18 มี.ค. 2023 เวลา 04:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ชิวเยียน ยอดหญิงพลิกชะตา ความรักและการนับถือตนเอง

ตอนแรกที่คิดว่าลืมเขียนเรื่องนี้ไป แต่พอกลับมาดูจริง ๆ แล้ว ค่อยคิดได้ว่า ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงประเด็นเรื่องสิทธิสตรีเท่าไหร่ จึงเห็นเป็นซีรีส์รักโรแมนติกธรรมดา
พอกลับมาดูอีกรอบ ประกอบกับซีรีส์จีนที่ได้ดูในช่วงเวลาที่ผ่านมา พูดเรื่องการนับถือตนเองของผู้หญิงจีนในสังคมปัจจุบันแทบจะทุกเรื่อง ก็เลยคิดได้ว่ามีประเด็นให้เขียนถึงเหมือนกัน
ก่อนอื่นเรื่องนี้แม้จะเป็นซีรีส์เครื่องแต่งกายโบราณ แต่เป็นมุมมองของผู้หญิงในยุคปัจจุบันล้วน ๆ
ชิวเยียน เป็นลูกเมียน้อยที่ถูกเมียเอาเลี้ยงแทน เพราะแม่แท้ ๆ ไม่สนใจใยดี สนใจแต่ลูกชาย เพราะถือเป็นทายาทของครอบครัว แต่เธอไม่ยอมแพ้โชคชะตา ไม่ยอมให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของตนเอง จากที่ถูกผู้หญิงหัวโบราณในครอบครัวไม่ชอบเพราะชอบแหกประเพณี แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเธอที่เป็นผู้นำ ดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวได้สถานะคืนมา
ชิวเยียน ไม่ใช่นางเอกแสนดี แต่เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ หลอกใช้ผู้ชาย เพื่อเป้าหมายของตนเอง
แม้จะได้พบคนที่เธอรัก และเขาก็รักเธอ แต่เธอเลือกทิ้งเขาเพื่อไปตามหาความฝันของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวว่าจริงๆ แล้วทิ้งได้ทุกอย่างเพื่อผู้ชายคนนั้น ก็เกือบจะสายเกินไป ท้ายที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายของคำว่าความรัก
ถ้ามองกันเฉพาะเรื่องบท คาแรกเตอร์ตัวละคร การดำเนินเรื่อง ความน่าติดตาม ก็ต้องบอกว่าเป็นซีรีส์ที่สนุกเรื่องหนึ่งเลย โปรดักส์ชั่นดีงาม นักแสดงเล่นดีทุกคน
แต่ประเด็นที่อยากพูดถึง ว่าด้วยเรื่อง สิทธิสตรี จริง ๆ ไม่ค่อยชอบคำนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าทุกวันนี้มันถูกใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมืองมากเกินไป
ในฐานะเป็นคนเจนเอ็กซ์ ไม่เคยรู้สึกว่าในสังคมไทยผู้หญิงจะไม่เท่าเทียมกับผู้ชายตรงไหน
เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตอนเรียนจบใหม่ ๆ มีเรื่องเดียวที่หงุดหงิดนิด ๆ คือ ประกาศรับสมัครงานสายกฎหมายมักเขียนว่า ตำแหน่งนี้รับเฉพาะผู้ชาย เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายหากต้องเดินทางไปต่างจังหวัด กับเป็นที่รู้กันว่าถ้าผู้หญิงจะได้งาน ต้องคะแนนดีกว่าผู้ชาย อะไรงี้
เนื่องจากไม่คิดจะทำงานสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่ได้สนใจมากนัก หลังจากทำงานไป 5-6 ปี เพื่อนผู้ชายยังคงทำงานในออฟฟิศ ในขณะที่เราไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ทั้งในประเทศต่างประเทศ บางครั้งก็เดินทางคนเดียวไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนด้วยซ้ำ
การกีดกันผู้หญิงลักษณะนี้เป็นอยู่ไม่กี่ปี ก็ไม่มีแล้ว
เรื่องที่ผู้หญิงพูดกันในแง่ความเท่าเทียม เป็นประเด็นว่า ผู้หญิงเก่งเกินไปมักหาสามีไม่ได้ ดังนั้น ผู้หญิงต่อให้ฉลาดแค่ไหนก็ควรแกล้งโง่ (ฮา)
ผู้เขียนต่อต้านเรื่องนี้มาก ในเมื่อฉันเก่ง ทำไมฉันต้องแกล้งโง่
ส่วนความกังวลว่าเดี๋ยวผู้ชายกลัว ไม่มีใครมาจีบ อันนี้ไม่จริง เพราะมันก็มีคนมาจีบอยู่ดี ส่วนจะลงเอยกันหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับการทำงาน การใช้ชีวิต ผู้เขียนไม่เคยถูกเพื่อนผู้ชายที่เรียนมาด้วยกันบูลลี่เลย ในทางกลับกันเพื่อนผู้ชายค่อนข้างให้เกียรติด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ละเลยที่จะดูแลในฐานะที่เราเป็น “ผู้หญิง”
วันก่อนคุยประเด็นนี้กับรุ่นน้องเจนวายที่ทำงาน แล้วแปลกใจว่า ผู้ชายเจนหลัง ๆ ไม่รู้จักวิธีดูแลผู้หญิงเท่าที่ควรจะเป็น
น้องรุ่นนี้ก็บอกว่า เพราะพ่อแม่อย่างรุ่นพี่ไม่ได้สอนนี่
อ้าว...จะสอนก็หาว่าไดโนเสาร์ หัวโบราณ ใด ๆ คือเป็นความผิดของคนรุ่นก่อน 5555
อีกเหตุการณ์หนึ่ง มีอยู่ช่วงหนึ่งผู้เขียนมีโอกาสไปใช้ชีวิตสั้น ๆ ที่ออสเตรเลีย เวลานั้นมีนักเรียนจากเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลี ไปเรียนภาษากันเยอะ
เจ้าของบ้านที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ด้วย เคยแสดงความเห็นว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นมาเรียนหนังสือ ทำโน่นทำนี่ เพราะอยากเอาชนะผู้ชาย แต่ยูมาที่นี่ ยูทำเพื่อตัวเอง
นั่นเป็นมุมมองที่ผู้เขียนไม่เคยคิดมาก่อน เพราะเราไม่เคยอยู่ในสังคมที่ถูกกดเอาไว้จนต้องอยากลุกขึ้นมาเอาชนะใคร
ดังนั้นเวลามีประเด็นเรื่องสิทธิสตรี ผู้เขียนมักคิดในใจว่า อยากได้อะไรก็แก้กฎหมายสิ สังคมไทยไม่ได้ต่อต้านสิทธิสตรีสักหน่อย จะว่าไปก็แก้ไปได้ตั้งหลายเรื่องแล้ว
ผู้เขียนมองว่าปัญหาจริง ๆ ของผู้หญิงไทย ไม่ว่ายุคสมัยไหน เป็นเรื่อง การนับถือตนเอง ( self esteem) มากกว่า
ถ้าคุณนับถือตัวเอง ให้เกียรติตัวเอง คนอื่นก็จะนับถือและให้เกียรติคุณ
จากประสบการณ์ เพื่อนบางคน ชีวิตการทำงานกำลังรุ่งเรือง แต่ตัดสินใจลาออกจากการงาน ย้ายที่อยู่เพื่อมอบชีวิตทั้งหมดให้ผู้ชาย ท้ายที่สุดก็เลิกกัน ยังโชคดีที่เธอมีครอบครัวซัพพอร์ต ชีวิตจึงไม่ได้ลำบากอะไรนัก
เรื่องนี้ชิวเยียนเป็นตัวอย่างได้ดี นางไม่เคยเอาชีวิตไปฝากไว้กับใคร มีเป้าหมายในชีวิต ทำมาหากินด้วยเอง ต่างจากน้องสาวและผู้หญิงทุกคนในครอบครัวในสังคมอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การนับถือตัวเองก็ต้องระวังว่า หากไปสุดขั้ว มันคือความเห็นแก่ตัว เหมือนที่ชิวเยียนได้บทเรียน
จริง ๆ แล้ว ระหว่างความรักกับความนับถือตัวเองของเรา อาจไม่ได้จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มันสามารถดำเนินไปพร้อม ๆ กันได้
มันคือศิลปะในการชีวิต ที่มีรูปแบบของใครของมัน ไม่มีสูตรสำเร็จ
เมื่อเป็นชีวิตของคุณ อย่ายอมให้ใครมาตัดสินคุณ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา