหนอสินค้าของเราแหละ สินค้าอย่างเดียวกันเรานำเสนอได้หลายแบบ แซลมอนจะมาเป็นตัว ทำเป็นซูชิ ซาซิมิ หรือจะทำ salmon cake ก็ได้ ... เอาที่เหมาะกะจุดยืนเราน่ะนะ
4. Price >> ราคา ตั้งยังไงให้แตกต่าง ... อันนี้หมายรวมไปถึงส่วนลดด้วยนะคะทุกคน
5. Place >> ช่องทางการขาย
6. Promotion >> การสื่อสารการตลาด การโฆษณา การ PR ตั่งต่าง ... promotion ที่ว่านี้ไม่ใช่การลดแหลก เอ้อ ลด แลก แจก แถมนะคะทุกคน อันนั้นคุณบีรวมอยู่ในข้อ 4 คือ Price ค่ะ promotion ในข้อนี้มาจาก promote … promoting คือการสื่อสารออกไปให้คนรู้ว่ามีเราอยู่ตรงนี้ ... ยู้ฮูวววว
7. Process >> ขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ ในร้าน หรือในการใช้สินค้าและบริการของเรา มันแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
8. People >> น้อนพนักงานของเราเป็นยังไง ต่างไหม
9. Physical Evidence >> หน้าร้านของเราจะออนไลน์ออฟไลน์ก็นับหมดนะคะ อะไรที่ทำให้เค้า “เห็น” และ “มีประสบการณ์” กับสินค้าของเรานั่นเองค่ะ
Let’s differentiate!!!
เอา 2 ฝั่งนี้มา x กัน
6 new competitive strategy
x 9 new marketing mixes
เราจะได้ creative differentiation idea ไว้เป็นลูกเล่นมากถึง 54 ไอเดียกันเลยทีเดียวค่ะ ไขว้ไปไฝว้กันให้สนุกไปเลยยยยย นี่คือ exercise ในการระเบิดสมองประลองไอเดียสำหรับทุกคนค่า
54 Ideas ... Kaboom!!!
❤❤ Case Studies ❤❤
คุณบีมีเคสที่ทดลอง X มาให้เราสนุกตามกันไป 10 ไอเดียค่ะ ป่ะ ตามไปฟังกันค่ะ
❌ Differentiation x Proposition
- Homeburg … จุดขายคือเป็นร้าน burger ที่เหมือนมากินบ้านเพื่อน ไม่ mass เพื่อนทำให้เพื่อนกิน ขายความละเอียดละเมียดพิถีพิถัน กว่าจะทำเสร็จอันนึงปาไป 20-30 นาที เปิด mass ไม่ได้แน่ ๆ และ รอกันหิวตายก่อนพอดี
ร้านนี้จึงเปิดรับลูกค้าเป็นรอบ ๆ รอบนึงกินเวลา 2 ชั่วโมง ... และรับรอบละ 4 คนเท่านั้น ที่เหมือนบ้านเพื่อนไปกว่านั้นคือไม่มีราคา!!! เพื่อนกันไง กินแล้วก็หยอดเงินช่วยค่าอาหารเท่าไหรก็ได้ที่พอใจ (แต่การพูดว่าถ้าคิดว่ามื้อนี้มีค่าเท่าไหร่ก็หยอดเท่านั้น นี่มันช่างรว้ายยย ... แหม่ ใครจะกล้าทำร้ายจิตใจเพื่อนเนาะ หยอด 10 บาทเพื่อนอาจจะถีบ 555)
นี่คือการนำเสนอที่แตกต่าง และมีคุณค่า ทำให้ร้านมีจุดขายที่โดดเด่นขึ้นมา อู้ยยย มันแปลกอ่ะเนาะ มันยากอ่ะเนอะ ก็เล่าลือกันเลยทีนี้ คนเก๊าะอยากมาลองกัน คิวจองแน่นนนนน...ไปอี๊ก
- Refill Station >> ปั๊มน้ำยา >> ตอบโจทย์เรื่อง sustainability จุดขายคือเป็นร้านที่เรานำขวดจากบ้านมาเติมน้ำยาอะไรก็ได้ที่เราต้องการ ชั่งน้ำหนัก และจ่ายเงิน การเป็นลูกค้าร้านนี้ก็เท่ากับว่าเราช่วยรักษ์โลกด้วย
ความที่มีจุดยืนชัด แข็งแกร่งและแตกต่าง ทำให้ Refill Station ขยาย SKU ไปหา product อื่น ๆ ที่มี “ภาพ” เดียวกันได้ทั้งหมดเลย ex. หลอด reusable ช้อนส้อม กล่องข้าว ขวดน้ำ ที่กรองชา ถุงผ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย อะไรก็ได้ที่มี promise เดียวกัน “Low Waste & Bye-Bye Single-used”
❌ Differentiation X People
- Karen’s Diner … ขายพนักงานที่ถ่อยที่สุดในโลก 55 (ตั้งชื่อบอกเลยว่ามานี่แกจะเจอมนุษย์ป้านะยะ 555 Karen เป็น American Slang หมายถึงมนุษย์ป้าด้วยน่ะค่ะ 55 ชอบ) คือมานี่อาหารอร่อย แต่จะได้ประสบการณ์การโดนด่าตลอดเวลา สั่งช้าด่า เปลี่ยนของด่า มีความอยากได้อะไรพิเศษด่า สั่ง diet coke + extra cheese ก็จะโดน bully มิใช่น้อย ... ในเมืองไทยก็มีบางร้านนะคะที่ขึ้นชื่อว่าปากระ...ร้ายยยย
เบ็นเจอร้านยำมะม่วงร้านนึงแถวบ้าน ป้าหน้าโหดปากร้ายสุด ๆ เหวี่ยงลูกค้าตลอดเวลา แต่คนเยอะม๊ากกกก ต่อคิวกันยาววววตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด คือของแกอร่อยน่ะแหละ ทุกคนเลยทน ๆ กันไป (แต่เบ็นยอมแพ้ มันเครียด 555 อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเนาะ จริตใครจริตมัน)
- สถานี้มีหอย … ขายหนุ่ม ๆ ใส่ชุด baby doll มาแด๊นซ์กันให้ระเบิดเถิดเทิง สาว ๆ ชอบบบบ 555 >> ความแปลกและฮานี่ทำให้ได้ media ไปอี๊กกกก ลูกค้าตรึมเช่นกัน
❌ Differentiation x Package
- Sprinkle ... ขายน้ำยังไงให้แตกต่าง ขาย design กันไปจ้ะ เพิ่ม emotional value ด้วยการออกแบบขวดให้สวยสะกด เรียกว่าโดดเด่นแตกต่างเป็นสีสันของวงการน้ำดื่ม จนได้ Red Dot Design Awards ... จากนั้นก็ต่อยอดทำ Arts Collection ทำให้มีคนเริ่มสะสม >> ไปไกลถึงขั้น collab กับ brand ออกมาเป็น Limited Edition ต่าง ๆ เช่น Star Wars ให้แฟน ๆ ตามเก็บกันไปอีก
- หมูทอดเบรคแตก … ทำเค้กข้าวเหนียวหมูทอด
- ทุเรียน พอหอมปากหอมคอ ... ไม่ขายยกพู ไม่มีมายกลูกจ้ะ ... ขาย 10 บาท 20 บาทพอให้กินแล้วหายอยากพอ (เริ่ดดดด)
❌ Differentiation x Promotion
การสื่อสารที่มีลายเซ็นต์และแตกต่างจะทำให้คนนึกถึงตลอดเวลา แล้วเราก็จะเขยิ้บ เขยิบ เขยิบเข้ามาซิ (55 พุ่มพวงก็มา) เราก็จะเขยิบเข้าไปใกล้กับความเป็น Top of mind มากขึ้นได้เรื่อย ๆ ค่ะ
- Diesel >> เป็นแบรนด์ที่มีลานเซ็นต์ว่ามักจะแคมเปญสนุก ๆ ออกมาตลอดเวลา 😊 >> Diesel เจอ returning fashion pain point คือวัยรุ่นอาศัย returning policy เอาของไปใส่ถ่ายรูปลง IG แล้วก็เอามาคืน >> อย่ากระนั้นเลย งั้นก็มาเอาไปใส่ถ่ายรูปเลยสิจ๊ะ ขอแค่อย่าถอด tag ก็พอ 555
จัดไปกับแคมเปญชื่อ “Enjoy before Returning” กลายเป็นว่าอัตราการคืนลดลง และ Diesel ก็ได้ภาพลักษณ์ที่เป็น signature ของ brand ด้วยว่า เออ brand นี้มันส์ดีว่ะ ใจเว่อร์รรร ...
- เนื้อแท้ บังโต >> ใช้ Hi-jack หรือ real-time mkt. ล้อไปกับกระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น เช่นขึ้นป้ายหาเสียงในช่วงหาเสียง ทำให้แบรนด์น่าสนใจ แตกต่าง และอยู่ในกระแสตลอดเวลา คนจำได้ 😊
❌ Speed x Packaging
- สด ... speed อาจไม่ได้หมายถึงความเร็วแต่คือความสด Supermarket ชื่อ Intermarche ในฝรั่งเศส มีการคั้นน้ำสมสดบรรจุขวดขาย เราจะเชื่อใจได้ยังไงว่ามันสด (นึกถึงเวลาเราไปกินซูชิสายพานออกไหมคะ นั่ง ๆ ไปก็คิด ... อีน้อนโอโทโร่นี่มันวนอยู่บนนี้กี่รอบแล้วน้า อยู่มาก่อนเราเกิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ 55 ) ว่าแล้ว ร้านก็ออกแบบสลากเป็น “เวลาผลิต” ตัวใหญ่ ๆ กันไปเลย คนซื้อรู้ไปถึงเวลาคั้นน้ำส้มกันเลยทีเดียว สด ใหม่ สบายจายยย
❌ Accessibility x product
จากที่คนไม่เคยเข้าถึงหรือเข้าถึงยาก เราจะเก๋แปลกถ้าเราทำให้มันเข้าถึงง่าย ๆ กันไปเลยจ้ะ
- อยู่ไฟ ดิลิเวอรี่
- Omakase on the go คือขนอุปกรณ์ทุกอย่าง รวมทั้งเชฟไปทำให้ที่บ้านกันเลยจ้ะ
❌ Accessibility x Promotion
สินค้าไม่ต่าง อ่ะงั้นทำให้ทุกคนเห็นเราจนแม่งฝังเข้าไปในใจ กลายเป็น top of mind นึกถึง cat นี้เรื่องนี้ต้องนึกถึงเรา เช่น
- ประเวศยิม (สมัยก่อนมี poster แปะทุกเสาไฟฟ้าอ่ะบอกเลอ)
- สมัยนี้ต้อง Bitkub และ สลากพลัส ขับรถไปที่ไหนก็ตามไปหลอกหลอน 5555
เห็นบ่อยแปลว่าอะไรคะ แปลว่าจะรู้จักและคุ้นเคย และความไว้ใจ เชื่อใจก็จะตามมานั่นเอง
❌ Cost leadership x price
- Daiso
- Bear store
❌ Data Driven x pricing
- โรงละครที่ Spain ต้องการดึงคนเข้ามาดู Stand-up comedy มากขึ้น ปัญหาคือตั๋วมันแพง จ่ายแล้วไม่รู้จะหนุกไหม คนส่วนใหญ่ก็เลยจะรอให้มีคนไปดูและ review ก่อน เอ้า ... รอบแรก ๆ ก็จุ๊งงงใช่ไหมทุกคนแบบนี้
อ่ะงั้นเปลี่ยนระบบใหม่ ติดตั้ง face detector เว้ยทุกคน จับการยิ้ม 555 แล้วทำระบบ pay per laugh มาดูฟรีเลย แต่ถ้าหัวเราะจ่ายก๊ากละ 30 cent. นะ ... show จบเช็ค laugh ได้และแชร์หน้าฮา ๆ ของเราไปให้เพื่อนดูได้ด้วย 555 ... จากนั้นเชิญจ่ายเงิน แล้วไม่ต้องกลัวว่าเส้นตื้นมาก ๆ แล้วจะล่มจมนะทุกคน เพราะมันมี maximum อยู่ หัวเราะให้ตายก็จ่ายไม่เกิน 80 laugh จ้ะ อิอิ
ระบบนี้ทำให้เกิด viral ได้ media ไปรึ่มมมม ทำให้คนมาดู show เพิ่มขึ้น 35% … ทุก รอบที่ทำเป็น pay per laugh ทำเงินได้มากกว่ารอบปกติอย่างเยอะๆๆๆ และโรงละครอื่น ๆ ก็กำลังจะทำตามอีกด้วย ... คิดได้อ่า
ซึ่งการใช้ Data นี่นอกจากจะใช้ในมิติเรื่องเงินแล้ว data ที่ได้จากการจับหน้ายังเอาไปใช้พัฒนา show ได้ด้วยนะ มุกแบบไหนคนขำเยอะ อันไหนแป้กอะไรยังงัย เออออออ ... เนาะ
❌ Data Driven x Place
- Ikea เมืองนอกมีปัญหาเพราะมักอยู่ในพื้นที่ชานเมือง มันไกล ทำไงให้คนมาเยอะ ๆ … Ikea ดึงเอา Data มาใช้ >> ผูก api google map กับบัตรสมาชิก ทำแคมเปญไปเลยขับมาไกลแค่ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ เอาส่วนลดไปเท่านั้น
❌ Collab x product
- BBQ plaza x Fire Tiger = การ share ฐานแฟนของแต่ละฝ่ายให้เกิด trial 😊
❌ Collab x promotion
- ค่าโฆษณาแพง อยากอยู่บน Superbowl Billboard ทำไงดี New Castle No bollocks จัดแคมเปญชวนเพื่อนหารค่า Ads จ้ะ “New Castle Bond of Band” มีคนเล่นด้วยเป็นสิบ ๆ รายเลย ... เออ เจ๋ง 55
ปรากฏพอ ads ขึ้นคนตกใจ อะไรวะเนี่ย 555 และเกิด viral ตามมา ทุกคนพยายามนับว่ามีกี่ brand บน ads นี้ ได้ earned media ไปอี๊กกกก เนี่ยบางทีการแชร์หรือแลก media กันก็ทำให้เกิดอะไรที่น่าสนใจเยอะเลยนะคะ
ว่าแล้วก็นึกถึงแคมเป็นคนธรรมดาของห่านคู่ขึ้นมาเลย น่ารักกกก
❤❤ Tips ❤❤
❤ สมการไม่ต้องมีแค่ 1 เอามาผนวกกันก็ได้ (เช่น differentiation ด้าน physical evidence, people, product ของ Haidilao ทำให้เป็นร้านที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างที่จะหาใครเลียนแบบได้ยาก) / vending of beef gashapon ที่ญี่ปุ่น)
❤ ถ้ามีหนทางให้เลือก จงเลือกทางยากเสมอ เพราะทางง่าย แป๊บเดียวเดี๋ยวก็มีคนตามมา
❤ แยกให้ออกระหว่างฉาบฉวยและยั่งยืน คิดให้เยอะ เราสร้างสมการมากแล้ว ... X ไปแล้วเป็นแค่กิมมิคละเปล่า มันเลียนแบบได้ง่ายไหม ... ถ้า X แล้วใช่ คิดว่ายั่งยืนแน่ ๆ สรุปว่าจะทำ #เมื่อเลือกแล้วจงทำให้ถึง อย่าผิว
❤ จงเคลื่อนที่อยู่เสมอ
ขอให้สนุกกับการสร้างสมการ และระเบิดไอเดียที่แตกต่างกันนะคะทุกคน
ขอบคุณคุณบี สโรจสำหรับ Equation พร้อมทั้งเคสเจ๋ง ๆ มากมายค่ะ และขอบคุณภาพต้นฉบับของคุณบี สโรจที่เบ็นนำมาวาดต่อจากเพจ Digital Tips Academy นะคะ
ติดตามสาระดี ๆ จากเพจคุณบี สโรจได้ที่นี่นะคะ
#BenNote #bp_ben
#benji_is_drawing
#benji_is_learning
#DSME2022
#digitalTips

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา