23 พ.ย. 2022 เวลา 16:11 • ประวัติศาสตร์
คาร์เทียร์(Cartier)ค.ศ.1847
แบรนด์ที่นำเอานาฬิกากับอัญมณี​มาผสมกัน
หากจะกล่าวถึงแบรนด์เครื่องประดับหรูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น งานช่างฝีมือที่ประณีตงดงามและมีชื่อเสียงระดับตำนานที่ยังมีชื่อถึง 170 ปี เชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึง Cartier แบรนด์สุดหรู
หลุยส์ ฟรองซัวร์ คาร์เทียร์ ค.ศ.1819-1904
ย้อนกลับในอดีตของผู้ก่อตั้ง “Cartier” Louis-François Cartier (หลุยส์-ฟรองซัวส์ การ์คทิเยร์)ในวัยเด็กยังคงได้รับการศึกษาในระบบเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แต่ด้วยความเป็นพี่ชายคนโต ต้องรับผิดชอบปากท้องของคนในครอบครัว เมื่อจบชั้นประถมจึงต้องออกไปหางานทำ หลุยส์-ฟรองซัวส์ การ์คทิเยร์ เลือกงานด้านการค้าจิวเวอรี่
โดยเข้าไปเป็นช่างทองฝึกหัดที่ร้านผลิตเครื่องประดับ Picard ซึ่งเป็น Jewelry Workshop ใน Rue Montorgueil (ถนนมงตอร์เกยล์) กับนายช่าง Bernard Picard (เบอร์นาร์ค ปิการ์ค) เขายอมทำงานที่นี่อย่างหนักถึง 15 ชั่วโมงต่อวัน แม้จะได้ค่าตอบแทนเล็กน้อยเท่านั้น
สุดท้ายไม่มีใครผ่านการฝึกงานนั้นได้เลยยกเว้น หลุยส์-ฟรองซัวส์ การ์คทิเยร์ เพียงคนเดียว จึงทำให้เขาได้รับช่วงต่อในการดูแลร้านแห่งนั้นในเวลาต่อมา
1
หลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier)
หลุยส์ได้เรียนรู้เทคนิครวมถึงวิธีการต่างๆ หลังจากนั้นไม่นาน คาร์เทียร์ก็เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดัง จากฝีมือที่ไร้ที่ติ รวมถึงดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
ในปีค.ศ. 1847 หลุยส์-ฟรองซัวร์ การ์คทิเยร์ ซื้อกิจการต่อมาจากเจ้านายของเขา Adolphe Picard (อดอล์ฟ ปิการ์ค ลูกชายของเบอร์นาร์ด) แล้วก่อตั้งเป็นร้านเพชรเล็ก ๆ ซึ่งเขาเป็นทั้งพ่อค้าเครื่องประดับและช่างนาฬิกาไปในเวลาเดียวกัน
ด้วยฝีมือและความสามารถของ หลุยส์-ฟรองซัวส์ “การ์คทิเยร์” ทำให้เริ่มมีบุคคลชั้นสูงเข้ามาเป็นลูกค้าอย่างไม่ขาดสาย ในปีถัดมา ค.ศ.1856 เจ้าหญิง Mathilde (มาทิลด์) หลานสาวของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ก็มาเป็นลูกค้าของ คาร์เทียร์
มาทิล โบนาปาร์ต
ในปีค.ศ. 1870 ปีที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามต่อรัสเซียทำให้ต้องย้ายไปเปิดร้านที่ลอนดอนเป็นการชั่วคราว ในช่วงนั้นคนยุโรปให้ความสนใจกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น จึงทำให้การออกแบบเครื่องประดับเน้นไปทางธรรมชาติ อย่าง รูปดอกไม้หรือนก คาเทียร์จึงเริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นกลาง
ช่วงที่เปิดร้านอยู่ที่ลอนดอน ปี ค.ศ. 1872 Alfred Cartier (อัลเฟรด การ์คทิเยร์) บุตรชายของหลุยส์-ฟรองซัวส์ ได้เข้าร่วมธุรกิจของบิดา โดยอัลเฟรดเป็นผู้สร้างชื่อให้ Cartier เป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจเครื่องประดับ เขาได้นำเครื่องเพชรของ La Barucci (ลา บาครูซซี) หญิงงามชาวอิตาลีมาขายทอดตลาดในลอนดอน
ร้าน Cartier สาขาแรกที่ London ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1902 อาคารเลขที่ 4 ถนน New Burlingtonโดยมี Pierre Cartier เป็นผู้ดูแลกิจการ
ซึ่งในการขายครั้งนั้นเครื่องเพชรได้ถูกขายเป็นมูลค่ามหาศาล อัลเฟรด คาร์เทียร์ จึงได้รับไว้วางใจจากบิดานับแต่นั้นมา และในปี ค.ศ. 1874 หลุยส์-ฟรองซัวส์ การ์คทิเยร์ ก็ได้มอบกิจการร้านทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดูแลของอัลเฟรด
Cartier ขยายอาณาจักรกว้างไกลออกไปเรื่อย ๆ ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารรุ่นต่อมา จากจุดกำเนิดในปารีสสู่ลอนดอน ธุรกิจของ Cartier แผ่ขยายไปทั่วยุโรป ข้ามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคไปถึงทวีปอเมริกาที่กรุงนิวยอร์ค
เป็นยุคที่ Cartier เริ่มจดสิทธิบัตรงานออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับต่าง ๆ รวมถึง “นาฬิกา” ซึ่งเป็นเครื่องประดับของผู้ชาย ที่ Cartier ก็มีรุ่นที่ถือเป็น Iconic หรือเอกลักษณ์ประจำแบรนด์เช่นกัน
Santos de Cartier นาฬิการุ่นแรก
ไม่นานนัก อัลเฟรด คาร์เทียร์ ได้มอบอำนาจให้ลูกชายทั้ง 3 คนของเขา หลุยส์ (Louis), ปิแอร์ (Pierre) และ ฌาคส์ (Jacques) เข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัว ด้วยความสามารถของทั้ง 3 ทำให้คาร์เทียร์ แผ่ขยายชื่อเสียง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการขยายสาขาไปยังเมืองลอนดอนและนิวยอร์คอีกด้วย
หลังจากเข้ามารับช่วงต่ออย่างเต็มตัว 3 พี่น้องตระกูลคาร์เทียร์ เริ่มจดสิทธิบัตรให้กับเครื่องประดับต่างๆ และนาฬิกาที่พวกเขาออกแบบ โดยหลุยส์พี่คนโต จะเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาและการออกแบบสินค้าของคาร์เทียร์มากที่สุด
ผลงานสร้างชื่อ คือ การออกแบบนาฬิการุ่น Santos นาฬิกาข้อมือผู้ชายรุ่นแรกของคาร์เธียร์ หน้าปัดแบน และมีกรอบสี่เหลี่ยม เขาออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ให้กับเพื่อนนักบินชาวบราซิลของเขา นามว่า อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) ในปี ค.ศ. 1904
ในปีเดียวกัน หลุยส์ ได้รับมอบหมายให้เป็นนักออกแบบส่วนตัวให้กับ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 (Edward VII) ของสหราชอาณาจักร โดยมีรับสั่งให้ทำการออกแบบรัดเกล้า สำหรับพิธีบรมราชาภิเษก ถึง 27 ชิ้น อีกทั้งยังได้กล่าวชมผลงานของคาร์เทียร์ว่า
Jewellers of the King and King of Jewellers” อัญมณีสำหรับราชาและราชาแห่งอัญมณี
รวมถึงได้รับหนังสือรับรองจากราชวงศ์อีกด้วย
กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร
ในส่วนของทายาทคนกลาง “ปิแอร์” ได้เดินทางไปนครนิวยอร์ค เมื่อปี ค.ศ. 1909 ซื้อแมนชั่นหรูที่ 653 Fifth Avenue เพื่อมาแปลงโฉมเป็นที่ตั้งของ บูทิคคาร์เทียร์ ปิแอร์ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ที่นิวยอร์ค
เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ในคอลเลกชั่นที่มีชื่อว่า Clou และ Love หรือ Bracelets (Cartier’s Love bracelet) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
Cartier’s Love bracelet
สำหรับทายาทคนสุดท้องผู้มีนามว่า “ฌาคส์” ได้ก่อตั้งบูทิคคาร์เทียร์ เมื่อปี ค.ศ.1902 ที่ ถนน New Bond Street ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ในช่วงปี ค.ศ. 1911-1912 เขาได้เดินทางไปบุกเบิกตลาดค้ามุก สานสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ที่อ่าวเปอร์เซีย และดินแดนแถบตะวันออกกลาง เขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น และได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องประดับที่ทำจากมุกอันเป็นเอกลักษณ์แห่งทะเลเปอร์เซีย โดยบันทึกเรื่องราวผ่านสมุดบันทึกและภาพถ่ายไว้ตลอดระยะเวลาที่เขาเดินทาง
ประวัติแบรนด์ Cartier ส่วนหนึ่งจาก Jacques’s Diary
ย้อนไปในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ในช่วงเวลานั้น เทรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายจากเสือดาวแพนเธอร์ได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นความสุดยอดด้านแฟชั่น รวมถึงเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะของผู้คนในสมัยนั้น
หลังจากที่ ฌอน ทูส์แซงต์ ได้ร่วมงานกับหลุยส์ เธอได้ใช้โอกาสจากแฟชั่นสมัยนิยมนี้ ออกแบบนาฬิกาและเครื่องประดับ แต่งแต้มลายจุดเสือบนผลงาน ผสมผสานร่วมกับงานศิลปะที่หลุยส์ถนัด ก่อเกิดเป็นนาฬิการุ่น Panthère ซึ่งประดับประดาด้วยเพชรและหิน
ในปี ค.ศ. 1917 เธอได้รับของขวัญชิ้นสำคัญจากหลุยส์ คาร์เทียร์ 2 ชิ้น ที่จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบของเธอ นั่นก็คือ Vanity Case กับ เคสใส่บุหรี่ที่ประดับด้วยเสือดำแพนเธอร์ ทำจากแพลตินั่ม เพชร และหิน เสือดาวแพนเธอร์นี้ กลายมาเป็นสัญญลักษณ์ประจำตัวของเธอ
Vanity case เคสใส่บุหรี่รูปเสือแพนเธอร์
ด้วยความสามารถและรสนิยมที่เป็นเลิศ ทำให้หลุยส์ชื่นชมในตัวเธอมาก จากที่เคยเป็นแค่หัวหน้าฝ่ายเครื่องหนัง จนในเวลาต่อมาหลุยส์ได้แต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายเครื่องเงิน ในปี ค.ศ. 1924
ฌอน ทูส์แซงต์ ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของ Cartier ที่นำแบรนด์ไปสู่ความเป็นสุดยอดผู้นำด้านเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำที่เสนอแนวคิดในการผลิตเครื่องประดับและสินค้าของผู้หญิงให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จากที่เคยออกแบบเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเป็นหลัก เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง
ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำ มีผลกระทบมาถึง Cartier แต่ทูส์แซงต์ก็ยังคงเดินเคียงข้างคาร์เทียร์ตราบจนวาระสุดท้ายของเธอ ในปี ค.ศ. 1978
เข็มกลัด La Panthère , เข็มกลัด La Panthère แชฟไฟร์
ปัจจุบัน Cartier อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Richemont Group บริษัทด้านการเงินระหว่างประเทศ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ถูกจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดลำดับที่ 59 ของโลกในปี ค.ศ. 2018 โดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารธุรกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
Cartier ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สร้างสรรค์ผลงานที่มีสไตล์ ทั้งอัญมณี เครื่องประดับ รวมถึงนาฬิกา น้ำหอม ผสมผสานงานศิลปะจากทั่วโลก
โดยมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าแฝงไว้ในผลงานทุกชิ้น และสิ่งเหล่านี้ยังคงความสง่างามเฉกเช่นเสือดาวตราบจนทุกวันนี้
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference :
โฆษณา