ITC: สรุปธุรกิจและรายได้ในไตรมาส 3/2022
ITC: i-Tail Corporation PCL
Business Model
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัขทั้งผลิตระดับทั่วไป (Mainstream Products) ไปจนถึงระดับพรีเมียม (Premium Product) โดยผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง
ส่วนประกอบหลักจากเนื้อปลาและเนื้อไก่ อีกทั้งยังมีความหลากหลายรูปแบบและให้พลังงานและสารอาหารอย่างเพียงพอสำหรับความต้องการของสัตว์เลี้ยงในแต่ละวัน เช่น เนื้อปลาทูน่าหรือเนื้อไก่ในเกรวี่ (Gravy) น้ำซุป (Broth) เยลลี่ (Jelly) ปาเต้ (Pate) ทั้งที่มีชั้นเดียวและหลายชั้น (Multi-Layer Products)
อาหารแมวในรูปแบบชิ้นเนื้อปลาทูน่าขนาดเล็ก (Tuna Flake) อาหารเม็ด (Kibble) ชิ้นเนื้อนึ่ง (Steamed Chunk) และร็อคสตาร์ (Rockstar) เป็นชิ้นเนื้อโปรตีนที่มีลักษณะและสัมผัสเหมือนเนื้อสัตว์
ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ถูกผลิตขึ้นสำหรับแมวและสุนัขในหลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวและลูกสุนัข วัยกำลังพัฒนา วัยโตเต็มวัย ไปจนถึงวัยชรา เพื่อที่สัตว์เลี้ยงจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมในแต่ละวัย บรรจุภัณฑ์เองก็มีหลากหลายขาดและหลากหลายรูปแบบ เช่น กระป๋อง ถุงสูญญากาศ ซอง ถ้วยพลาสติก และถาดอะลูมิเนียมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมสำหรับอาหารแต่ละชนิด
ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ของบริษัท จะเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก (เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอารหารสัตว์เลี้ยงอันดับสองของเอเชีย และติด 1 ใน 10 ของโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ต่อปี) ที่มีความชำนาญในการผลิตจากเนื้อปลาด้วยกระบวนการอัตโนมัติ ซึ่งมีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็ปรูปรวม 172,784 ตันต่อปี
บริษัทจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมหลากหลายประเภทในรูปแบบการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่รู้จักและชื่นชอบ ซึ่งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้แก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าของบริษัทเหล่านั้นผ่านเครือข่ายการกระจายสินค้าทั่วโลก เช่น ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ประเทศในทวีปยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย
นอกจาก OEM แล้ว บริษัทยังจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของบริษัท ผ่านทางร้านขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง คลินิกรักษาสัตว์เลี้ยง Platform e-Commerce ในประเทศไทย และผ่านทางผู้ค้าปลีกอื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริกา
Brands
1. Bellotta: อาหารแมวระดับพรีเมียม โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง และขนมสำหรับแมวในทุกช่วงอายุ
2. Marvo: อาหารสุนัขเกรดพรีเมียม โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง และขนมสำหรับลูกสุนัขและสุนัขโตเต็มวัย
3. CharngeTer: ผลิตภัณฑ์อาหารแมวที่เป็นมิตรต่อสุขภาพไต โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมอาหารแบบเปียกและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงหลากหลายสูตรที่จะช่วยเสริมสร้างและบำรุงระบบต่างๆของแมว
4. Calico Bay: อาหารแมวแบบเปียกที่ผลิตจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลที่สดใหม่
5. Paramount: อาหารสุนัขแบบเปียกระดับพรีเมียมที่ผลิตจากส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ ย่อยง่าย ดีต่อระบบย่อยอาหาร ผิวหนัง ขน และระบบภูมิคุ้มกัน
Relationship with Partner
บริษัทสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับลูกค้าหลัก 3 อันดับแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 21 ปี และความสัมพันธ์กับลูกค้ารายใหญ่ 10 อับดับแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ปี โดยลูกค้ารายสำคัญหลักๆ เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก เช่น Smucker Mars และ Aixia รวมถึงเจ้าอื่นๆ ที่เป็นลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงและบริษัทค้าปลีกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของโลก
บริษัทมีรายได้จากการขายจากลูกค้ารายใหญ่ 3 อันดับแรกของบริษัท
ในปี 2019 : 2020 : 2021 : 9M2021 : 9M2022
อยู่ที่ 54.9% : 57.3% : 52.8% : 54.4% : 46.5%
ของรายได้จากการขายรวม
Financial Highlight
9M2022
- Revenue: 15,828.8 MB, +52.5% YoY
- GPM: 25.9%
- SG&A To Revenue: 23.3%
- Net Profit: 3,726 MB, +74.7% YoY
- NPM: 23.3%
รายได้จากการขายส่วนใหญ่เรียกได้ว่า 99% มาจากผลิตภัณฑ์รับจ้างผลิต (OEM) และอีก 1% เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัท
รายได้จากการขายจำแนกตามผลิตภัณฑ์ 9M2022
อาหารแมว: 72.0%
อาหารสุนัข: 11.8%
ขนมสำหรับแมว: 8.5%
ขนมสำหรับสุนัข: 7.2%
รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์รับจ้างผลิต (OEM) จำแนกตามลักษณะลูกค้า 9M2022
Pet Food Company: 68.4%
Modern Trade & Specific Store: 28.9%
Importer: 2.7%
รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ในแต่ละประเทศ 9M2022
United States of America: 54.6%
Europe+UK: 15.2%
Japan: 11.0%
Chinese: 3.2%
Thai: 0.9%
Other Countries in Asia & the Oceania Region*: 13.5%
Other Countries in America**: 1.2%
*Other Countries in Asia & the Oceania Region = Malaysia, Australia, South Korea, Singapore and New Zealand
**Other Countries in America = Canada and Brazil
Business Outlook
ใน 3Q2022 บริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างโรงงานใหม่ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 18.7% ของกำลังการผลิตรวม และมีระบบสายพานบรรจุผลิตภัณฑ์อัตโนมัติ (Automated Packing Line) ที่จะช่วยเรื่องของการลดแรงงานและความผิดพลาดจากมนุษย์ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ประมาณ 3Q2023
บริษัทได้มีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิต และใช้ประโยชน์จากสิทธิบัตรต่างๆ ที่ถืออยู่และที่อยู่ระหว่างการรอจดทะเบียนมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง เช่น กระแสความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงอาหารคนกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น (Humanization) รวมไปถึงขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ช่วยดูแลสุขภาพฟัน บำรุงขน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และดูแลระบบทางเดินอาหาร
บริษัทอยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตขนมขัดฟันที่สามารถทานได้ (Edible Animal Chew) และการผลิตขนมสำหรับแมวที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ เช่น การเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบขับถ่าย ระบบสายตา และระบบภูมิคุ้มกัน โดยหนุ่งในสิทธิบัตรที่อยู่ระหว่างการจดทะเบียนของบริษัท จะช่วยให้บริษัทสามารถผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกที่มีหลายชั้นและหลายสีซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว ที่จะทำให้ผู้รับจ้างผลิตรายอื่นลอกเลียนแบบได้ยาก
บริษัทยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มกระแส Humanization ที่ให้ความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นสมาขิกในครอบครัวและเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น และผลจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนครัวเรือนเดี่ยวและคู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรซึ่งมีแนวโน้มในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
จากข้อมูลของ Frost & Sullivan ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโลกมียอดขายปลีกประมาณ 131,000-135,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 และมีการเติบโตอยางแข็งแกร่งและมั่นคงตอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปี 2016-2021 ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 5.5-5.8% และคาดว่าในปี 2021-2026 ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 7.1%
ประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าสนใจที่บริษัทจะเข้าไปขยายธุรกิจ โดยจากข้อมูลของ Frost & Sullivan ในปี 2021 อาหารสัตว์เลี้ยงสำหรับแมวและสุนัขในประเทศจีนมีมูลค่าถึง 8,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฮลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 19.8% และจะมีมูลค่าถึง 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2026 จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจรูปแบบดั้งเดิมของประเทศจีนต้องหยุดชะงัก
ทำให้ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนหันไปใช้ Platform e-Commerce เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้า โดยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ จากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้น นอกจากนี้การเติบโตของชนชั้นกลาง การขยายตัวของเมืองที่รวดเร็ว
การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ และค่านิยมในการแต่งงานและค่อยมีลูกในภายหลัง นำมาสู่การหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างหาโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับคู่ค้าในประเทศจีน หากประสบความสำเร็จ การร่วมมือดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีโอกาสในการสร้างเครือข่ายกับเจ้าของแบรนด์ระดับโลกในประเทศจีนที่บริษัทยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางการค้าด้วยมาก่อน
Summary
ก่อนจะพูดถึง ITC ลองมาดูตัว AAI ที่ทำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน ราคา IPO 5.55 บาท P/E 16.98 เท่า และมี Market Cap ประมาณ 11,794 ล้านบาท ณ วันเข้าเทรดวันแรก ราคาเปิดอยู่ที่ 7.90 บาท ตลาดให้ P/E ประมาณ 24 เท่า ทำให้ราคาเปิดสูงจาก ราคา IPO ค่อนข้างมาก
ทีนี้มาดูตัวของ ITC กันบ้าง ราคา IPO อยู่ที่ 30-32 บาท ตีไปว่า 32 บาท จะมี Market Cap ประมาณ 96,000 ล้านบาท P/E จากที่คำนวณมาคร่าวๆ น่าจะอยู่ราวๆ 21.79 เท่า ค่อนข้างต่างจาก AAI อยู่มาก ถ้าตลาดให้ P/E ใกล้เคียงกับตัว AAI ที่ 24 เท่า ราคาเปิดก็จะอยู่ประมาณ 35.25 บาท แล้วถ้าปิดที่ P/E 27.23 เท่า เหมือน AAI ราคาจะอยู่ประมาณ 39.50 บาท จึงมองว่าราคาวันเปิดน่าจะไม่กระโดดไปไกลจากราคา IPO มากนัก ทั้ง PE ของราคา IPO ที่ใกล้เคียง PE กลุ่ม และเป็นหุ้นใหญ่ที่มี Market Cap ค่อนข้างสูง
ถ้าเทียบกับ IPO ที่เข้ามาแล้วขนาดใกล้เคียงกันคือ BTG ที่มี Market Cap ประมาน 80,000 ล้านบาท P/E ประมาณ 21 เท่า และ TLI ที่มี Market Cap ประมาน 183,200 ล้านบาท P/E ประมาณ 20 เท่า เป็นหุ้นที่มี Market Cap ค่อนข้างสูง ราคาเปิดก็ไม่ได้ไกลจากราคา IPO มากนัก เรียกว่าทรงๆดีกว่า
แต่ถ้ามองที่พื้นฐาน แนวโน้มอาหารสัตว์เลี้ยงโลกก็ยังคงเติบโตอยู่ บริษัทก็มีสิทธิเติบโตไปตามแนวโน้มกลุ่มผลิตภัณฑ์ อย่าลืมประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุนกนนะครับ
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#ITC
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
