24 ม.ค. 2023 เวลา 16:20 • ประวัติศาสตร์

นาฬิกาการ์มิน (Garmin) ค.ศ.1989

ปัจจุบันนาฬิกาไม่ได้ทำหน้าที่แค่บอกเวลาเท่านั้น แต่ถือเป็นแกดเจ็ตที่ใส่ฟังก์ชั่นต่างๆ ไว้มากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่แตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อพูดถึงนาฬิกายอดนิยมที่เป็นไอเท็มติดข้อมือของใครหลายคนในยุคนี้ ชื่อของ “นาฬิกาการ์มิน (Garmin)” เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ
Garmin ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1989 โดยสองผู้ก่อตั้ง Gary Burrell และ Min H. Kao ในขณะนั้นการีเป็นวิศวกรไฟฟ้าได้ชักชวนมิน วิศวกรชาวไต้หวันมาทำงานด้วยกันเพื่อสร้างอุปกรณ์ GPS นำทางเครื่องแรกให้กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของอเมริกา
ซึ่งเป็นระบบที่ล้ำยุคมากเมื่อราว 3 ศตวรรษที่แล้ว ซึ่งทั้งคู่คุยกันว่าระบบ GPS ที่ใช้ในการทหารน่าจะสามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปได้ จึงชวนกันมาเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง
รวมถึงตั้งบริษัท ProNav ขึ้นและได้เปลี่ยนชื่อเป็น Garmin ในภายหลัง โดยเป็นการนำชื่อพยางค์แรกของทั้งสองมารวมกันจนได้คำว่า “Garmin” นั่นเองและพอเรื่องเป็นแบบนี้
NavTalk's ใช้ในกองทัพสหรัฐฯ
พวกเขาก็เริ่มระดมทุนจากครอบครัวและเพื่อน ๆ แล้วจัดตั้งบริษัทขึ้นในปี ค.ศ.1989 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ GPS ที่ใช้กับรถยนต์จนพัฒนาอย่างก้าวล้ำมาอยู่เรื่อยมา
บริษัทเริ่มวางขายผลิตภัณฑ์ตัวแรก เป็นอุปกรณ์ GPS พกพาสำหรับนำทางเครื่องบินโดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีลูกค้าคนสำคัญคือกองทัพสหรัฐฯ ประกอบกับผลิตภัณฑ์ของ Garmin ก็มีคุณภาพดี จนเป็นที่บอกต่อกันในวงการ
ด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ตัวแรก อย่าง GPS สำหรับเครื่องบิน ก็ทำให้ Garmin สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำของตลาดอุปกรณ์ GPS สำหรับรถยนต์ได้ไม่ยาก
ที่น่าสนใจคือ คู่แข่งตัวจริงของ Garmin กลับไม่ใช่ GPS รถยนต์ของแบรนด์อื่น
แต่กลายเป็น “สมาร์ตโฟน” ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถใช้งาน GPS ได้
ในระหว่างการทดสอบตัวนำทางระบบ GPS สำหรับนักปีนเขา Claudette วิศวกรซอฟต์แวร์เกิดไอเดียในการผูกเครื่อง GPS ไว้บนข้อมือ และค้นพบว่าใช้การได้ดีในการติดตามระยะทางและความเร็ว
Forerunner 201
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการส่งมอบข้อมูล Pace และระยะทางที่ได้จาก GPS ไปยังข้อมือนักวิ่ง ซึ่งต่อมาไอเดียนี้พัฒนาไปเป็น Forerunner 201 ในปี 2003 ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้สร้างความแตกต่างและชี้ทางให้การ์มินสู่การเป็นอุปกรณ์สวมใส่เต็มรูปแบบ
หลังจากประสบความสำเร็จและขยายตลาดจนครอบคลุมทั้งการบิน ทางทะเล และอุตสาหกรรมยานยนต์ การ์มินก็ทำการบุกตลาด Wearable หรืออุปกรณ์สวมใส่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Garmin Forerunner รุ่นแรกที่กล่าวไว้ข้างต้น
แต่แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ระบบ GPS เท่านั้น เพราะมีการพัฒนาโดยใส่นวัตกรรมใหม่ๆ เข้าไปด้วย เช่น การวัดค่าออกซิเจน วัดชีพจร และสวมใส่ดำน้ำได้ เป็นต้น จนเกิดเป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่สามารถติดตาม GPS ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งต่อมาก็ได้แตกไลน์ออกมาอีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในปัจจุบัน
การ์มินมีทั้ง Wearable Device และ Smartwatch หลายรุ่นที่ถูกออกแบบทั้งเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชั่น และฟีเจอร์ต่างๆ ให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ อาทิ ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
นาฬิกา Forerunner 225 คือรุ่นแรกที่นาฬิกาวิ่งพร้อมวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
รวมถึงหมวดนาฬิกาออกกำลังกายที่ยังแตกไลน์มาโดยเฉพาะสำหรับนักวิ่ง ว่ายน้ำ กอล์ฟ ฟิตเนส และดำน้ำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทุกซีรี่ส์ของนาฬิกาจะมีฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างเช่น การติดตามการเดิน
ติดตามการนอนหลับและการเต้นของหัวใจ กันน้ำ เชื่อมต่อกับ GPS และวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อนาฬิกาการ์มินรุ่นไหนก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
จะเห็นได้ว่าสมาร์ตวอตช์อย่างการ์มินมีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามกิจกรรมที่มุ่งเน้น ไลฟ์สไตล์ ความชอบ ความสนใจ และเป้าหมาย จนกลายเป็นแบรนด์สมาร์ตวอตช์ที่ตอบโจทย์และประสบความสำเร็จมากอีกแบรนด์หนึ่งในปัจจุบัน
คาดว่าในอนาคตแบรนด์จะต้องพัฒนาด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ให้เลือกสรรอย่างหลากหลายเพื่อให้ชีวิตนั้นดำเนินไปอย่างง่ายขึ้นแน่นอน
เกร็ดเล็กน้อย
ปี 2018 รายได้ 110,466 ล้านบาท กำไร 22,905 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 123,998 ล้านบาท กำไร 31,432 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 138,157 ล้านบาท กำไร 32,747 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ มาจาก
- กลุ่มฟิตเนส 31%
- กลุ่มกิจกรรมกลางแจ้ง 27%
- กลุ่มการเดินทะเล 16%
- กลุ่มการบิน 15%
- กลุ่มยานยนต์ 11%
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference นาฬิกาการ์มิน (Garmin) :
โฆษณา