1 ธ.ค. 2022 เวลา 04:36 • ไลฟ์สไตล์
ปริเฉทที่ ๖ (ตอน ๒)
มหาภินิกขมนปริวรรต
การเสด็จออกเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่
**********
~ ป่าช้าผีดิบ ที่กองเต็มไปด้วยซากศพ ~
ฝ่ายพระโพธิสัตว์
เสด็จขึ้นสู่ปราสาทของพระองค์ ด้วยพระสิริโสภาคย์อันใหญ่หลวง
เสด็จบรรทมบนพระสิริไสยาสน์
ในทันใดนั้นเอง
เหล่าสตรีผู้ประดับประดาด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง
ได้ศึกษามาดีแล้วในเรื่องการฟ้อนและการขับเป็นต้น
ทั้งมีรูปโฉมเลอเลิศ ประดุจดังนางเทพกัญญา
ถือเอาดนตรีนานาชนิดมาล้อมวงเข้าแล้ว
บำเรอพระโพธิสัตว์ให้รื่นรมย์
ต่างพากันแสดงการฟ้อนรำขับร้องและการบรรเลง
พระโพธิสัตว์เพราะเหตุที่พระองค์ทรงมีพระทัย
คลายกำหนัดแล้วในกิเลสทั้งหลาย
จึงไม่ได้อภิรมย์ในการฟ้อนรำเป็นต้น
ครู่เดียวก็ทรงเข้าสู่นิทรา...
พวกสตรีเหล่านั้นคิดว่า พวกเราแสดงการฟ้อนรำเป็นต้น
เพื่อประโยชน์แก่พระราชกุมารใด
พระราชกุมารนั้นทรงเข้าสู่นิทราแล้ว
บัดนี้จะลำบากไปเพื่ออะไร
ต่างพากันวางเครื่องดนตรีที่ถือไว้ ๆ ลง
แล้วก็นอนหลับไป
ควงประทีปน้ำมันหอมยังคงลุกไหม้อยู่
พระโพธิสัตว์ทรงตื่นบรรทม
ประทับนั่งขัดสมาธิบนพระแท่นบรรทม
ได้ทอดพระเนตรเห็นสตรีเหล่านั้น
นอนหลับทับเครื่องดนตรีอยู่
บางพวกมีน้ำลายไหล มีตัวเปรอะเปื้อน
ด้วยน้ำลาย บางพวกกัดฟัน บางพวกกรน
บางพวกละเมื่อ บางพวกอ้าปาก บางพวกผ้านุ่งหลุดลุ่ย
ปรากฏให้เห็นอวัยวะสตรีเพศที่น่าเกลียด
พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรเห็น
อาการผิดปกติของสตรีเหล่านั้น
ได้ทรงมีพระทัยคลายกำหนัดในกามทั้งหลายเป็นอย่างมาก
พื้น [ปราสาท] ใหญ่นั้นประดับประดาตกแต่งแล้ว
แม้จะเป็นเช่นกับพิภพของท้าวสักกะ
ได้ปรากฏแก่พระโพธิสัตว์นั้น ประหนึ่งว่า "ป่าช้าผีดิบ"
ที่กองเต็มไปด้วยซากศพต่าง ๆ ที่เขาทิ้งไว้
ภพสามปรากฏประหนึ่งว่าเรือนที่ไฟลุกไหม้
พระอุทานจึงมีขึ้นว่า
"วุ่นวายจริงหนอ ขัดข้องจริงหนอ"
พระทัยทรงน้อมไปในการบรรพชาเหลือเกิน.
**********

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา