21 มี.ค. 2023 เวลา 16:04 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “ฤทธิ์มีดสั้น” Part 3 (ส่วนของคำคม สไตล์การเขียน และข้อคิดสอนใจ)

เล่มที่ 23
สไตล์การเขียนของผู้เขียนก็เช่นเดิม ระหว่างเล่าเรื่องก็มีการแทรกข้อคิดสอนใจ คติธรรมมาระหว่างการเล่าเรื่อง ซึ่งตรงนี้ทำได้แนบเนียนเช่นเดิม ไม่รู้สึกว่าแปลกแยกไม่เข้ากับเนื้อเรื่อง บางครั้งถึงกับแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นความคิดของตัวละครที่ผู้เขียนใส่ไป หรือเป็นความคิดของผู้เขียนเอง
การเล่าเรื่องราวทำได้ดี มีการตัดสลับฉากไปมาทำให้เรารู้สึกเหมือนกับกำลังดูหนังหรือซีรีส์อยู่ ระหว่างทางยังมีตัวละครหลากหลายบุคลิก ใช้อาวุธแปลกพิสดาร คอยมาสร้างเรื่องราวให้กับนวนิยายมีสีสันมากขึ้น การดำเนินเรื่องไม่มีน่าเบื่อ แม้จะไม่มีฉากต่อสู้อลังการให้เรานึกภาพถึงกำลังภายในยิ่งใหญ่ ระเบิดภูเขา แต่ก็ยังอ่านสนุกแบบไม่อยากหยุดอ่าน ผู้เขียนสามารถสะกดใจคนอ่านได้ด้วยบทสนทนาอันคมคาย พร้อมกับการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามตลอดเวลา
การบรรยาฉาก สภาพแวดล้อม ไม่เยิ่นเย้อ ใช้คำได้เห็นภาพชัดเจน ทำให้ง่ายแก่การจินตนาการ
การสอดแทรกข้อคิดในเรื่องของความรักทำได้ดี อย่างเช่น ความรักของอาฮุย ที่แสดงให้เห็นถึงการหลงงมงายในความรัก แม้อาฮุยจะเป็นคนที่ปฏิภาณไหวพริบดีเพียงใด แต่เมื่อรักแล้วคล้ายกับเป็นคนตาบอดหูหนวก ยินยอมให้สตรีหลอก ไม่ว่าสตรีว่ากล่าวอย่างไรก็พร้อมจะเชื่อ ผู้อื่นว่ากล่าวอย่างไรต่างไม่สำคัญ และนี่ก็เป็นรักแรกของอาฮุย ซึ่งทำให้อาฮุยยากที่จะถอนตัว
“ทุกคนได้ อาฮุยไม่ได้” ใครอ่านไปสักพักแล้วจะเข้าใจวลีนี้ และสงสารอาฮุยมาก
ความรักของลี้คิมฮวง ก็เป็นตัวอย่างของความรักที่เน้นการเสียสละ ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข ไม่ว่าตนจะทุกข์ทรมานเพียงใด และการทำให้คนที่รักมีความสุขไม่จำเป็นต้องครอบครอง ทุกผู้คนต่างรู้สึกความรักของลี้คิมฮวงรันทด หดหู่ ยกเว้นลี้คิมฮวงที่รู้สึกตนเองทำถูกแล้วที่ยกคนรักและทรัพย์สินของตนทั้งหมดให้เพื่อนรัก
ส่วนตัวรู้สึกว่าผู้เขียนบรรยายให้เห็นมุมมองด้านการผิดหวังในความรักระหว่างชายหญิงออกมาได้อย่างรันทดเจ็บปวดถึงใจคนอ่านมาก
แต่ก็ยังมุมมองความรักที่ดูสดใสอยู่บ้าง เช่นความรักของซุนเซี่ยวอั๊งเป็นมุมมองของผู้หญิงที่ไปจีบผู้ชายก่อน เป็นรักที่บริสุทธิ์และรอคอยได้ เปิดใจแบบตรงไปตรงมา
การสอดแทรกข้อคิดในเรื่องความรักที่มารดามีต่อบุตร อย่างเช่น ลิ่มซีอิม ที่รักลูกแบบตามใจ ไม่ว่าลูกตนเองกระทำเรื่องเลวร้ายใดก็ยังเข้าข้างลูกตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าผู้อื่นบอกว่าลูกตนเองกระทำผิดร้ายแรงเพียงใดต่างไม่ยินยอมเชื่อ
ความรักของมิตรภาพระหว่างลี้คิมฮวงและอาฮุย ต่างมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ไม่ว่าผู้อื่นว่ากล่าวสหายของตนเป็นคนเยี่ยงไร มีแต่ตัวมันที่รู้ว่าสหายของตนเป็นเช่นไร ต่างปกป้องและคอยช่วยเหลือกันมาตลอด แม้บุคคลทั้งโลกจะเป็นศัตรูกับสหายของตน ตนก็ไม่คล้อยตามเสียงส่วนใหญ่ เพราะเชื่อใจสหายของตนว่าไม่ได้กระทำเรื่องใดผิด
คำคมของเรื่องนี้มีมากมาย เช่น “ทรัพย์สิน อำนาจ ชื่อเสียง และศักดิ์ฐานะ ต่างพอทอดทิ้งได้ง่ายดาย แต่มีความทรงจำบางประการ ความทรงจำที่ปวดร้าวขมขื่น มากกว่าหวานชื่นดื่มด่ำ กลับคล้ายเป็นแคร่หนักอึ้ง สลัดไม่หลุด ตัดไม่ขาด ลืมเลือนมิได้ตลอดกาล”
“เล่นลวดลายกับผีพนันในตอนพนัน ใส่ยาพิษในจอกสุราของปิศาจสุรา ชมเชยหญิงอื่นว่าสวยงามต่อหน้าภริยาตัวเอง…มิว่าผู้ใดกระทำเรื่องทั้งสามนี้ ต่างต้องสำนึกเสียใจภายหลังแน่นอน”
“คนเสเพล ปิศาจสุรา มิเห็นที่ใดไม่ดี นั่นยังประเสริฐกว่าวิญญูชนจอมปลอมสวมหน้ากากออกหลอกลวงมากมายนัก หรือมิใช่”
“คนต่ำทรามในสายตาของชาวโลก ไม่แน่ว่าล้วนต่ำทรามทั้งสิ้นก็จริง แต่วิญญูชนในสายตาคนชาวโลก จะมีสักกี่คนที่เป็นวิญญูชนแท้จริง”
“ความรัก นับเป็นเรื่องพิสดารที่สุดจริง ๆ มันบางครั้ง สามารถบันดาลให้คนโง่เขลากลายเป็นฉลาดปราดเปรื่องที่สุด แต่บางครั้ง กลับสามารถบันดาลให้คนชาญฉลาดกลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาได้”
“ในโลกไม่มีบุรุษใดสามารถเข้าใจสตรีได้อย่างจริงจัง หากมีผู้ใดเห็นว่ามันเข้าใจอิสตรี ความทุกข์ทรมานของมันจะต้องใหญ่หลวงยิ่งกว่าผู้อื่น”
“บุรุษคนใดเมื่อรักสตรีโดยจริงจัง หูของมันจะกลายเป็นหนวก นัยน์ตาจะกลายเป็นบอด คนที่ฉลาดปราดเปรื่องชัด ๆ ก็กลายเป็นโง่เขลาเบาปัญญาไปได้”
“เรื่องที่สวยงามมักเป็นเช่นฟองสบู่อยู่เสมอมา ปรากฏวูบก็หายวับ หากคิดจะฝืนกำลังไปรั้งมันไว้ ที่แลกได้มามักเป็นความเจ็บช้ำและเคราะห์กรรมเสมอ”
“ความจริงดีชั่วอยู่ที่ความคิดวูบเดียว ระดับของเทพยดากับอสูรร้ายก็เป็นเช่นเดียวกัน”
ที่ผมชอบที่สุด คงเป็นตอนที่อาฮุยกล่าวไว้ว่า “ฟ้าดินกลัวท่านกระหาย จึงให้น้ำแก่ท่านดื่ม ฟ้าดินกลัวท่านหิวโหย จึงให้พืชพันธุ์ธัญญาหารแก่ท่านรับทาน ฟ้าดินกลัวท่านหนาว จึงให้ฝ้ายให้แพรพันธุ์แก่ท่านป้องกันความหนาว ฟ้าดินทุ่มเทแก่ท่านมากมายถึงปานนี้ ท่านกระทำเรื่องราวใดเพื่อฟ้าดินบ้าง บิดามารดาเลี้ยงดูท่านมา แรงกายแรงใจที่ทุ่มเทยิ่งใหญ่หลวงกว่า ท่านเคยกระทำสิ่งใดทดแทนแก่บิดามารดาบ้าง”
อ่านจบแล้วพอจะจับใจความแง่คิดที่ผู้เขียนสอดแทรกมาในหนังสือได้คือ
1.ความทรงจำที่รันทดขมขื่นบางเรื่องแม้เราพยายามจะลืมกลับไม่สามารถลืมเลือนได้
2.วิญญูชนที่แท้จริงจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นวิญญูชนจอมปลอม
3.สัจธรรมของชีวิต เราทุกคนล้วนแก่ชรา ไม่ว่าอดีตเราจะเคยมีชีวิตที่รุ่งโรจน์เพียงใด แต่สักวันเราก็ต้องแก่ชรา
4.เพื่อนแท้หายาก สหายรักมีเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
5.อย่าไว้ใจผู้อื่นเกินไป แม้เราจะซื่อตรงกับผู้อื่น แต่ก็ใช่ว่าผู้อื่นจะซื่อตรงกับเราอย่างที่เราแสดงออกไป
6.วาจาที่กล่าวไปไร้ประโยชน์ ไม่กล่าวออกไปจะเหมาะสมกว่า คนบางคนต่อให้เราพูดอธิบายเหตุผลดีเลิศอย่างไรให้เขาฟัง หากเขามีจิตแน่วแน่ที่จะไม่เชื่อสิ่งที่เราพูด ต่อให้พูดไปเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์
7.ชีวิตมนุษย์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ต่างมีเรื่องที่ตนเองรู้สึกหดหู่ ผิดหวัง ไม่พึงพอใจ แต่อย่างไรก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป
8.เรื่องที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องข่มกลั้นตัวเองให้สงบเยือกเย็น เพราะแม้จะกระวนกระวายไปก็ไม่มีประโยชน์
9.การพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ คือความสุขที่แท้จริง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา