6 ธ.ค. 2022 เวลา 04:40 • ไลฟ์สไตล์
ปริเฉทที่ ๘
พุทธบูชาปริวรรต
มธุปายาสและการบูชา
**********
ก็สมัยนั้นแล
ทาริกาชื่อว่า สุชาดา บังเกิดในเรือนของเสนากุฎุมพี
ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
พอเจริญแล้ว
ได้กระทำความปรารถนาที่ต้นไทรแห่งหนึ่งว่า
ถ้าเราไปยังเรือนสกุลที่มีชาติเสมอกัน
จักได้บุตรชายในครรภ์แรก
เราจักทำพลีกรรม
โดยบริจาคทรัพย์แสนหนึ่งแก่ท่านทุกปี ๆ
ความปรารถนาอันนั้นของนางก็สำเร็จแล้ว.
**********
เมื่อพระมหาสัตว์นั้นกระทำทุกรกิริยา.
เมื่อครบปีที่ ๖ บริบูรณ์
นางสุชาดานั้นประสงค์จะพลีกรรมในวันเพ็ญเดือน ๖.
และก่อนหน้านั้นแหละ
ได้ปล่อยโคนม ๑,๐๐๐ ตัว ให้ท่องเที่ยวอยู่ในป่าชะเอม
ให้โคนม ๕๐๐ ตัว ดื่มน้ำนม ของโคนม ๑,๐๐๐ ตัวนั้น
ให้โคนม ๒๕๐ ตัว ดื่มน้ำนม ของโคนม ๕๐๐ ตัวนั้น
ให้โคนม ๑๒๕ ตัว ดื่มน้ำนม ของโคนม ๒๕๐ ตัวนั้น
นางปรารถนาน้ำนมข้น
และมีโอชะจึงได้กระทำการหมุนเวียน
ให้โคดื่มน้ำนมตราบเท่า ๘ ตัว
ดื่มน้ำนมของแม่โคนม ๑๖ ตัวนั้น
อย่างนี้ด้วยประการฉะนี้.
**********
เช้าตรู่วันวิสาขบูรณมี
นางสุชาดานั้นลุกขึ้นในเวลาใกล้รุ่งแห่งราตรี
ให้รีดนมโคนม ๘ ตัวนั้น.
ลูกโคทั้งหลายยังไม่ได้ไปถึงเต้านมเหล่านั้น
แต่พอนำภาชนะใหม่เข้าไปใกล้เต้านมเท่านั้น
ธารน้ำนมก็ไหลออกตามธรรมดาของตน
นางสุชาดาได้เห็นความอัศจรรย์นั้น
จึงตักน้ำนมด้วยมือของตนเองใส่ลงในภาชนะใหม่
แล้วก่อไฟด้วยมือของตนเอง
เริ่มจะหุง เมื่อกำลังหุงข้าวปายาสนั้นนั่นแหละ
ฟองใหญ่ ๆ ตั้งขึ้นไหลวนเป็นทักษิณาวัฏ.
แม้หยาดสักหยดหนึ่งก็ไม่หกออกภายนอก
ควันไฟแม้มีประมาณน้อยก็ไม่ตั้งขึ้นจากเตา
สมัยนั้น ท้าวจตุโลกบาลมาถือการอารักขาที่เตา.
ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร
ท้าวสักกะนำดุ้นฟืนมาใส่ไฟให้ลุกโพลงอยู่.
จริงอยู่ เทวดาทั้งหลายรวบรวมโอชะอันเข้าไปสำเร็จแก่เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายในทวีปทั้ง ๔ อันมีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวาร
ใส่เข้าไปในข้าวปายาสนั้นด้วย
เทวานุภาพของตน ๆ
เหมือนบุคคล คั้นรวงผึ้ง อันติดอยู่ที่ท่อนไม้
แล้วถือเอาแต่น้ำหวานฉะนั้น.
จริงอยู่ในเวลาอื่น ๆ
เทวดาทั้งหลายใส่โอชะในคำข้าว
ก็แต่ว่าในวันตรัสรู้และวันปรินิพพาน
ใส่โอชะในหม้อเลยทีเดียว.
**********
นางสุชาดาได้เห็นความอัศจรรย์มิใช่น้อย
ซึ่งปรากฏแก่ตนในที่นั้นโดยวันเดียวเท่านั้น
จึงเรียกนางปุณณาทาสีมาพูดว่า
"แน่ะแม่ปุณณา
วันนี้เทวดาของเราทั้งหลายน่าเลื่อมใสยิ่งนัก
ในกาลมีประมาณเท่านี้
เราไม่เคยเห็นความอัศจรรย์เห็นปานนี้
เธอจงรีบไปดูแลเทวสถานโดยเร็ว"
นางปุณณาทาสีนั้น รับคำของนางสุชาดานั้นแล้ว
ได้รีบด่วนไปยังโคนต้นไม้.
**********
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ได้ ทรงเห็นมหาสุบิน ๕ ประการ
ในตอนกลางคืนนั้น
ทรงใคร่ครวญอยู่ จึงทรงกระทำสันนิษฐานว่า
"วันนี้ เราจักได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยไม่ต้องสงสัย"
พอราตรีนั้นล่วงไป ทรงกระทำการปฏิบัติพระสรีระ
คอยเวลาภิกขาจารอยู่
พอเช้าตรู่ จึงเสด็จมาประทับนั่งที่โคนไม้นั้น
ทรงกระทำโคนไม้ทั้งสิ้นให้สว่างไสว
ด้วยรัศมีของพระองค์.
**********
ลำดับนั้น นางปุณณาทาสีนั้นมา
ได้เห็นพระโพธิสัตว์ประทับนั่ง
ที่โคนไม้ทอดพระเนตรดูโลกธาตุด้านทิศตะวันออก.
และเพราะได้เห็นต้นไม้ทั้งสิ้นมีสีดังสีทอง
ด้วยพระรัศมีอันซ่าน
ออกจากพระสรีระของพระโพธิสัตว์นั้น
นางจึงได้คิดดังนี้ว่า
"วันนี้เทวดาของเราทั้งหลาย
เห็นจะลงจากต้นไม้มานั่ง
เพื่อจะรับพลีกรรมด้วยมือของตนเองทีเดียว"
จึงเป็นผู้ถึงความปลาบปลื้มใจ
รีบไปบอกเนื้อความนั้น แก่นางสุชาดา.
นางสุชาดาได้ฟังคำของนางปุณณาทาสีนั้น
แล้วก็ดีใจจึงกล่าวว่า
"วันนี้ ตั้งแต่บัดนี้ไปเจ้าจงดำรงอยู่ในฐานะ
ธิดาคนใหญ่ของเรา
แล้วได้ให้เครื่องประดับทั้งปวงอันสมควรแก่ธิดา"
ก็เพราะเหตุที่ในวันจะบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า
การได้ถาดทองมีค่าแสนหนึ่งจึงจะควร
เพราะฉะนั้น นางสุชาดานั้นจึงทำความคิดให้เกิดขึ้นว่า
จักใส่ข้าวปายาสในถาดทอง
จึงให้คนใช้นำถาดทองมีค่าแสนหนึ่งออกมา
ประสงค์จะใส่ข้าวปายาสในถาดทองนั้น
จึงรำพึงถึงโภชนะที่ลุกแล้ว.
ข้าวปายาสทั้งหมดก็กลิ้งไปประดิษฐานอยู่ในถาด
เหมือนน้ำกลิ้งจากใบบัวฉะนั้น
ข้าวปายาสนั้นได้มีปริมาณเต็มถาดหนึ่งพอดี.
นางจึงเอาถาดทองใบอื่น ครอบถาดใบนั้น
แล้วเอาผ้าขาวห่อ
ประดับร่างกายด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง
เอาถาดนั้นทูนบนศีรษะของตน
เดินไปยังโคนต้นไทรนั้นด้วยอานุภาพใหญ่
แลดูพระโพธิสัตว์ เกิดความโสมนัสเป็นกำลัง
สำคัญว่าเป็นเทวดา
จึงค้อมกายลงเดินไปจำเดิมแต่ที่ได้เห็น
ปลงถาดลงจากศีรษะแล้ว
เปิดฝาเอาสุวรรณภิงคารใส่น้ำอันอบ ด้วยดอกไม้หอม
แล้วได้เข้าไปยืนอยู่ใกล้ ๆ พระโพธิสัตว์.
บาตรดินที่ท้าวฆฏิการมหาพรหมถวาย
ไม่ห่างพระโพธิสัตว์มาตลอดกาลนานมีประมาณเท่านี้
ได้หายไปในขณะนั้น.
พระโพธิสัตว์เมื่อแลไม่เห็นบาตร
จึงเหยียดพระหัตถ์ขวาออกรับ.
นางสุชาดาจึงวางถาดทองข้าวปายาส
ในพระหัตถ์ของพระมหาบุรุษ.
พระมหาบุรุษทอดพระเนตรดูนางสุชาดา.
นางสุชาดากำหนดอาการแล้วจึงทูลว่า
"ข้าแต่เจ้า ขอท่านจงถือเอา
สิ่งที่ข้าพเจ้าบริจาคแก่ท่านไปเถิด"
นางสุชาดาไหว้แล้วทูลว่า
"มโนรถความปรารถนา จงสำเร็จแก่ท่าน
เหมือนดังสำเร็จ แก่ข้าพเจ้าเถิด"
นางไม่ห่วงอาลัยถาดทองอันมีค่าแสนหนึ่ง
เป็นเหมือนภาชนะดินเก่า หลีกไปแล้ว.
**********

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา