นับแต่นั้นมาอาจารย์ตั้งใจว่าจะใช้เวลาทั้งหมดที่อยู่ที่อังกฤษให้คุ้มที่สุด ขุดสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ให้ลึกที่สุด เริ่มต้นจากภาพนี้ อ.ภากรตามดูภาพอีกเป็นหมื่นๆ ภาพ เฉพาะที่ National Gallery of London ตลอด 4 ปีที่ อ. อยู่อังกฤษ อาจารย์จะกลับไป Nation Gallery of London อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน ทุกเดือน (น่าอิจฉามากมายค่ะ)
ถ้าพูดถึงมูลค่าของภาพทั้งหมดที่อาจารย์ได้ดูมันประเมินค่าไม่ได้เลย เอาแค่ภาพ Rembrandt ภาพเดียวก็มีมูลค่าเป็นพันล้านแล้ว ใน National Gallery มีภาพพันล้านเป็นพันๆ ภาพ ... มูลค่าจึงมหาศาลมาก ไม่นับคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะอีก (ขนลุกไปด้วยเลยค่ะ)
อาจารย์มีภาพคู่กับงานศิลป์ที่อาจารย์ได้มีโอกาสไปชมมาเยอะมาก อาจารย์บอกว่าไม่ได้จะเอามาอวดอะไรนะ แต่การถ่ายให้ติดตัวเราหรือติดคนมันทำให้เราเป็น S C A L E (เออจริง) ... อาจารย์แนะนำว่าเวลาไปไหนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสถาปัตยกรรมเวลาถ่ายให้ถ่ายให้ติดคนมาบ้าง จะได้รู้ว่ามันใหญ่แค่ไหน อาจารย์เอามาใช้สอนด้วย ... ประโยชชชชชชชน์ ...
อาจารย์มี Album ใน Facebook ด้วยค่ะชื่อ Album “Masterpieces and me” เป็นการเก็บสะสมรูปที่เป็นความฝันหรือรูปที่เป็น Surprise ที่อาจารย์ได้ไปดูมาแล้ว เก็บเป็น Collection ไปเรื่อยๆ คนอื่นสะสม Magnet สะสม Postcard อะไรก็ว่าไป อาจารย์สะสมภาพตัวเองกับงานศิลป์ เป็นงานอดิเรกที่คุลมากๆ และเบ็นก็คิดว่าอาจารย์น่าจะมีเยอะกว่าใครๆ เลย เป็นของสะสมที่เจ๋งมากจริงๆ 😊
อย่างตอนที่อาจารย์อยู่ London ที่ Royal Academy of Arts ก็จะมี Special Exhibition ประมาณ 4 ครั้ง / ปี มีครั้งนึงเป็น Monet in 20th Century ผู้จัดเอาภาพ Monet มารวมกัน 150 กว่ารูป!! ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เพราะต้องยืมมาจากทั้ง Institute และ Private Collection จำนวนมาก ไหนจะค่าประกันอีก เพราะแต่ละรูปมีมูลค่าเป็นพันล้าน
และเมื่อเราจริงจังกับอะไรบางอย่าง โอกาสที่ตามมาก็จะกว้างไกลกว่าที่คิด 😊 ใครจะไปคิดว่านักเรียนต่างชาติคนนึงที่ไป Museum เพื่อเข้าห้องน้ำ จะมาไล่ตามดูงาน Monet ด้วยความหลงใหล และในที่สุดก็บรรลุความฝัน ได้เป็นผู้บรรยายภาพ Dreamy Water Lilly, Mural ที่ใหญ่ที่สุดของ Monet ใน Musée de l'Orangerie, Paris ประเทศฝรั่งเศส (ขนลุก) ภาพนี้ Monet เพ้นท์ตอนอายุ 80 ปีและมีขนาดใหญ่มาก ยาวถึงประมาณ 10 เมตรแน่ะ เห็นภาพอาจารย์ยืนอยู่หน้าภาพนี้และบรรรยายให้ผู้ร่วมทริปฟังแล้วเอมใจแทนเลย
Dreamy Water Lilly, Mural ที่ใหญ่ที่สุดของ Monet ใน Musée de l'Orangerie, Paris
อ.ภากร บรรยายภาพ Dreamy Water Lilly in Musée de l'Orangerie, Paris
อีกภาพที่อาจารย์เอามาแชร์คือภาพฝีแปรงปาดเร็วๆ Style ญี่ปุ่น ไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่สะเทือนอารมณ์มากไม่แพ้ภาพ The Raft Of Medusa เพราะเรารู้เรื่องราวความโหดร้ายของสงครามอยู่ก่อนแล้ว ลอง Search คำว่า Art By Atomic Bomb Survivors In Japan ดูนะคะ
Art By Atomic Bomb Survivors In Japan
มันคือภาพฝีมือของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่บันทึกภาพบ้านเมืองและผู้คนในเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ ภาพแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่เบื้องหลังทางประวัติศาสตร์มัน “สั่นสะเทือน” ความรู้สึกของเรา เพราะเรารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ... และเพราะความรู้สึกจากคนวาดมันส่งผลมาถึงเราอย่างยิ่งยวดจริงๆ ... Arts interpret the record of reality
ศิลปินไม่ชอบก็วาด Portrait ของ Royal Family ยับได้นะ 555 อย่าแหยมกะศิลปิน
ในภาพ Charles IV of Spain and His Family ผลงานของ Goya ไม่ใช่แค่วาด Queen ไม่สวยนะ ใส่หน้าผีในกระโปรง Queen เข้าไปอีก 555 นี่ขนาดเป็น Court Painter วังเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้นะ วาดได้สวยกว่านี้ก็ไม่วาดอ่ะ ไม่ชอบใจมีอะไรไหม 555
การดูหรือทำอะไรที่เราชอบจะพา Joy of life มาให้เรา นำมาซึ่งโอกาสมากมาย อย่างเช่นอาจารยก็มีโอกาสได้ไปยืนบรรยายหน้า Masterpiece ต่างๆ งานศิลปะจะให้ดวงตาที่ดูอะไรก็เห็นความสวยงาม เห็นความหมาย จะไปไหนการเดินทางนั้นก็จะสร้างคุณค่าให้กับชีวิตและจิตใจของเรา 😊
สำหรับเรื่องมิติเวลา ในทางดนตรีก็เช่นกัน เพลง Your Song ของ Elton John (I hope you don’t mind) ถ้าฟังในช่วงอายุต่างกัน ก็จะเข้าใจลึกซึ้งต่างกัน อ.ฟัง 20 ปีที่แล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ วันนี้เข้าใจลึกลงไปถึงแต่ละประโยคเลยทีเดียว
(เบ็น)
สำหรับเบ็นหนังสือก็เช่นกัน อ่านเจ้าชายน้อยในช่วงอายุต่างๆ กันก็ลึกซึ้งดื่มด่ำในปรัชญาที่ Antoine de Saint-Exupéry พยายามจะสื่อได้ต่างๆ กัน 😊
จบจาก EP 6 วันนี้ (23 ก.ย.) อาจารย์กับคุณเอ๋มาชวนกันคุยสนุกเรื่องงานศิลป์ต่อค่ะ เบ็นตามไปฟังเลยมี Tips เพิ่มเติมในการไปเยี่ยมชม Museum ที่อาจารย์ให้ไว้มาฝากต่อเนื่องกันไปใน BenNote ฉบับนี้ด้วยค่ะ
1. มีคนถามมาว่าถ้าเพิ่งเริ่มต้นสนใจให้ไปไหนดี อ.ภากรบอกว่าให้ไปพิพิธภัณฑ์ในเมืองใหญ่เช่น New York, Paris (เป็นศูนย์กลางศิลปะโดยเฉพาะช่วง Impressionist ลงมา), London, Tokyo เพราะเมืองใหญ่จะมีงานศิลป์อยู่เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งเคยเป็นเจ้าอาณานิคม (มีมุกแซวกันว่าถ้า Museum ใน 2 ประเทศนี้ต้องคืนของให้ต้นกำเนิดงานศิลป์ จะไม่เหลืออะไรจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เลย 555)
ยิ่งถ้าได้ไปเจองานนิทรรศการชั่วคราวเจ๋งๆ ด้วยยิ่งดี 😊 อย่างอาจารย์ไปปรากแล้วไปเจองานที่จัดแสดงผลงานของ 3 ศิลปินพร้อมกันคือ Salvador Dali, Andy Warhol และ Alfons Mucha นับว่าคุ้มจัดๆ ไปเลย 😊
2. มือใหม่เวลาเข้า Museum ให้ตาม Guide ที่ Museum มีไว้ให้ หรือถ้าไม่ตาม Guide ให้ดู Guidebook ใน Guidebook ของ Museum จะมี Hi-light ไว้อยู่แล้วว่าชิ้นไหน A-must ต้องไปดู เก็บชิ้น Masterpiece ให้ครบก่อน มีเวลาเหลือค่อยดูอย่างอื่นก็ได้