CV: สรุปธุรกิจและรายได้ในไตรมาส 3/2022
CV: CLOVER POWER PCL
📌Business Model
บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และเป็นผู้ให้บริการด้านงานวิศวกรรมพลังงานครบวงจร ทั้งก่อสร้างโรงไฟฟ้า บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา บริการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า ตลอดจนลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ
1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า (Power Producer) ณ ข้อมูล Q3/22 มีโรงไฟฟ้าที่เปิดทำการ COD ทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่
1.1 โรงไฟฟ้าชีวมวลโคลเวอร์ เพาเวอร์ (CVP): Capacity 9.40 MW | PPA 8.00 MW
1.2 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (SPP): Capacity 7.36 MW | PPA 6.80 MW
1.3 โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โคลเวอร์ พิจิตร (CPX): Capacity 2.00 MW | PPA 1.88 MW
1.4 โรงไฟฟ้าชีวมวล โคลเวอร์ พิษณุโลก (CPL): Capacity 4.90 MW | PPA 4.50 MW
และยังมีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอีก 3 โครงการ ที่รอการเซ็นสัญญา PPA กับทางภาครัฐ จำนวน Capacity 19.8 MW
2.ธุรกิจเชื้อเพลิง (Fuel Supply):
2.1 ทางบริษัทได้เข้าไปลงทุนในบริษัท DKC Energy ในประเทศเวียดนาม ซึ่ง DKC Energy ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellets) ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 100,000 ตัน/ปี และ ณ ข้อมูลล่าสุด Q3/22 ทาง CV ถือหุ้นอยู่ 60%
ในช่วง October 2022 ทางบริษัทได้เริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ Wood Pellets ในรอบแรกไปทีเรียบร้อยแล้ว และมีแผนจะส่งออกในรอบที่สองในช่วง January 2023
***เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellets) จัดเป็นประเภทหนึ่งของเชื้อเพลิงที่ทำจากไม้ ซึ่งโดยทั่วไปจะผลิตจากขี้เลื่อยหรือเศษวัสดุจากการผลิตไม้แปรรูป หรือเศษไม้ที่เหลือใช้จากโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าหรือการให้ความร้อนกับที่อยู่อาศัย
2.2 โรงงานทำเกี่ยวกับเชื้อเพลิงขยะ ทางบริษัทได้นำเข้าเครื่องจักรจากประเทศจีน ซึ่งจะสามารถนำเข้าและติดตั้ดเสร็จในช่วง Q2/23 (Installed Capacity 50,000 ตัน/ปี) โดยทางบริษัทจะเน้นใน 2 ส่วนหลัก คือ
1.ขยะอุตสาหกรรม เพื่อส่งให้กับโรงไฟฟ้า CPX ของทางบริษัทเพื่อลดต้นทุน และเพิ่ม Gross Profit
2.ขยะชุมชน ซึ่งทางบริษัทพึ่งได้ใบอนุญาตให้สามารถผลิตขยะชุมชน เพื่อส่งออกให้กับทางบริษัทภายนอกได้เรียบร้อยแล้ว
***“ เชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel: RDF) ขยะที่เผาไหม้ได้โดยการนําขยะมูลฝอยชุมชนมาผ่านกระบวนการบําบัดทางกายภาพ อาทิการคัดแยก การลดขานาด และการลดความชื้น เหมาในการเป็นเชื้อเพลิงเสริมในภาคอุตสาหกรรม/ชุมชน โรงไฟฟ้าจากขยะ และเตาเผาขยะมูลฝอยชุมชน
3.ธุรกิจวิศวกรรม (Valued EPC): รูปแบบงาน จะแบ่งออกได้เป็น 4 แบบ ได้แก่ RENEWABLE
ENERGY, ENERGY CONSERVATION, GENERAL CONSTRUCTION, MODULAR
งานด้านวิศวกรรมแบ่งงานออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่ งานออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักร การก่อสร้าง/ติดตั้ง และการดำเนินเครื่อง/ซ่อมบำรุง
ปี 2022 ทางบริษัทจะเน้นอยู่ใน 2 ส่วนหลัก คือ
3.1 กลุ่มการก่อสร้างทั่วไป (General Construction): อาทิเช่น ตึก อาคาร
3.2 กลุ่ม Modula: จากข้อมูล Q3/22 ทางบริษัทมี New Contact Blacklog ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มผลิตโครงสร้างภายในปลายปี 2022 และจะเริ่มส่งมอบในช่วง January 2023
*** ระบบโครงสร้างแบบ Modular System คือระบบการก่อสร้างอาคารรูปแบบหนึ่งที่ลดความซับซ้อนของโครงสร้างอาคาร โดยทำให้มีลักษณะสำเร็จรูปมากกว่าโครงสร้างเหล็กปกติ จึงเหมาะกับอาคารที่มีรูปร่างเป็นทรงกล่อง
➕ Financial Highlight 9M/2022
- Revenue Ratio: Power Producer 27.05%, Fuel Supply 5.92%, Valued EPC 64.04%
- Revenue: 1,400ล้านบาท, +37% YoY
- Gross Profit: 209 ล้านบาท, -3% YoY
- Gross Profit Margin (9 Month): ของ 3 Product มี Margin (%) ดังนี้
1️⃣Power Producer 18.3% จาก 9M/2021 ที่ 25.8% | ลดลง เพราะ ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นของ โรงไฟฟ้า SPP ซึ่งมากกว่าราคาขายไฟฟ้าของบริษัท ทำให้ ตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินเครื่องจักรได้ตามปกติ (ตามข้อมูล Q3/22)
2️⃣Fuel Supply 16.5% จาก 9M/2021 ที่ 0%
3️⃣Valued EPC 12% จาก 9M/2021 ที่ 18.3%
ลดลง เพราะ สัดส่วนรายได้หลักของกลุ่มนี้
ในช่วง 9 Month มาจากกลุ่มการก่อสร้างทั่วไป ซึ่งมีต้นทุนของค่าวัสดุ/อุปกรณ์ที่เพิ่มสูงขึ้น
- SG&A: 138 ล้านบาท, +18% YoY | เพิ่มขึ้น มาจาก ค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงงาน บริการที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา/กฎหมายในการทำโปรเจคใหม่
- %SG&A: 9% จาก 9M/2021 ที่ 11%
- Net Profit: 38 ล้านบาท, -63% YoY | ลดลง สัดส่วนรายได้หลักของทางบริษัท มาจาก สินค้า Valued EPC & Power Producer ซึ่งเมื่อสินค้า 2 กลุ่มนี้ ทำ Margin (%) ได้ลดลง ก็จะส่งผลต่อผลกำไรของบริษัท
- EPC Backlog : Modular 50 ล้านบาท, General Construction 2,000 ล้านบาท, Renewable Energy 150 ล้านบาท
✨Future Plan
- ภายใน 2023-2025 คาดว่าจะรอการเซ็นสัญญาและก่อสร้าง โรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โรงไฟฟ้า
- คาดว่าภายใน ปี 2025 ในเบื้องต้นบริษัทจะเข้าไปศึกษาการดำเนินงานโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ประเทศญี่ปุ่น อยู่ที่ราว 20 MW
- ภายในปี 2023 จะเริ่มมีการขยายโรงงานผลิต Wood Pellets เพื่อเพิ่ม Capacity 50%
💕Summary
Q4/22 ธุรกิจโรงไฟฟ้า และ EPC คาดว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ในส่วนของ Fuel Supply จะเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการส่งมอบ Wood Pellets เมื่อเดือน Oct 2022 และยังมีสัญญาที่จะส่งมอบอีก 11,000 ตัน ภายในต้นปี 2023
สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) ที่กำลังเติบโตสูงในประเทศญี่ปุ่นเพื่อใช้ในภาคของการผลิตไฟฟ้า ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านตันในปี 65 จาก 1.2 ล้านตันในปี 62 ขณะที่การผลิตของญี่ปุ่นมีเพียง 1.26 แสนตัน จึงต้องพึ่งการนำเข้าส่วนที่ขาดจากต่างประเทศประมาณ 4.9 ล้านตัน
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#CV
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
