George Soros ภาค 1: การโจมตีค่าเงินปอนด์ที่สาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์
การโจมตีค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่สาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ หรือ Black Wednesday มีที่มาอย่างไร
George Soros พ่อมดการเงินคนสำคัญมีเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
เงินยูโรเริ่มใช้อย่างเป็นทางการคือ ปี 2002
ก่อนที่จะเป็นสมาชิกของการใช้เงินยูโร ได้ต้องแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และวินัยทางการคลัง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าแข็งแกร่งพอที่จะไม่ฉุดสกุลเงิน European Single Currency ให้อ่อนแอ
หนึ่งในกลไกที่เกิดขึ้น คือ ERM (Exchange Rate Mechanism)
วิธีการคือ การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน โดยให้อัตราแลกเปลี่ยน ของสกุลเงินที่เล็กกว่า เข้าไปตรึงค่ากับอัตราสกุลเงินที่มีความแข็งแรงที่สุด
เช่น สกุลเงิน Deutsche Mark ของเยอรมนีตะวันตก ถูกกำหนดให้เป็นสกุลเงินอ้างอิง
โดยสกุลเงินอื่นที่เข้ามาตรึงค่าเงินต้องมีอัตราแลกเปลี่ยนแบบตายตัวหรือ Fixed Rate
สำหรับสกุลเงินที่ต้องเข้ามาตรึง ได้แก่ เงิน Lira ของอิตาลี, Peso ของสเปน และ Pound Sterling ของสหราชอาณาจักร
การใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบตายตัวหรือ Fixed Rate หมายความว่า ถ้าค่าเงินสกุลใดสกุลหนึ่งอ่อนตัวลง ธนาคารกลางของประเทศนั้น ก็ต้องเอาเงินเข้าไปสมทบเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของค่าเงิน
ไทยเองก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็ใช้ อัตราแลกเปลี่ยนแบบตายตัวหรือ Fixed Rate
กลับมาที่อิตาลี ถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัวดีมากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และกำลังจะแซงหน้าอังกฤษ ในช่วงศตวรรณที่ 90
เงิน Lira จึงถือว่ามีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง
ขณะที่อังกฤษ เศรษฐกิจในทศวรรษที่ 80 ยังไม่ฟื้นตัวจากสงครามโลกเท่าที่ควร และยังเจอปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรง ตั้งแต่สมัย Margaret Thatcher ที่อยู่ในตำแหน่ง 11 ปี
ดอกเบี้ยในเวลานั้นอยู่ที่ 10% พอเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจไม่โต นี้คือปัญหาที่รุมเร้าสหราชอาณาจักรในเวลานั้น
ตอนนั้นเป็นที่ถกเถียงว่า สหราชอาณาจักรควรจะเข้าไปร่วมใช้เงินสกุลยูโรหรือไม่
Margaret Thatcher ถือว่าเป็นกลุ่ม Eurosceptic (คือ ไม่แน่ใจว่าอังกฤษควรเข้าร่วม)
แต่ด้วยเสียงเรียกร้องทำให้ในวันที่ 8 ตุลาคม 1990 Pound Sterling ได้เข้าร่วมกลไก ERM
โดยตรึงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 1 Pound Sterling เท่ากับ 2.95 Deutsche Mark
ถ้าหาก Pound Sterling อ่อนค่าลง จนอยู่ที่ 2.773 Deutsche Mark
ธนาคารอังกฤษต้องเข้ามาแทรกแซงทันที
มาถึงยุคนายกฯ John Major ที่ถัดมาจาก Margaret Thatcher เขามีความเชื่อว่าสหราชอาณาจักรจะเดินหน้าได้ ต้องเข้าร่วมการใช้สกุลเงินเดียว
และเขาเองพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาค่าเงินปอนด์ สามารถรักษาเสถียรภาพเมื่อเทียบกับ Deutsche Mark
ภายใต้กลไก ERM ธนาคารกลางของอังกฤษต้องรับบทหนักในการตรึงค่าเงินปอนด์ให้เป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ตายตัว
ทุกธุรกรรมล้วนมีอิทธิพล ที่ทำให้ธนาคารกลาง ต้องเข้ามาดูแล
เมื่อมีคนซื้อสกุลเงินดังกล่าวเยอะ ธนาคารกลางต้องรักษาสมดุลด้วยการขายสกุลเงินของตัวเองออกไป
แต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้ามีคนเทขายสกุลเงินของตัวเอง ทำให้ค่าเงินอ่อน ธนาคารกลางต้องเข้าไปแทรกแซงด้วยการอุดหนุนเงินสำรองเข้าไปด้วย
เศรษฐกิจอังกฤษในเวลานั้นอยู่ในช่วงถดถอย ด้านหนึ่งต้องลดดอกเบี้ย
แต่ก็เจอปัญหาเงินเฟ้อ สูงกว่าเยอรมนี 3 เท่า
ทำให้สกุลเงินปอนด์อ่อนลง ซึ่งถ้าปริมาณเงินสำรองไม่พอ ก็ต้องออกจาก ERM
อังกฤษเจอความท้าทายรุมเร้า แถมเริ่มมีนักเกร็งกำไรมองว่า เงินปอนด์อ่อนค่ากว่าความเป็นจริง หมายความว่า ข้างในกลวง ถ้าเจอวิกฤตหนักๆ อังกฤษต้องยอมลดค่าเงิน
ถ้าหากนักลงทุนเล่น Short Position ค่าเงินอ่อนในสถานการณ์แบบนั้น
ก็จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
นักเกร็งกำไรที่เห็นโอกาสนั้น คือ George Soros
เขาใช้วิธีไหนทุบค่าเงินจนได้เงินหลักพันล้านปอนด์
ติดตามตอนต่อไป
ที่มา : Wealth History EP.25
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
