12 ธ.ค. 2022 เวลา 06:31 • ไลฟ์สไตล์
๏ ปริเฉทที่ ๑๑ (ตอน ๒)
โพธิสัพพัญญูปริวรรต
**********
~ ต้นมุจลินท์ ~
(ประทับเสวยวิมุติสุข ใต้ต้นมุจลินท์)
เมื่อเข้าสัปดาห์ที่ ๖
พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่โคนไม้จิก
อันมีนามว่า มุจจลินท์
ณ ที่นั้น ฝนลงมาอย่างหนัก ตลอด ๗ วัน
พญานาคนามว่า มุจจลินท์นาคราช
(พระยามุจลินทนาคราช)
มีอานุภาพมาก อยู่ที่สระโบกขรณี
ใกล้ต้นมุจลินท์นั้น
มีความเลื่อมใสในรูปพระพุทธเจ้า
พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาส
อันงามกว่าเทวดาทั้งหลาย
จึงเข้าไปใกล้ วงรอบด้วยขนดหาง ๗ รอบ
แผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร
ด้วยหวังใจว่า
"เย็น และร้อน และสัมผัสเหลือบยุงลม
แดดสัตว์เลื่อยคลาน...
อย่าได้เบียดเบียนพระผู้มีพระภาคเจ้าเลย"
**********
มุจลินทนาคราช ตั้งใจแผ่พังพาน
โดยมิให้ลมและฝน
ถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า
เพื่อป้องกันลม กันฝนที่ตกอย่างหนัก
กัน ความหนาว
และ ป้องกันภัยต่างๆ ตลอด ๗ วัน
เปรียบประดุจ
เสวยวิมุตติสุข ประทับอยู่ในพระคันธกุฏีอันไม่คับแคบ
**********
ครั้นล่วง 7 วัน
ฝนหายขาดแล้ว
พญานาคก็คลายขนด
จำแลงกายเป็นมานพ
เข้าไปถวายอัญชลีหน้าพระพักตร์
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเปล่งอุทานวาจาว่า
“ความสงัดเป็นสุข
(สำหรับบุคคลผู้เห็นธรรมแล้ว
ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง)
ความไม่เบียดเบียน
(คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย)
เป็นสุขในโลก...
ความปราศจากความกำหนัด
(คือ ความล่วงกามทั้งหลายเสียได้
ด้วยประการทั้งปวง)
เป็นสุขในโลก...
ความนำเสียซึ่งอัสมิมานะ ให้พินาศได้
(คือ ความถือตัว ออกให้หมดไป)
เป็นสุขอย่างยิ่ง...”
**********
~ สัปดาห์ที่ ๗ ต้นราชายตนะ~
(ประทับเสวยวิมุติสุข ใต้ต้นราชายตนะพฤกษ์)
ทรงประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข
อยู่ ณ ที่ต้นราชายตนะ แม้นั้นหนึ่งสัปดาห์
โดยลำดับกาลเพียงเท่านี้
**********
สัปดาห์ทั้งหลายก็ครบบริบูรณ์.
ในระหว่างนี้ไม่มีการชำระล้างพระพักตร์
ไม่มีการปฏิบัติพระสรีระ
ไม่มีกิจด้วยพระกระยาหาร
ทรงยับยั้งอยู่ด้วยฌานสุข มรรคสุข และผลสุข.
**********
~ ท้าวสักกะถวายผลสมอ ~
ครั้นในวันที่ ๔๙
อันเป็นวันสุดท้ายแห่งสัปดาห์ที่ ๗ นั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
ประทับนั่งที่ต้นราชายตนะนั้น
เกิดพระดำริขึ้นว่า จักสรงพระพักตร์.
ท้าวสักกะจอมเทพได้ทรงนำผลสมอ
มาถวายด้วยพระองค์เอง.
พระศาสดาเสวยผลสมอนั้น.
ด้วยเหตุนั้นพระองค์จึงได้มีการถ่ายพระบังคนหนัก.
ลำดับนั้นท้าวสักกะ
นั่นแหละได้ถวายไม้ชำระพระทนต์ ชื่อ นาคลดา
และน้ำล้างพระพักตร์แด่พระศาสดานั้น.
พระศาสดาทรงเคี้ยวไม้ชำระพระทนต์
ล้างพระพักตร์ด้วยน้ำในสระอโนดาต
แล้วคงประทับนั่งที่โคนไม้ราชายตนะนั่นเอง.
**********
สมัยนั้น
พาณิช ๒ คน ชื่อตปุสสะ และภัลลิกะ
จากอุกกุลาชนบทจะไปยังมัชฌิมประเทศ
ด้วยเกวียน ๕๐๐ เล่ม
ถูกเทวดาผู้เป็นญาติสาโลหิตของตน
ปิดทางเกวียนไว้
แล้วแนะให้ไปถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า ว่า
"ดูก่อนท่านทั้งหลายผู้นฤทุกข์ พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้
แรกตรัสรู้พระอภิสัมโพธิญาณเสด็จอยู่
ณ ภายใต้ไม้ราชาตนพฤกษ์ ท่านทั้ง ๒ จงไป
จงนบนอบพระผู้มีพระภาคด้วยตรัสสัตตุผงสัตตุก้อน
ซึ่งเป็นเสบียงทาง ถวายบิณฑบาตทาน
อันนั้นก็จักเป็นไปเพื่อประโยชน์ และความสุข
สิ้นกาลนาน แก่ท่านทั้งหลาย"
**********
ตปุสสะ และ ภัลลิกะ
จึงได้มอบถวายอาหารแด่พระศาสดา
ถือเอาข้าวสตูก้อน และขนมน้ำผึ้ง
แล้วได้เข้าไปใกล้พระศาสดา
กราบทูลว่า
"ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ
ขอจงอนุเคราะห์รับอาหารนี้เถิด"
แล้วยืนอยู่.
**********
~ ทรงรับบาตรจากท้าวจตุโลกบาล ~
ก็เพราะบาตรได้หายไป
ในวันรับข้าวมธุปายาสนั่นเอง
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงพระดำริว่า
พระตถาคตทั้งหลายย่อมไม่รับที่มือ
เราจะรับอย่างไรหนอ...?
ลำดับนั้น
ท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์ ( ๔ ทิศ)
คือท้าวกุเวรเวสวัณ ท้าวธตรฐ
ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์
รู้พระดำริของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
จึงน้อมบาตรของตน อันสำเร็จด้วยแก้วอินทนิล
เข้าไปถวาย
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปฏิเสธบาตรเหล่านั้น
ท้าวมหาราช จึงน้อมนำบาตร ๔ ใบ
อันสำเร็จด้วย หิน มีสีดังถั่วเขียวเข้าไปถวาย
เพื่อจะทรงอนุเคราะห์เทวบุตร
จึงทรงรับบาตรทั้ง ๔ ไปแล้ววางซ้อน ๆ กัน
ทรงอธิษฐานว่า
"จงเป็นบาตรใบเดียว"
บาตรแม้ทั้ง ๔ จึงไม่มีรอยปรากฏอยู่ที่ขอบปากบาตร รวมเป็นบาตรใบเดียวกัน
โดยประมาณบาตรขนาดกลาง
**********
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับ
อาหารที่บาตรอันล้วนด้วยศิลาที่เห็นประจักษ์นั้น
เสวยแล้วทรงกระทำอนุโมทนา.
พาณิช ๒ คนพี่น้อง
ถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นสรณะ
ได้เป็น ทเววาจิกอุบาสก ผู้เปล่งวาจาถึงสรณะทั้งสอง
เป็นครั้งแรกในโลก...
**********
ลำดับนั้น
เมื่อพาณิชทั้งสองนั้นกราบทูลว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์
จงโปรดประทาน ฐานะที่จะพึงปรนนิบัติอย่างหนึ่ง
แก่ข้าพระองค์ทั้งสอง..."
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเอาพระหัตถ์ขวา
ลูบพระเศียรของพระองค์
แล้วประทานพระเกศธาตุทั้งหลายให้ไป
พาณิชทั้งสองนั้นจึงให้ก่อพระเจดีย์
บรรจุพระเกศธาตุไว้ภายใน ณ เมืองของตน.
**********

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา