รู้ก่อน ลดน้ำหนัก : วิธีที่คุณจะเผาผลาญแคลอรี่
ค้นหาว่าเมแทบอลิซึมส่งผลต่อน้ำหนักอย่างไร ความจริงเบื้องหลังเมตาบอลิซึมที่ช้าลง และวิธีเผาผลาญแคลอรีให้มากขึ้น
เป็นความจริงที่อัตราการเผาผลาญอาหารนั้นเชื่อมโยงกับน้ำหนัก แต่การเผาผลาญที่ช้ามักไม่ใช่สาเหตุของการเพิ่มน้ำหนัก การเผาผลาญช่วยตัดสินใจว่าร่างกายต้องการพลังงานเท่าใด แต่น้ำหนักขึ้นอยู่กับปริมาณการกินและดื่ม รวมกับการออกกำลังกาย
เมแทบอลิซึม( Metabolism) : การแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน
ร่างกายใช้พลังงานทุกอย่างตั้งแต่การกะพริบตาและการซ่อมแซมเซลล์ไปจนถึง การล้างจาน และ วิ่งมาราธอนได้อย่างไร? พูดง่ายๆ ก็คือ กิจกรรมทั้งหมดนี้ใช้พลังงานจากแคลอรี่ซึ่งมาจากอาหารที่คุณกิน เมื่อคุณกินอาหาร ระบบย่อยอาหารของคุณจะแบ่งมันออกเป็นส่วนประกอบต่างๆ และองค์ประกอบเหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานโดยกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย การสร้างพลังงานจากแคลอรีนั้นเกิดขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า เมแทบอลิซึม (Metabolism)
กระบวนการนี้ทำงานอย่างต่อเนื่องภายในร่างกาย เพื่อให้อวัยวะของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง และเพิ่มพลังให้กับทุกสิ่งที่คุณทำในหนึ่งวัน ซึ่งใช้สำหรับการต่อสู้กับการติดเชื้อ การเคลื่อนไหว การรักษาความอบอุ่น และการคิด เมื่อเรามีเมแทบอลิซึมที่ไม่แข็งแรง กระบวนการที่สำคัญทั้งหมดเหล่านี้ก็จะเริ่มล้มเหลว
อัตราการเผาผลาญแคลอรี่ ขึ้นอยู่กับอะไร?
ร่างกายทุกคนต้องการปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวันเพื่อรักษาการทำงานของเซลล์ อัตราการเผาผลาญของเราปกติ คือ อัตราที่ร่างกายของเราเผาผลาญพลังงานเมื่อพักผ่อนเต็มที่ แม้ในยามพักผ่อน เราก็ยังเผาผลาญแคลอรีจำนวนมากเพื่อการทำงานของร่างกาย เช่น การหายใจ การย่อยอาหาร ปรับระดับฮอร์โมนการเจริญเติบโต และการซ่อมแซมเซลล์
หน้าที่การบำรุงรักษาสิ่งเหล่านี้ในร่างกายจริง ๆ แล้วคือสิ่งที่เผาผลาญจากแคลอรีส่วนใหญ่ที่คุณกินเข้าไป ไม่ใช่การเดินหลังอาหารกลางวัน
อัตราการเผาผลาญของคุณขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย:
• ขนาดและส่วนประกอบของร่างกาย คนที่มีขนาดใหญ่และมีมวลกล้ามเนื้อมาก
มักจะมีอัตราการเผาผลาญที่สูงขึ้น
• เพศ. ผู้ชายมักจะมีไขมันในร่างกายน้อยกว่าและมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า ทำให้
มีการเผาผลาญที่สูงขึ้น
• อายุ. เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและการเผาผลาญของ
คุณจะช้าลง
คุณสามารถคำนวณอัตราการเผาผลาญของคุณ หรือ จำนวนแคลอรีที่ต้องใช้เพื่อให้ร่างกายทำงานขณะพัก ด้วยเครื่องคิดเลขออนไลน์ที่จะให้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับจำนวนแคลอรีที่คุณต้องการในแต่ละวันเพื่อกระตุ้นการทำงานของร่างกายขั้นพื้นฐาน ปริมาณการเผาผลาญในแต่ละวันขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนัก และระดับกิจกรรมของคุณ
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ความผิดของอายุเสมอไป น้ำหนักมีแนวโน้มเพิ่มขี้น เป็นผลจากแคลอรีส่วนเกินจากการรับประทานอาหารและกิจกรรมที่ลดลงเมื่อเราอายุมากขึ้น
เราสามารถเปลี่ยนการเผาผลาญของเราได้หรือไม่?
หลายคนถูกล่อลวงด้วยความคิดที่จะเร่งหรือเพิ่มระบบเผาผลาญอาหารเพื่อทำให้อ่อนวัยลง น้ำหนักลดลงแต่มันอาจเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น
เมแทบอลิซึมถูกกำหนดโดยยีนของเรา และทำอะไรได้ไม่มากเพื่อเปลี่ยนแปลงเมแทบอลิซึมของเรา เราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยหรือชั่วคราวในการเผาผลาญอาหารหรือการเปลี่ยนแปลงของมวลกล้ามเนื้อการเผาผลาญที่ช้าอาจไม่ใช่ปัญหาของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
การมุ่งเน้นไปที่ปริมาณแคลอรี่และการออกกำลังกายเป็นประจำจะเป็นประโยชน์มากกว่าวิธีเพิ่มการเผาผลาญด้วยยาหรือวิธีใด
เราเพิ่มระบบเผาผลาญให้ดีต่อสุขภาพได้อย่างไร
picture by Upsplash
การเผาผลาญส่วนใหญ่เป็นพันธุกรรม คุณสามารถเปลี่ยนแปลงอัตราการเผาผลาญได้ในระดับหนึ่ง โดยการเปลี่ยนแปลงที่สามารถทำได้ในอาหารและการออกกำลังกาย
ท้ายที่สุดแล้ว คุณสามารถควบคุมสิ่งที่กินและปริมาณที่คุณกินได้ รวมถึงการเคลื่อนไหวด้วย ยิ่งเราออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นเท่านั้น
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
