17 ธ.ค. 2022 เวลา 00:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
สะพานชู้ (1) : แค่ไหนคือสุดทาง
Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
1
(บทความนี้มีสปอยเลอร์หนังเรื่อง The Bridges of Madison County)
สองพี่น้อง ไมเคิลกับแคโรไลน์ เดินทางกลับบ้านเกิดไปงานศพแม่ หลังงานศพทั้งสองไปหาทนายความผู้มีหน้าที่เผยพินัยกรรมของแม่
1
คำสั่งเสียก่อนตายของแม่ ฟรานเชสกา จอห์นสัน ขอให้ไม่ฝังศพ แต่ให้ฌาปนกิจ แล้วโปรยเถ้าที่สะพานโรสแมน
1
เป็นคำขอที่ลูกทั้งสองคาดไม่ถึง เพราะเป็นธรรมเนียมของคนแถวนั้นที่ฝัง ไม่ฌาปนกิจ อีกประการที่ฝังศพก็เตรียมไว้ล่วงหน้านานมาแล้ว
2
เพื่อให้ลูกทั้งสองเข้าใจเหตุผลจริงว่า ทำไมเธอต้องการให้ลูกทำตามที่เธอขอก่อนตาย เธอจึงเขียนจดหมายเล่ารายละเอียด ให้ลูกอ่านหลังเธอตาย
3
นี่คือหนังเรื่อง The Bridges of Madison County (1995) สร้างจากนวนิยายของ Robert James Waller กำกับโดย คลินต์ อิสต์วูด แสดงโดย คลินต์ อิสต์วูด และ เมอริล สตรีพ
จดหมายของฟรานเชสกาเล่าว่าเธอเป็นชาวอิตาเลียน แต่งงานกับทหารอเมริกันคนหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอเป็นหนึ่งในหญิงสาวอิตาเลียนหลายพันคนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปใช้ชีวิตในโลกใหม่ที่สหรัฐอเมริกา
'อเมริกัน ดรีม' ของเธอไม่ใช่อย่างที่ฝันเท่าใดนัก เธอกับสามีใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ที่รัฐไอโอวา ทำงานเป็นแม่บ้าน ดูแลครอบครัว
วันหนึ่งสามีเธอพาลูกทั้งสองที่ยังเป็นเด็กไปร่วมงานที่เมืองอื่น ฟรานเชสกาอยู่บ้านคนเดียวนานสี่วัน
ชายคนหนึ่งแวะบ้านของเธอเพื่อถามทาง เขาชื่อ รอเบิร์ต คินเคด เป็นช่างภาพนิตยสาร National Geographic เขามาเยือนไอโอวาเพื่อถ่ายรูปสะพานต่างๆ ในเขตเมดิสัน เขาหลงทางและถามทางไปสะพานจากเธอ
เธอพาเขาไปดูสะพาน และหลังจากคุยกันถูกคอ และถูกชะตากัน เธอชวนเขากินข้าวเย็น
เธอชอบผู้ชายวัยกลางคนผู้นี้ เขามีเสน่ห์บางอย่างที่สั่นไหวใจเธอ
ความรู้สึกแปลกหน้าจางหายไป ความรักความพิศวาสเข้ามาแทนที่ เป็นความสัมพันธ์ยาวสี่วัน
ฟรานเชสกาตกอยู่ในห้วงรักอย่างคาดไม่ถึง เธอไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากเขาต้องจากไป เขาเสนอความคิดว่า เธอไปกับเขา ใจหนึ่งเธอก็อยากหนีไปจากสภาพเดิม อีกใจหนึ่งก็กลัวความไม่แน่นอนของความเปลี่ยนแปลง
2
เขาบอกว่า สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงเสมอ มันเป็นอย่างหนึ่งของธรรมชาติ คนส่วนมากกลัวความเปลี่ยนแปลงŽ
4
ฟรานเชสกาบอกเขาว่า "เราเป็นทางเลือกที่เราเลือก"
2
เขาบอกเธอว่า "คุณคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเกิดขึ้นกับทุกๆ คนงั้นหรือ? สิ่งที่เรารู้สึกกันและกัน? เราแทบจะแยกกันเป็นสองตัวตนไม่ได้แล้ว คนบางคนค้นหาตลอดทั้งชีวิตเพื่อสิ่งนี้ และไม่เคยพบ คนอื่นๆไม่คิดว่ามันมีจริงด้วยซ้ำ"
3
เขาบอกเธอว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
1
เธอตกลงหนีไปกับเขา แต่กลับเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย เธอได้สติและมองความสัมพันธ์นี้อีกครั้งด้วยตรรกะและเหตุผล เธอเห็นว่าควรเลือกรักษาครอบครัวมากกว่า เพราะความรักนี้อาจไม่คุ้ม ราคาของมันแพงเกินไป
12
ฟรานเชสการู้ว่าเธอรักเขา แต่สงสัยว่าชีวิตคู่กับเขาจะมีอนาคตได้อย่างไร เพราะเธอจะต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรียกว่าความรักของเธอกับรอเบิร์ตจะยั่งยืนแค่ไหน หลังจากความพิศวาสจางหาย ยังมีความรักหลงเหลืออยู่หรือไม่
1
ฟรานเชสกาบอกเขาว่า "เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเลือกที่จะแต่งงาน มีลูก ในทางหนึ่งชีวิตเธอเริ่มต้น ในอีกทางหนึ่งมันหยุดลง คุณสร้างชีวิตที่บรรจุรายละเอียดต่างๆ คุณกลายเป็นแม่ ภรรยา และคุณหยุดและยืนหยัดให้มั่นคง เพื่อที่ลูกๆ ของคุณสามารถเคลื่อนได้
5
และเมื่อพวกเขาจากไป พวกเขาก็พาชีวิตที่บรรจุรายละเอียดต่างๆ ของคุณไปด้วย และคุณถูกคาดหวังว่าจะเคลื่อนต่อไป แต่คุณก็จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรกระตุ้นให้คุณสนใจ เพราะไม่มีใครถามคุณมานานแล้ว แม้แต่ตัวคุณเอง คุณไม่เคยคิดว่าความรักแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับคุณ"
10
เขาตอบว่า "แต่ตอนนี้คุณมีสิ่งนั้นแล้ว"
ฟรานเชสกาตอบว่า "ฉันต้องการเก็บมันไว้ตลอดกาล ฉันต้องการรักคุณแบบที่ฉันรู้ไปตลอดชีวิตของฉัน คุณไม่เข้าใจหรือว่า เราจะสูญเสียมันไปถ้าเราหนีไปด้วยกัน ฉันไม่สามารถทำให้ชีวิตทั้งชีวิตหายไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือพยายามยึดไว้ทั้งสองอย่าง โปรดช่วยฉัน ช่วยฉันไม่ให้เสียความรักคุณไป"
10
การจากกันช่วยให้ความรักยังดำรงอยู่
12
เมื่อครบกำหนดสี่วัน เธอตัดสินใจไม่ไปกับเขา ทั้งสองแยกทางกันราวกับว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ทั้งสองหัวใจสลาย
3
มันเป็นการอกหักของคนที่ผ่านวัยหนุ่มสาวมานานแล้ว
3
ฉากท้ายเรื่องที่รอเบิร์ตยืนตากฝนมองดูฟรานเชสกาในรถยนต์กับสามี ทำให้เธอใจสลาย
2
สำหรับฟรานเชสกา ความรักสี่วันนั้นเป็นแผลเป็นในหัวใจ มันไม่มีวันหาย เธอรู้ว่าเธอรักเขาจริงๆ แต่เธอก็เลือกใช้ชีวิตที่เหลือ 'อยู่ไปอย่างนั้นเอง' และ 'อยู่เพื่อลูก' ชีวิตสมรสที่ชืดชา และชีวิตซ้ำซากในไร่ เธอเพียงเก็บเหตุการณ์นั้นไว้ในความทรงจำ ลึกในใจ
4
สามีของเธอก็สัมผัสว่าเธอมีความในใจบางอย่าง เขาพูดก่อนตายไม่นานว่า "ผมรู้ว่าคุณมีความฝันของคุณ ผมเสียใจที่ผมไม่สามารถให้คุณได้"
14
หลังจากสามีตาย ฟรานเชสกาพยายามติดต่อกับรอเบิร์ต แต่พบว่าเขาลาออกจากงานไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปถึงไหน ไม่นานต่อมาก็มีคนส่งของจากรอเบิร์ต เขาตายแล้ว และส่งมอบสิ่งของหลายชิ้นให้เธอ
4
หนึ่งในนั้นหนังสือรูปถ่ายชื่อ Four Days (สี่วัน) อุทิศให้ F (ฟรานเชสกา)
3
เขาสั่งเสียให้โปรยเถ้าของเขาที่สะพานโรสแมน เธอก็มีความปรารถนาเช่นเดียวกัน ตัวอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ขอให้เถ้าอยู่ด้วยกัน ณ จุดเริ่มต้นของความรัก
7
หลังจากความพิศวาสจางหาย ความรักของทั้งสองยังดำรงอยู่มั่นคง
4
ไม่มีใครในครอบครัวล่วงรู้ความลับนี้ของเธอ เธอสามารถปล่อยให้มันตายไปกับเธอก็ได้
2
ฟรานเชสกาเขียนถึงลูกว่า เธออุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อครอบครัว แต่เธออยากมอบส่วนที่เหลือของเธอให้รอเบิร์ต
6
แต่จะให้ลูกทำตามคำขอ ก็ไม่มีทางเลือกต้องอธิบายให้ลูกฟังเหตุผลที่แท้จริง
1
มองในมุมหนึ่ง นี่เป็นหนังโรแมนติก เรื่องเกี่ยวกับความรักของคนที่มีอายุแล้ว หรืออาจบอกว่า การที่ตัวละครเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
7
มันอาจชี้ว่าความพิศวาสและความรักไม่เข้าใครออกใคร
มองอีกมุมหนึ่ง นี่เป็นหนังปรัชญาที่ทำให้เราต้องขบคิดต่อ มันตั้งคำถามหลายข้อในเรื่องประเด็นศีลธรรม ความถูกต้อง ความรัก อิสรภาพ
3
หากความรักสวนทางกับข้อห้ามทางสังคม (ในเรื่องการนอกใจ) มันยังสามารถเรียกว่าเป็นความรักหรือไม่? ชู้เป็นเรื่องทางกายภาพอย่างเดียวหรือ? ชู้เป็นความรักแท้ได้หรือไม่?
2
หากใครคนหนึ่งพบรักแท้หลังจากผูกพันกับคนหนึ่งแล้ว เราจะเรียกมันว่ารักแท้ได้หรือไม่? หรือว่ามันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว? เส้นแบ่งของความรักกับความรับผิดชอบอยู่ตรงไหน? เราต้องรับผิดชอบชีวิตครอบครัวเราขนาดไหน?
8
เหล่านี้เป็นคำถามที่สามารถถกกันได้อีกหลายร้อยปี
สังคมมีภาพตายตัวว่าการนอกใจเป็นเรื่องผิด คนนอกใจเป็นคนไม่ดี จนบางสังคมมีบทลงโทษ เรามักตัดสินคนด้วยสองคำคือ ดีกับไม่ดี ขาวกับดำ ทำให้อาจเห็นภาพไม่ครบ
1
ดังนั้นหากจะถกเรื่องนี้อย่างไร้อคติหรือเงาของศีลธรรม ก็ต้องก้าวพ้นประเด็นถูกและผิดไปก่อน มองโลกและชีวิตด้วยมุมกว้าง เข้าใจกระบวนการทำงานของสังคมมนุษย์ ไปจนถึงคำถามว่าความรักเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และมันมีวันหมดอายุหรือไม่
2
ตัวละครในเรื่องนี้ถูกออกแบบมาสะท้อนคนสองแบบ หนึ่งคือคนที่เดินตามกฎระเบียบ ค่านิยมของสังคม หนึ่งคือคนที่เป็นเสรีนิยม ไม่สนใจกรอบกติกาใดๆ
3
ตัวละคร 'ฟรานเชสกา' เป็นแบบแรก มีความเป็นอนุรักษ์นิยม อาจหลงใหลตามความรู้สึกในใจบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ใช้เหตุผลเป็นตัวกำหนดการแก้ปัญหา
2
ส่วนตัวละคร 'รอเบิร์ต' เป็นคนรักอิสระ ใช้ชีวิตแบบเสรี ไม่ดำเนินชีวิตตามแผนการตายตัว ครั้งหนึ่งเมื่อนั่งรถไฟผ่านเมืองน้อยเมืองหนึ่งในอิตาลี รอเบิร์ตเห็นบรรยากาศเมืองน่าอยู่ ก็ลงจากรถไฟ ใช้ชีวิตระยะหนึ่งในเมืองนั้น
เขาบอกเธอว่า 'เราปล่อยให้วันพาเราไปยังสถานที่ที่เราปรารถนา'
3
เขาเป็นคนแบบนั้น ข้ามพ้นขอบเขตของกติกาและค่านิยม ดังนั้นเขาไม่ใช่คนที่รู้สึกผิดที่คบกับภรรยาของคนอื่น หากเขารู้ว่าฝ่ายหญิงก็รู้สึกเหมือนกับเขา
3
รอเบิร์ตเป็นคนพูดตรง เมื่อรู้ว่ามีเวลาสั้นเพียงสี่วัน ฟรานเชสกาพยายามใช้เวลาสั้นๆ นั้นให้คุ้มที่สุด เพราะรู้ว่า 'ไฮไลต์' ของชีวิตเธอมีแค่สี่วันนั้น ทำให้เขารู้สึกอึดอัด บอกตรงๆ ว่า "ผมไม่รู้ว่าผมทำได้ไหม?"
1
เธอถามว่าอะไร
"พยายามคุยทุกเรื่องให้หมดก่อนวันศุกร์"
เขาเชื่ออย่างจริงใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในสี่วันนั้นเป็นความรักแท้ รอเบิร์ตพบว่าการพบเธอเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขา เขารู้สึกเติมเต็มตัวตนของเขา ความรักนี้ข้ามพ้นความรู้สึกร้อนแบบหนุ่มสาว มันเย็นกว่า มั่นคงกว่า
แต่เขาก็รู้ว่าสำหรับคนหัวเก่า การตัดสินใจทิ้งครอบครัวเป็นเรื่องยากมหายาก
1
เมื่อเธอตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตตามทางเดิม ทิ้ง 'เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต' ไป เขาก็เข้าใจ และยอมรับการตัดสินใจของเธอ
3
เขามองว่า ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจทางใด ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูก แต่ทั้งสองทางเลือกก็มีราคาของมัน นั่นคือทนรับชีวิตเดิมๆ ที่เหลือไปจนตาย
3
ในโลกแห่งความจริง คนไม่น้อยก็เลือกทาง "เพื่อครอบครัว"
4
(อ่านตอนต่อสัปดาห์หน้า วิเคราะห์เรื่องการนอกใจของมนุษย์)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา