พอสามารถกล่อม Michael Jordan (ไมเคิล จอร์แดน) ให้ใส่ได้แล้ว Nike ก็ดันไปมีปัญหากับทางสมาคม NBA ที่กำหนดเอาไว้ในช่วงนั้นว่า รองเท้าบาสเกตบอลนั้นต้องมีโทนสีขาว แต่รองเท้า Air Jordan I นั้นแทบจะไม่มีสีขาวอยู่เลย
ไมเคิล จอร์แดน กับ Air Jordan I
ทำให้ทุกครั้งที่ Michael Jordan ใส่รองเท้ารุ่นนี้ลงสนาม จะต้องถูกโทษปรับเงินเป็นจำนวน 5,000 ดอลล่าร์ฯ (ราว ๆ แสนกว่าบาท) ทุกนัดที่เขาใส่ลงเล่นในสนาม
แต่ Nike ไม่สน แถมได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว แถมยังได้ทำโฆษณาจิกกัดต่อสมาคม NBA ด้วยว่า “โชคดีที่ NBA ไม่สามารถห้ามคุณไม่ให้ใส่รองเท้าคู่นี้ได้”
กลายเป็นว่ารองเท้า Air Jordan I นั้น ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าหยั่งกับแจกฟรี ทั้ง ๆ ที่เป็นหนึ่งในรุ่นที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดารองเท้าบาสเกตบอล ณ ขณะนั้นด้วยซ้ำไป
ภาพการรับรางวัล Rookie of The Year ของ ไมเคิล จอร์แดน
หลังจากที่ Michael Jordan อกหักจาก Adidas เพราะไม่สามารถทำให้ตัวเองถูกเลือกเป็นตัวแทนพรีเซ้นต์สินค้าหรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ได้ เขาก็หันมาซบอกกับ Nike ภายในปีแรกของการเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพของ Michael Jordan ก็สามารถทำผลงานได้อย่างสุดยอด
จนได้รับตำแหน่ง Rookie of The Year และ Nike สามารถทำเงินจากรองเท้ารุ่น Air Jordan หลังจากที่วางขายได้เพียง 2 เดือนได้กว่า 70 ล้านดอลล่าร์ฯ และเพียงสิ้นปี 1985 ก็มีรายได้ทะลุ 100 ล้านดอลล่าร์ฯ ได้อย่างสบาย ๆ