24 ม.ค. 2023 เวลา 15:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ

BEC: สรุปธุรกิจและรายได้ในไตรมาส 3/2022

BEC: BEC WORLD PCL
Business Model
เป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งสามารถแยกออกเป็นกลุ่มตามลักษณะของธุรกิจที่ดำเนินกิจการได้ดังนี้
1. กลุ่มธุรกิจคอนเทนต์ | ดำเนินการเกี่ยวกับคอนเทนต์บนแฟลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง โทรทัศน์ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม การจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ ธุรกิจสนับสนุน ที่ดำเนินการโดยบริษัทในกลุ่ม BEC
1.1 แพลตฟอร์มโทรทัศน์: ดำเนินการโดย “บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด” ให้บริการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน (Digital Terrestrial TV “DTTV”)
โดยได้รับในอนญาตประกอบกิจการจาก กสทช. ทั้งหมด 3 ในอนุญาตฯ ได้แก่
1) หมวดหมู่ทั่วไปแบบความชัดสูง “ช่อง 3HD ช่อง 33”
2) หมวดหมู่ทั่วไปแบบความชัดปกติ “ช่อง 3SD ช่อง28”
3) หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว “ช่อง 3FAMILY ช่อง13”
โดยมีกำหนดการอนุญาตรวม 15 ปี สิ้นสุดวันที่ 24 เมษายน 2029
1.2 ดิจิทัลแพลตฟอร์ม: ให้บริการเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ผ่าน CH3Plus ในฐานะผู้ผลิตและนำเสนอคอนเทนต์อย่างเป็นทางการของบริษัท โดยให้บริการรับชมย้อนหลังหลังการออกอากาศบนโทรทัศน์ และออริจินัลคอนเทนต์ (Original Content) รวมไปถึงคอนเทนต์ที่มีการผลิตร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจจากทั้งในและต่างประเทศ
โดยจะให้บริการทั้งในรูปแบบปกติ และแบบ Premium (Subscription) เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น บริษัทยังได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกและในไทย ได้แก่ WeTV, Viu, IQiyi, Youtube, Facebook, AIS Play และ TrueID เพื่อให้คอนเทนต์ของกลุ่ม BEC สามารถเข้าถึงผู้ชมที่อยู่ทุกๆ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม
อีกทั้งยังมี “ธุรกิจเพลง” ที่พึ่งเปิดตัวไปตอนต้นปี ซึ่งมีเพลงที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบันอย่างเพลง “แฟนผมน่ารัก” ของ โบว์ เมลดา Feat. Lipta และยังมีการเปิดตัว “ธุรกิจภาพยนตร์” เรื่อง “บัวผัน ฟันยับ” ที่กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนต์ตอนนี้ เป็นการร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนต์รายใหญ่ “เอ็ม พิคเจอร์ เอ็นเตอร์เทนต์เม้นท์” ทั้งนี้บริษัทมีแผนงานที่จะร่วมกันสร้างภาพยนต์กันอยู่หลายเรื่อง
1.3 การจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ: เป็นการนำคอนเทนต์ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ไปจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศ รวมถึงคอนเทนต์ร่วมกับคู่ค้าประเทศต่างๆ เพื่อออกอากาศทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2018 บริษัทก้ได้เริ่มขายลิขสิทธิ์ละครในรูปแบบ Simulcast พร้อมกับแพลตฟอร์มในต่างประเทศ คือละครเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess” ออกอากาศบนแพลตฟอร์ม Tencent Video (OTT Platform) ที่ประเทศจีน
ซึ่งทำให้เกิดการขยายธุรกิจในรูปแบบอื่นๆตามมา เช่น การจ้างผลิตคอนเทนต์ การร่วมลงทุนผลิตคอนเทนต์ (Co-Production) การจัดงานอีเว้นท์ (Event Activity) การขายสินค้า (Merchandisation) และด้านอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้บริษัทได้มีการทำสัญญาร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อทำให้สามารถขยายตลาดการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศได้หลากหลายมากขึ้น
โดยการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มต่างๆนั้น บริษัทจะรับรู้รายได้ในรูปแบบ Fixed Cost จะมากหรือขึ้นอยู่กับรูปแบบการนำไปใช้ ถ้าเป็นละครที่นำไปฉายบนรายการทีวีต่างประเทศ หลังจากประเทศไทยพึ่งฉายไม่กี่ชั่วโมง ตรงนี้จะได้รับรายได้มากกว่า การจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เก่าๆไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อย่าง Netflix, Viu, WeTV เป็นต้น และมูลค่าลิขสิทธิที่จำหน่ายยังขึ้นอยู่กับ Rating ของคอนเทนต์นั้นๆ อีกด้วย
1.4 ธุรกิจสนับสนุน: เป็นการดำเนินการเพื่อจัดกาและผลิตคอนเทนต์รายการต่างๆ เพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มอื่นๆ
2. กลุ่มธุรกิจ BEC Studio | ดำเนินธุรกิจผลิตคอนเทนต์ เพื่อออกอากาศบนโทรทัศน์ (3HD) CH3Plus และแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการอื่นๆ รวมถึงการสร้าง Original Content ให้กับผู้บริการแพลตฟอร์มในประเทศและต่างประเทศ โดยตัว BEC Studio ประกอบไปด้วยหน่วยงายต่างๆ
เพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจคอนเทนต์ ให้มีศักยภาพในการแข่งขันในอนาคต เช่น การพัฒนาทีมบทละคร, Post Production Studio, CG-Computer Graphics รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับสตูดิโอระดับสากล เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจ ทำให้บริษัทต้องมีหน่วยงานผลิตเป็นของตนเอง เพื่อสามารถบริหารจัดการการผลิตทุกขั้นตอน (คุมต้นทุนได้ง่ายกว่า)
Financial Highlight
รายได้หลักของกลุ่มบริษัท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายสื่อโฆษณาจากสื่อโทรทัศน์ และรองลงมาได้แก่ รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และให้บริการอื่นๆ ประกอบด้วยรายได้จาก 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ รายได้จากการจัดจำหน่ายละครไปยังต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform)
- Revenue: 1,301.7 MB, -3.4% QoQ, +2.3% YoY | ลดลงจากรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC เป็นผลมาจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมในหลายจังหวัดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่งผลให้ความต้องการใช้นาทีโฆษณาลดลง ส่วนรายได้จากาการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศใน 3Q22 อยู่ที่ 94.1 MB +99% YoY และ + 43.5% QoQ จากการขาย Licensing ละครได้มากขึ้น ในขณะที่รายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์มอยู่ที่ 78.6 MB, -0.5% YoY
-19.3% QoQ จาก Global OTT Platform ได้เลื่อนการซื้อ Content ออกไป ตรามเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว รายได้ทั้งสองธุรกิจรวมกันอยู่ที่ 172.7 MB คิดเป็น 13.3% ของรายได้จากกาดำเนินงานของกลุ่ม BEC ในส่วนที่เหลืออีก 86.7% เป็นรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC โดยจะมาจาก ช่อง 3 HD หรือ ช่อง 33 เป็นหลัก
- Gross Profit: 384.7 MB, -5.7% QoQ, +1.7% YoY
- GPM: 29.6% ลดลงจาก 2Q22 อยู่ที่ 30.3% และลดลงจาก 3Q21 ที่ 29.7%
- SG&A: 229.4 MB, +30.6% QoQ, +23.4% YoY | เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายบริหารและค่าใช้สื่อประชาสัมพันธ์และโปรโมทละคร
- SG&A to Revenue: 17.6% เพิ่มขึ้นจาก 2Q22 อยู่ที่ 13.0% และเพิ่มขึ้นจาก 3Q21 ที่ 14.6%
- Net Profit: 111.3 MB, -35.7% QoQ, -22.1% YoY | สาเหตุหลักๆมาจากรายได้ที่ลดลง และ SG&A ที่เพิ่มขึ้น
- NPM: 8.5% ลดลงจาก 2Q22 ที่ 12.8% และลดลงจาก 3Q21 ที่ 11.2%
Business Update 3Q22
อุตสาหกรรมที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 3 อันดับแรกในช่วง 9M2022 ได้แก่
1. กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและเครื่องสำอาง (Personal Care and Cosmetic)
3. กลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีกและร้านอาหาร (Retail Shop/Food Outlets)
Joint Venture ร่วมกับบริษัท เมเจอร์ จอยน์ ฟิล์ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตภาพยนตร์ไทย มีมูลค่าลงทุนรวม 39.40 MB โดยบริษัทใช้เงินลงทุนหมุนเวียนของบริษัทเพื่อลงทุนจำนวน 19.70 MB ถือเป็นสัดส่วน 50% ของการลงทุนในกิจการร่วมค้า
ธุรกิจการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศได้มีการ Simulcast ละครดังนี้
1. พิศวาสฆาตเกมส์ (The Deadly Affair) ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix
2. คือเธอ (Bad Romeo) ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix, Viu และ Tencent
3. ซุปตาร์ 2550 (Suptar 2550) ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix
มีการจัดกิจกรรม “Memorable Meal with “PON”” ซึ่งเป็นกิจกรรม Fandom ของ CH3Plus โดยให้สมาชิกโหวตหัวใจมากที่สุดเป็น Top 10 Spender จะได้เข้าร่วม Exclusive Lunch และ Afternoon Tea Workshop กับ ภณ ณวัสน์
Business Outlook
CAPEX ปีหน้าตั้งไว้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่จะเป็นค่าผลิตคอนเทนต์อย่างละครเป็นหลัก และมองว่ารายได้ของปี 2023 จะดีกว่าปี 2022 อย่างมีนัยสำคัญ
มีการออกอากาศรายการพิเศษ “เปิดวิกบิ๊ก 3 ต้นปีมีลั่น” เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าบริษัท มุ่งเน้นที่จะผลิตคอนเทนต์ที่สามารถตอบสนองผู้ชมทุกช่วงวัยและทุกแพลตฟอร์ม โดยในปีหน้าจะมีการปรับปรุงรายการข่าว มีการร่วมผลิตวาไรตี้กับผู้ผลิตรายใหม่ๆ รวมถึงมีละครฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง เช่น เกมรักทรยศ/ พรหมลิขิต/ ใต้เงาตะวัน/ เพราะรัก/ จนกว่าจะได้รักกัน/ สืบลับหมอระบาด/ หมอหลวง/ สะใภ้สายสตรอง/ ดวงใจเทวพรหม/ เรือนทาส
ตัวธุรกิจ BEC Studio ยังคงมีการเพิ่มพนักงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตละครให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันปีนึงผลิตได้ 10 เรื่องต่อปี คิดเป็น 1 ใน 3 ของละครที่ผลิตทั้งปีเท่านั้น (โดยปกติปีนึงจะมีประมาณ 30 เรื่อง) ที่เพิ่มพนักงานเพราะต้องการลด Outsource และควบคุมค่าใช้จ่ายให้ได้มากขึ้น และยังมีส่วนที่กำลังศึกษาเพิ่มเติมอย่าง Virtual Production ในการถ่ายทำเพิ่มเพื่อลดการออกไปใช้สถานที่จริง (เป็นการลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว) อีกด้วย
ยังมีการทำ IMC หรือ Integrated Marketing Communications เป็นการสร้างคอนเทนต์ที่มีการขายโฆษณาเข้าไปในตัวคอนเทนต์เลย เป็นการสร้างรายได้เพิ่มอย่างนึงในอนาคต โดยปัจจุบันมี 3 คอนเทนต์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต และเป็นคอนเทนต์ที่มีการมุ่งเน้นตลาดวัยรุ่นและตลาดต่างประเทศมากขึ้น
รายได้ส่วนใหญ่จากภาพยนตร์ “บัวผัน ฟันยับ” คาดว่าจะรับรู้ได้ใน 4Q22 นี้เลย
ต้นปีหน้าจะมีการเริ่มตัวธุรกิจใหม่อย่าง การบริหารศิลปิน โดยจะเริ่มจากบางกลุ่มก่อน คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาทั้งปี ในหลัก 10 ล้านบาท
เม็ดเงินโฆษณาในประเทศรอบ 9M2022 เพิ่มขึ้น 11% YoY ส่วนโหญ่มาจากฝั่งของโรงภาพยนตร์ แผ่นป้ายโฆษณาของยานพาหนะ (รถเมล์ รถไฟฟ้า เป็นต้น) และ บิลบอร์ดตามท้องถนน เป็นหลัก ในส่วนของโทรทัศน์นั้นเรียกได้ว่าทรงตัว ตามสภาพเศรษฐกิจ และแนวโน้มของการรับชม TV ของผู้คนที่ค่อยๆลดลง แต่ช่อง 3HD ก็ยังคงได้ Rating อันดับ 1 ของรายการทีวี สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
พูดถึง Rating แล้ว ปีหน้าจะมีการทำ Cross Platform Rating โดยทาง AGB Neilsen Media Research จะทำการรวม Content Rating ในทุกๆ Platform ทั้ง TV และออนไลน์ การชมแบบย้อนหลัง เพื่อดูว่า Content นึงได้กระจายไปยัง Platform ใดบ้าง แล้วปริมาณการรับชมมากน้อยเพียงใด ซึ่งบริษัทคาดว่าจะช่วยในเรื่องของการขายเวลาโฆษณาได้มากขึ้นในปีหน้า
Summary
BEC เป็นหุ้น SET100 ถือว่าใหญ่ในระดับนึง จากแนวโน้มของรายได้ขายเวลาโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของบริษัทมีการเติบโตที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้บริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินกิจการหันมาสร้างคอนเท้นและธุรกิจใหม่ๆมากขึ้นแต่ยังอยู่ในกลุ่มกิจเดิม
เพื่อที่จะไม่พึ่งพิงรายได้จากฝั่งโฆษณามากเกินไป ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากการโฆษณาเม็ดเงินส่วนใหญ่ก็จะไหลตามสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เราต้องติดตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ อย่างใกล้ชิด ว่าธุรกิจไหนจะมาเป็นตัวดันให้บริษัทมีรายได้ในอนาคตที่ดีต่อไปได้ สำหรับคนที่สนใจก็อย่างลืมประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุนกันนะครับ
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#BEC
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น
โฆษณา