17 ก.พ. 2023 เวลา 11:30 • ท่องเที่ยว
ลอนดอน

ป่ะ ไปเดินเที่ยวลอนดอนกะเราอีกวันกัน...ก็เมืองมันน่ารักอ่ะ 🥰

ลอนดอนของฉัน
Chapter 55/3: My London Day 4
ไรเนี่ย…อยู่ๆ ก็ข้ามมาวันที่ 4 เฉยเลย เดี๋ยวจะนึกว่าคนเขียนเมากาแฟรึป่าว 🤪 โนว ถ้าใครติดตามมาก่อนคงรู้ละว่าเรื่องราวของวันที่ 3 มันรวมอยู่ใน Chapter 55/2 แล้วนะจ๊ะ
1
มาต่อกันดีกว่า มะวานหนุกหนานมาก ได้ไปที่ใหม่ๆ หลายที่เลย และวันนี้เราก็จะยังคงเดินเล่นสำรวจลอนดอนกันอีกเช่นเคย ป่ะ…สะบัดแข้งสะบัดขาเปลี้ยๆ แล้วรีบดีดตัวออกมาเลยดีกว่า ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ เพราะยังไม่หายเมื่อยเล้ย ท่านผู้โชมมม 🫠
วันที่สี่ วันนี้สิ่งแรกที่ทำคือ ออกไปซื้อโดนัทร้านตรงข้ามบ้านมารับทานก่อน
Donutelier by Roladin
ร้าน Donutelier นี่เล็งมาตั้งแต่วันแรกที่มาถึงละเพราะขนมเค้าหน้าตาน่ากินมากกก แต่ผ่านไปทีไรก็คนเยอะคิวยาวออกมาหน้าร้านทุกที วันนี้สบโอกาสคนไม่เยอะ รีบเข้าไปซื้อก่อนเลย
Donutelier by Roladin
เจ้าของร้านเป็นคนอิสราเอล เอาสูตรขนมแสนอร่อยมาเปิดร้านที่ลอนดอน ขายโดนัทเป็นหลัก (ตามชื่อร้านเลย) แต่ก็มีขนมอบอื่นๆ ทั้งครัวซองต์ คุ้กกี้ และก็เดนิช พนักงานแนะนำโดนัทที่เป็น signature ของร้านให้จะมี St. Honore กะ Pistachio (2 ชิ้นบนในรูป)
Donutelier by Roladin
เราเลือกเดนิช Pistachio Raspberry กะ Hazelnut Praline (2 ชิ้นล่าง) มาเพิ่มเพราะดูดีมาก…ตอนซื้อคือหิวมากนั่นเอง แต่เราก็กินได้แค่วันละชิ้นนะทุกคน ไม่งั้นเดี๋ยวเบาหวานขึ้นตาแน่ 😣
1
หลังจากเจี๊ยะเดนิช Pistachio ไปหนึ่ง…OMG ขนมเค้าอร่อยมากเลย แป้งกรอบหน่อยๆ หอมราสเบอรี่ กรุบๆ ถั่วพิตาชิโอ มันโคตรเข้ากันเลย แต่ชิ้นที่กินวันต่อๆ มาก็จะอร่อยน้อยลงไปตามเวลา นี่ถ้าไม่ขี้เกียจควรซื้อวันละชิ้นจะดีมาก
เติมพลังเสร็จแล้วก็ออกไปเจอเพื่อนคนเดิมที่ทุ่มเทกับการเป็น Local Guide ให้เรามากๆ 😆 วันนี้ยังคงพาเราออกไปสำรวจลอนดอนอย่างเมามันอีกวัน
เดินมาเจอคนกลุ่มนี้ใส่ชุดเหมือนเสื้อครุยกำลังมุ่งหน้าไปไหนกันไม่รู้ แต่ชุดสีสะดุดตามาก
อู้วว อากาศตอนบ่ายกำลังแจ่มเลย
เดินผ่านบ้านใครไม่รู้ประตูสวยจัง
ที่แรกที่เรามาคือ Bleeding Heart Yard
Bleeding Heart Yard
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Bleeding Heart Yard ว่า ในสมัยต้นศตวรรษที่ 17 ที่นี่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น มีคนพบศพของ Lady Elizabeth Hatton ถูกฆาตกรรมโดยเอกอัครราชทูตสเปน สภาพศพคือแขนขาขาดแต่หัวใจของเธอยังคงสูบฉีดเลือดอยู่ เลยเป็นที่มาของชื่อสถานที่นี้นี่เอง
Bleeding Heart Yard
เดินต่อมาถึงแถว Castle Baynard จะเจอกับรูปปั้นแมวพูดได้ Hodge The cat
Hodge The cat
น้องเค้าไม่ได้พูดได้จริงๆ หรอก มันจะดูหลอนเกินไป 👻 เค้าให้สแกนที่ QR แล้วจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแมวตัวนี้ว่าน้องเป็นแมวตัวโปรดของ Dr. Samuel Johnson นักเขียนชื่อดังของอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 18
ที่หน้ารูปปั้นน้อง Hodge จะเห็นเปลือกหอยนางรมที่น้อง Hodge เค้าชอบกิน หูววว…ดูหรูเนอะเอาหอยนางรมมาเลี้ยงแมวซะด้วย 🤔 แต่จริงๆ แล้วในสมัยศตวรรษที่ 18 หอยนางรมมีอยู่มากมายตามชายฝั่งของอังกฤษ และมีราคาถูกมากจนเป็นอาหารหลักของคนยากจน เค้าก็เลยเอามาเลี้ยงแมวด้วยน่ะ
เชื่อกันว่าใครที่มาเยี่ยมชมรูปปั้นนี้แล้ววางเหรียญบนเปลือกหอยนางรมจะนำความโชคดีมาให้ด้วยนะ (แต่เราก็ไม่ได้วางค่ะ เอาตังไปกินกาแฟดีกว่า แหะ)
จากน้องแมว เดินทะลุตรอกซอกซอยแถวนั้นมาเรื่อยๆ จะเจอกับผับเก่าแก่บนถนน Fleet Street (แม๋ ที่นี่ผับเก่าแก่ช่างเยอะจริงๆ)
Ye Olde Cheshire Cheese
ผับนี้ออกเสียงยากอยู่ Ye Olde Cheshire Cheese (ยีโอลดีเชชเชอร์ชีส) ขนาดคนอังกฤษยังบอกยากเลย 🤣
ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1538 โน่น เคยผ่านวิกฤติไฟไหม้ครั้งใหญ่ในลอนดอนหรือ The Great Fire เมื่อปี ค.ศ. 1666 มาด้วย ต่อมาได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Listed Building (คืออาคารที่ได้รับการพิทักษ์คุ้มครองไม่ให้ทำการรื้อถอน ต่อเติม เปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานวางแผนท้องถิ่นก่อน) ทุกวันนี้ผับนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่นะ
เดินต่อมาจะเจอกับ St Bride's Church
St Bride's Church
สังเกตุที่ยอดโบสถ์ ดูคุ้นๆ มะ
St Bride's Church
นี่คือที่มาของเค้กแต่งงานที่เราเห็นเป็นชั้นๆ แบบทุกวันนี้นี่เอง 😄
เรื่องมีอยู่ว่าในปี ค.ศ. 1700 มีคนทำขนมปังที่อาศัยอยู่ใกล้กับ Ludgate Hill เขาต้องการทำเค้กแต่งงานให้ประทับใจคู่หมั้นของเขา วันหน่ึงเขาผ่านมาแถวนี้แล้วพลันสายตาของเขาก็ไปเห็นยอดหอคอยของ St. Bride's เลยเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเค้กแต่งงานแบบมียอดเป็นชั้นๆ ขึ้นมานั่นเอง 🎂
เราเดินกลับมาแถว St Paul's Cathedral อีกครั้งเพราะอยากมาถ่ายรูปปั้นนี้ เมื่อคืนที่เดนผ่านมามันมืดมากถ่ายแล้วไม่เห็น
The Wild Table of Love
งานประติมากรรมนี้ชื่อ The Wild Table of Love ซึ่งเจ้าของผลงานต้องการรณรงค์ให้ผู้คนเห็นถึงความสำคัญในการปกป้องชีวิตสัตว์บนโลกโดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ที่นั่งรายล้อมอยู่รอบโต๊ะและเป็นแขกรับเชิญของงานเลี้ยงนี้
งานชิ้นนี้เค้าให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมด้วยการเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ 2 ตัวที่ว่างอยู่ตรงกลางได้ด้วย น่ารักดี
จาก The Wild Table of Love เราเดินต่อไปที่ Postman's Park
Postman's Park
ที่นี่คือ Memorial to Heroic Self-Sacrifice หรืออนุสรณ์สถานของวีรชนผู้เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อช่วยผู้อื่น (เช่น ช่วยคนจากอุบัติเหตุต่างๆ จนตัวเองต้องเสียชีวิต) สร้างโดยจิตรกรและประติมากร George Frederic Watts เมื่อปี ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นการรำลึกถึง Golden Jubilee หรือพิธีกาญจนาภิเษกของพระราชินี Victoria
Memorial to Heroic Self-Sacrifice
ที่เห็นอยู่ด้านในคือแผ่นป้ายสลักรายชื่อของเหล่าวีรชนทั้งหลาย ที่แม้เค้าจะเป็นแค่ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติ แต่การกระทำของเขาเหล่านั้นก็ยิ่งใหญ่และน่ายกย่องไม่แพ้กัน
Museum of London
เราเดินผ่าน Museum of London ที่อยู่ในย่าน City of London ซึ่งปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว
London Wall
ถึงแล้ว London Wall
London Wall ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมันตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 200 เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันเมืองท่าที่มีความสำคัญที่ชื่อ Londonium ซึ่งก็คือลอนดอนในปัจจุบันนั่นเอง
London Wall
London Wall ถูกทำลายไปบางส่วนจากการขยายเมือง และที่เหลือก็เกิดการชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจนเหลือเพียงเท่าที่เห็น แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากและยังคงเป็นคำถามต่อมาคือ ชาวโรมันในสมัยนั้นเค้าใช้เทคโนโลยีอะไรในการก่อสร้าง ถึงทำให้ London Wall มีความแข็งแรงทนทานและยังคงอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบัน น่าทึ่งจริงๆ 👍👏
จาก London Wall เราเดินต่อไปที่ Leadenhall Market
Leadenhall Market
นี่ตลาดหรือคะเนี่ย สวยโฮกกกก 🤩
Leadenhall Market
Leadenhall Market อยู่ในเขต City Of London สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1321 โน่นแน่ะ เดิมทีเป็นตลาดขายเนื้อสัตว์ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ไวน์ และผับมากมาย
ก็เหมือนเดิมอ่ะนะ มาช่วงคริสต์มาส ร้านก็ปิดกันเกือบหมด เลยไม่ได้เห็นอะไรเลย 😭 แต่แค่นี้ก็คุ้มค่าเมื่อยที่เดินมาละ 😆 เอาจริงๆ เราไม่เคยเห็นตลาดอะไรสวยขนาดนี้มาก่อนเลย
 
จาก Leadenhall Market เดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอกับตึก 30 St Mary Axe
1
30 St Mary Axe
30 St Mary Axe ตึกที่มีรูปทรงเหมือนแตงกวาเลยทำให้ตึกนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า "เกอร์คิน" (The Gherkin) หรือแตงกวาดอง ด้วยความโดดเด่นนี้เองทำให้ตึกนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของลอนดอนไปแล้ว ในไทยเราก็มีตึกที่หน้าตาคล้ายเกอร์คิน คือ The Pearl Bangkok ค่ะ
ตึกที่นี่สวยๆ ทั้งนั้น
เดินจนมาเจอ Spitalfields Market ตลาดที่เราเคยมาเมื่อครั้งที่แล้ว ดีใจจัง
Spitalfields Market
เพราะเราตั้งใจว่าจะกลับมาที่นี่อีก แล้วก็บังเอิ๊ญคุณเพื่อนพาเดินมาถึงนี่เองโดยไม่ได้นัดหมาย super guide จริงๆ 😆
Spitalfields Market
Spitalfields Market เป็นตลาดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในลอนดอน เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1666 แล้ว เป็นตลาดที่จัดว่าเท่ห์มากสำหรับเรา เพราะที่นี่มีครบไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ รถ Food truck แผงขายอาหาร street food และแผงขายของงานฝีมือต่างๆ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็น Art Market ศูนย์รวมของการซื้อขายแลกเปลี่ยนงานศิลปะอีกด้วย
ป.ล. จะมี New Spitalfields Market ด้วยนะอยู่ที่ Leyton อันนั้นจะเป็นตลาดขายส่งผักและผลไม้ อย่าไปผิดที่นะคะ 😄
Spitalfields Market
แต่ตอนนี้เริ่มมีวิบากกรรมเล็กน้อยคือข้างนอกฝนตกแล้ว อ่ะ…เดินเล่นในตลาดกันต่อไป
Spitalfields Market
แต่จนแล้วจนรอดฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย คงต้องยอมเปียกกันซะแล้ว 😩 ดีนะที่แค่ตกปรอยๆ
Spitalfields Market
เอาจริงๆ เราก็ไม่เคยเจอฝนตกที่ลอนดอนเลยด้วยซ้ำ เพราะคราวก่อนที่มาก็โชคดีโฮกที่อากาศดีทุกวัน แดดสวยๆ ไม่มีฝนเลย ตอนนั้นมีแต่คนบอกว่าเราโชคดี แต่คราวนี้ไม่รอดค่ะ ชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว 🌧️
เดินผ่านมาเจอร้านสเต็ก Flat Iron ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ลองซักที คราวหน้าจัดแน่ๆ 😋
Flat Iron
เราเดินลุยฝนที่ตกๆ หยุดๆ ต่อไปยัง Brick Lane ย่านที่คนฮิปๆ เค้าไปเดินกัน (ขอนับเราด้วยนะ 😆)
Brick Lane
Brick Lane ในสมัยก่อนถือว่าเป็นย่านเสื่อมโทรมของลอนดอน เพราะเต็มไปด้วยคนยากจนและคดีฆาตกรรมมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคดี Jack The Ripper นั่นเอง
Brick Lane
ปัจจุบัน Brick Lane กลายเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเก๋ๆ มากมาย มีตั้งแต่ของมือสองแบบวางขายกับพื้น มีแผงขายของทั้งแบบชั่วคราวไปจนถึงร้านค้าที่จัดอย่างเป็นระเบียบ เป็นที่รู้กันว่าใครต้องการของแนวๆ ของอาร์ตๆ เสื้อผ้าแนววินเทจหรืองานศิลปะคูลๆ มาหาได้ที่ Brick Lane Market
1
Brick Lane
โอ้ว วันนี้ก็สนุกไม่แพ้เมื่อวานเลย เราได้มาทั้งที่ใหม่ๆ และที่ที่เคยมาและก็ประทับใจทุกที่บอกเลย !!! นี่คงหลงรักลอนดอนเข้าเต็มเปาไปซะแล้วซีเรา 😆
สำหรับ Blog นี้ขอจบเอาดื้อๆ ตรงนี้เลยละกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ไว้พบกันใน Blog ต่อไปของซีรีย์ลอนดอนนะคะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา