16 ม.ค. 2023 เวลา 06:06 • ปรัชญา
“ความคิดเป็นเครื่องมือของกิเลส”
“ … จากผลที่มีอยู่ คือทุกข์
อะไรเป็นเหตุของมัน ไล่ๆๆๆ ไปจนถึงอวิชชา
ก็ไม่รู้ความจริงว่ากายนี้คือทุกข์ จิตนี้คือทุกข์
มันก็เลยเกิดตัณหา เกิดความอยาก
อยากให้กายเป็นสุข อยากให้กายไม่ทุกข์
อยากให้จิตเป็นสุข อยากให้จิตไม่ทุกข์
ก็เพราะไม่รู้ตัวนี้เท่านั้นเอง
ฉะนั้นที่เราฝึกวิปัสสนากรรมฐาน
เรามารู้สึกกาย รู้สึกจิตของเรา
เพื่อวันหนึ่งเราจะได้เห็น
กายนี้คือทุกข์ จิตนี้คือทุกข์
ตอนนี้ยังไม่เห็น
ตอนนี้เห็นว่ากายนี้คือทุกข์บ้างสุขบ้าง
จิตนี้ทุกข์บ้างสุขบ้าง ยังเห็นอย่างนี้อยู่
ไม่เป็นไร ไม่ต้องตกใจ
เห็นอย่างที่มันเป็นเท่าที่รู้สึกได้นั่นล่ะ
แล้วมันจะค่อยๆ แก่กล้าขึ้น
ถึงวันหนึ่งเราจะเห็นเลย
มันทุกข์อยู่เพราะเราไปหยิบฉวยจิตขึ้นมา
ถึงจุดที่แตกหักข้ามวัฏฏะ จะเหวี่ยงจิตทิ้งไป
กลายเป็นธาตุรู้ขึ้นมา
ไม่ใช่จิตที่เป็นตัวกูของกูอีกต่อไปแล้ว
จะเป็นธาตุรู้ เป็นธรรมธาตุ
ค่อยๆ ฝึก ค่อยฝึกไป
วันนี้เล่าให้ฟังตั้งแต่จุดตั้งต้น จนถึงจุดที่จะจบไป
จุดที่จบแล้ว พอจิตเราวางจิตลงไปแล้ว
มันจะเห็นโลกทั้งโลก รวมทั้งร่างกายเรานี้
มันก็ส่วนหนึ่งของโลก
มันเป็นแค่ปรากฏการณ์ที่ไหลเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุดเท่านั้นเอง
อย่างร่างกายเรานี้ว่าของเราๆ
พอตายปุ๊บไป ก็กลายเป็นสมบัติของโลกไปแล้ว
ไปอยู่กับดิน ต้นไม้ก็เอาไปกิน คนไปกินต้นไม้
ส่วนที่เคยเป็นเซลล์ เป็นร่างกาย เป็นวัตถุของเรา
กลายไปอยู่ในร่างคนอื่นก็มี มันหมุนๆ ไปเรื่อยๆ
ทั้งจักรวาลเป็นแค่ปรากฏการณ์ที่ไหลไปเรื่อยๆ
ไม่มีจุดตั้งต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด
แต่ธรรมธาตุที่ไปเห็นจักรวาลที่เคลื่อนไหว
เห็นจักรวาลภายในคือรูปนาม ขันธ์ 5
จักรวาลภายนอกก็ตั้งแต่โลกข้างนอกจนถึงจักรวาลกว้างใหญ่อะไรนั่น
ตัวที่ไปรู้ไปเห็นนั้นไม่มีความเคลื่อนไหว
ที่สุดของทุกข์มันอยู่ตรงนั้นล่ะ
เราจะเข้าไปถึงจุดนี้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า
ถ้าเราปฏิบัติให้ถูก แล้วปฏิบัติให้พอ
ตอนนี้เราก็เริ่มปฏิบัติให้ถูกเสียก่อน
นั่งอยู่ รู้สึกไหม ร่างกายมันนั่ง
ขยับ สมมติขยับอย่างนี้
รู้สึกไหม ร่างกายมันขยับ
หายใจอยู่ รู้สึกไหมร่างกายมันหายใจ
นี่เรากำลังเรียนรู้ทุกข์อยู่ ต่อไปเราจะรู้เลย
ร่างกายนี้มีแต่ทุกข์ ไม่มีอย่างอื่นหรอก
แต่ไม่ใช่คิดเอา ต้องเห็น
ถ้าไม่เห็นล้างกิเลสไม่ได้
คิดเอาเป็นเครื่องมือของกิเลส
ความคิดเป็นเครื่องมือของกิเลส
กระทั่งคิดดีๆ คิดไปคิดมาก็กูเป็นคนดีขึ้นมา
คนอื่นคิดไม่ดี เป็นคนเลว
มีคน มีสัตว์ มีเรา มีเขาขึ้นมา
ฉะนั้นวิปัสสนาเราไม่คิดเอา เรารู้สึกเอา
รู้สึกไหมร่างกายมันนั่ง รู้สึกไหมร่างกายมันหายใจ
ไปทำเอาๆ
แล้วลองไปรีรันฟังที่หลวงพ่อเทศน์วันนี้แล้วทำไปทุกวันๆ
หลวงพ่อท้าเลย ถ้าทำถูกแล้วทำมากพอ
ความพ้นทุกข์ ไม่เหลือวิสัยที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้ …”
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
8 มกราคม 2566
อ่านธรรมบรรยายฉบับเต็มได้ที่ :
รับฟังธรรมบรรยายได้ที่ :
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา