8 มี.ค. 2023 เวลา 12:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

RBF: สรุปธุรกิจและรายได้ในไตรมาส 4/2022

RBF: R&B FOOD SUPPLY PCL
Year End 2022
📌 Business Type
ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท เช่น อังเคิลบาร์นส์, เบสท์ โอเดอร์ และ super-find เป็นต้น
📌 Financial Highlight
🔶4Q22
🔹 Revenue: 1,005 MB, +1.1% QoQ, +8.3% YoY
🔹 GPM: 32.1% จาก 3Q22 อยู่ที่ 32.1% และ 4Q21 อยู่ที่ 31.8%
🔹 %SG&A: 19.3% จาก 3Q22 อยู่ที่ 19.7% และ 4Q21 อยู่ที่ 18.9%
🔹 %EBITDA: 20.3% จาก 3Q22 อยู่ที่ 17.6% และ 4Q21 อยู่ที่ 17.8%
🔹 Net Profit: 94 MB, -14.7% QoQ, -9.2% YoY
🔹 NPM: 9.4% จาก 3Q22 อยู่ที่ 11.1% และ 4Q21 อยู่ที่ 11.2%
🔶Year End 2022
🔹 Revenue: 3,961.21 MB, +17.1% YoY
🔹 Gross Profit: 1,345.8 MB, +6.96% YoY
🔹 GPM: 34.0% จาก 2021 อยู่ที่ 37.2% | ลดลงจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรต่ำเติบโตมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง และจากผลกระทบของต้นทุนวันตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง และการปรับขึ้นราคาค่าไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น
🔹 %SG&A: 19.3% จาก 2021 อยู่ที่ 19.6%
🔹 %EBITDA: 20.3% จาก 2021 อยู่ที่ 22.7%
🔹 Net Profit: 482.3 MB, +14.8% YoY
🔹 NPM: 12.2% จาก 2021 อยู่ที่ 12.4%
📌 Revenue Breakdown
🔶 By Product 2021 >> 2022
🔹 Flavor & Food Color: 35.3% >> 32.6%
🔹 Food Coating: 39.5% >> 45.1%
🔹 Dried Food: 6.3% >> 6.9%
🔹 Frozen Product: 2.0% >> 1.5%
🔹 Plastic Packaging: 0.7% >> 1.0%
🔹 Trading Product: 16.2% >> 12.9%
🔶 By Customer 2021 >> 2022
🔹 Industrial: 84.0% >> 83.1%
🔹 Wholesale: 7.7% >> 8.6%
🔹 Retail: 8.3% >> 8.2%
🔶 By Location 2021 >> 2022
🔹 Domestic: 82.5% >> 79.4%
🔹 Oversea: 17.5% >> 20.6%
📌 Business Outlook
🔹 Flavour for Pet Food | เริ่มดำเนิงานและมียอดขายเข้ามาแล้ว เป็นตลาดที่เติบโตเร็ว และรับราคาที่สูงได้ (คนรักหมาแมวรักมากกว่าลูก) ยอมจ่ายแพงมากกว่าค่าข้าวตัวเอง ปีนี้จะทำการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
🔹 Natural Flavour | ผู้คนหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เป็นการเอาใบผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ต่างๆ มาทำเป็น Natural Reaction Flavour มากขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี
🔹 ในส่วนของ Food Coating จะเน้นการส่งออกผลิตภัณฑ์ซอสและผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ในการปรุงอาหารสำหรับลูกค้ากลุ่ม Retail มากขึ้น เนื่องจากเติบโตค่อนข้างเร็ว
🔹 ปี 2023-2024 จะเน้นการพัฒนาสูตรเพื่อให้ Raw Material ถูกลงเรื่อยๆ เช่น การสังเคราะห์ขึ้นมาเอง การหา Supplier มากขึ้น หาวัตถุดิบทดแทนมากขึ้น โดยเล็งเห็นความสำคัญที่ว่า ประเทศที่มีทีม R&D ไปอยู่ประเทศนั้นก็จะโตเร็ว ปี 2023 จึงเน้นที่ลงทุนในเรื่องของ R&D และ Lab ที่ต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีทีม R&D ที่ เวียดนามและอินโดนิเซียแล้ว ประเทศต่อๆไปที่เล็งไว้คือ อินเดีย ญี่ปุ่น และ สหราชอาณาจัร
🔹 Sales | แนวโน้มยอดขาย Jan-Feb ที่ผ่านมา ยอดขายของ Flavour เติบโต และเริ่มมีลูกค้าจากประเทศจีนเข้ามาติดต่อ Tasting และ Order บางแล้ว ในส่วนของ Coating คาดว่าอาจมีการชะลอตัวในปีนี้ จากการนำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์ Frozen อาจจะลดลง ตามสภาวะเศรษฐกิจยุโรป และอเมริกา
ยอดขายของเวียดนามและอินโดนิเซียคาดว่าปี 2023 ก็ยังคงการเติบโตแบบ 2 Digits ต่อเนื่องใกล้เคียงกับปี 2022 ที่ผ่านมา ที่เติบโตในระดับ 30% (เวียดนาม + อินโินิเซีย คิดเป็นรายได้ประมาณ 80% ของรายได้จากต่างประเทศ) ส่วนการเติบโตของอินเดียจะเน้นในกลุ่ม Coating และจีนจะเน้นในกลุ่ม Flavour ส่วนประเทศญี่ปุ่นจะเน้นทำการตลาด แต่รายได้จะเข้าประเทศไทย อินโดนิเซีย หรือเวียดนาม เนื่องจากนำจากประเทศดังกล่าวไป
🔹 Cost | แนวโน้มของต้นทุนในช่วง 1Q23 ตัวข้าวสาลีมีการปรับราคาลดลงมาแล้วพร้อมกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากปลายปีที่แล้ว ทำให้ต้นทุนของข้าวสาลีลดลงมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนของ Flavour ต้นทุนค่อนข้างนิ่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว คาดว่าจะทรงตัวต่อเนื่องไปทั้งปี
🔹 Capacity Utilization Rate | ปัจจุบันในกลุ่ม Flavour อยู่ในระดับ ~90% สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้โดยไม่ต้องเพิ่มโรงงาน แต่จะเพิ่ม Working-Hour ก็จะได้อีกเท่านึงเลย กลุ่ม Food Coating ในไทยคาดว่าแตะ 100% ปัจจุบันมีเวียดนามมาช่วยเสริม ทำให้ฝั่งไทยสามารถส่งไปขายที่อินเดียได้ และอินโดนิเซียเต็ม 100% แล้วและกำลังสร้างโรงงาน Phase2 อยู่
🔹 Guidance 2023
- Sales Growth > 15-20%
- GPM และ NPM คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1-2%
📌 Summary
ปี 2023 นี้คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2022 จากเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนทำให้ต้นทุนยังคงอยู่ในระดับสูงถึงแม้ราคาวัตถุดิบจะลงมาแล้วก็ตาม ตั้งแต่ 1Q23 เป็นต้นไปราคาวัตถุดิบจะเริ่มปรับลดลงเรื่อยๆและคงตัว ความกังวลน่าจะเหลือไม่กี่เรื่องอย่าง ผลกระทบของเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปและอเมริกาอาจทำให้ Demand ลดลงแต่ไม่ได้เป็นสัดส่วนใหญ่ของ RBF จึงไม่ต้องกังวลมากนัก
โดยในปีนี้บริษัทเองก็จะเน้นการขยายการเติบโตไปยังอินเดียและจีนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีประชากรมากถ้าสามารถเจาะตลาดได้โอกาสเติบโตจะสูง โดยจะเน้นไปที่การนำ Food Coating เข้าไปเจาะตลาดก่อน เนื่องจาก Trend เปลี่ยนแปลงเร็วว่า ตัวของ Flavour ถึงแม้ Margin น้อยกว่า Flavour ซึ่งถ้าตีตลาดได้เร็วก็ยิ่งส่งผลต่อการนำสินค้าอื่นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้การเติบโตเร็วขึ้นนั้นเอง
ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร Surprise ก็คาดว่าปีนี้ RBF จะเติบโตไปได้ด้วยดี นักลงทุนที่สนใจอย่าลืมประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุน
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#RBF
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา