Bee Gees สามพี่น้องผู้ขับกล่อมเสียงสวรรค์
“The Disco Kings” “Britain’s First Family of Harmony” และ “The Kings of Dance Music” สมญานามเหล่านี้ต่างเป็นสิ่งที่สื่อตั้งให้เพื่อยกย่องความยิ่งใหญ่ของ “Bee Gees”
ผู้ที่ตลอดเส้นทางสายอาชีพของพวกเขาแล้วทั้งยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินมากมาย
โดยเรื่องราวของ 3 พี่น้องที่ขับกล่อมเสียงเพลงด้วยเสียงอันไพเราะดั่งเป็นเสียงสวรรค์นี้ มีดวงชะตาชีพจรลงเท้า ต้องเดินทางไปมาอยู่บ่อยครั้ง…
📌 จุดเริ่มต้นการเป็นนักดนตรีตั้งแต่เด็ก
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น ทั้ง 3 เกิดที่เกาะขนาดไม่ใหญ่นัก ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเกาะบริเตนใหญ่และเกาะไอร์แลนด์ ชื่อว่า “Isle of Man”
แต่ตั้งแต่เยาว์วัยพวกเขาก็ต้องเดินทางสู่เมืองบ้านเกิดของพ่อที่ Chorlton ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
และในปี 1955 ขณะที่ Barry Gibb อายุเพียง 9 ขวบ ส่วน Robin Gibb และ Robin Gibb อายุเพียง 6 ขวบ
พวกเขาก็ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนตั้งวงดนตรีแรกของพวกเขาขึ้นมาใช้ชื่อว่า “The Rattlesnakes”
แต่โชคชะตาชีพจรลงเท้าของครอบครัวก็ไม่หยุดลง เมื่อปี 1958 ครอบครัว Gibb ก็จำเป็นต้องเดินทางอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการเดินทางไกลสู่ดินแดนออสเตรเลีย
ซึ่งที่ออสเตรเลียนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของวง “BGs” ซึ่งบางคนก็เชื่อกันว่าย่อมาจาก “Brothers Gibb”
แต่บางคนก็บอกว่าไม่ใช่
ชื่อวง BGs ต่อมาก็กลายมาเป็น Bee Gees แบบที่เรารู้จักกันในปัจุบัน
หลังจากสั่งสมชื่อเสียงเพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยจนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จุดเปลี่ยนสำคัญของวงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับการเดินทางอีกทีหนึ่ง เมื่อพวกเขามีโอกาสได้มาทำเพลงที่อังกฤษอีกครั้งหนึ่ง
📌 หนึ่งในวงที่ดังที่สุดในโลก
หลังจากกลับมาที่อังกฤษ พวกเขามีงานเพลงที่มีชื่อเสียงออกมามากมาย เริ่มจากบทเพลงดราม่าชื่อดังอย่าง “Massachusetts (ปี 1967)” “I’ve Gotta Get a Message to You (1968)” “I Started a Joke (1968)” และ “How Can You Mend a Broken Heart (1971)”
แต่อัลบั้มที่เปลี่ยนให้ Bee Gees กลายเป็นหนึ่งในวงที่โด่งดังที่สุดในโลกจริงๆ คือ “อัลบั้ม Saturday Night Fever” ที่ออกมาในปี 1977
โดยมีบทเพลงชื่อดังที่อมตะไร้กาลเวลาอย่าง “How Deep is Your Love” “Stayin’ Alive” และ “Night Fever”
อัลบั้มนี้กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลด้วยยอดขายกว่า 40 ล้านชุด และยังชนะรางวัล Grammy Awards หลายรางวัล รวมถึงรางวัลอัลบั้มแห่งปี
หลังจากนั้น Bee Gees ยังกลายเป็นไอคอนของเพลงดิสโก้ที่รุ่งเรืองสุดขีดในยุค 70-80 และมีผลงานเพลงอะไรออกมาก็ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ
ในปี 1997 Bee Gees ถูกจัดเข้าสู่ “Rock and Roll Hall of Fame” โดยระบุว่า มีเพียงแค่ Elvis Presley, the Beatles, Michael Jackson, Garth Brooks และ Paul McCartney ที่มียอดขายชนะ Bee Gees ได้!!
ในปี 2015 Bee Gees ยังได้รับรางวัล “Lifetime Achievement” จากเวที Grammy Awards อีกด้วย
ในช่วงเส้นทางสายดนตรี แม้ทั้งสามพี่น้องจะมีช่วงที่แยกกันทำงานบ้าง แต่สายสัมพันธ์ของพี่น้องครอบครัว Gibb ก็ไม่เสื่อมคลาย
และพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า ความเป็นพี่น้องเป็นส่วนประกอบพิเศษของความสำเร็จของ Bee Gees
อย่างในตอนที่ Maurice Gibb ถึงแก่กรรม Barry Gibb ผู้เป็นพี่ใหญ่ก็ได้ออกมากล่าวว่า
“พวกเราไม่ใช่ Bee Gees ในตอนนี้ เพื่อเป็นเกียรติให้กับ Mo
(ชื่อเล่นของ Maurice)”
(We are not the Bee Gees now, in respect for Mo)
Barry Gibb
ซึ่งปัจจุบัน Barry Gibbs ก็เป็นเพียงคนเดียวจากสามพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่
แม้เราไม่มีโอกาสจะได้เห็นวง Bee Gees แสดงสดอีกต่อไป แต่เชื่อได้เลยว่า บทเพลงจากเสียงสวรรค์ของพวกเขาจะคงอยู่ในใจของแฟนคลับไปอีกนานแสนนาน
เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference:
เครดิตภาพ: AP Photo
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
