13 พ.ค. 2023 เวลา 08:58 • หนังสือ

#9 The Ra Contact Volume 1 — SESSION 1️⃣ (ส่วนที่ 2)

ราห์ ในหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
▪️ผู้แปล : แอดมิน
🔸นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมากๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸
.
.
.
[1.3] QUESTIONER : I've heard of the name “Ra” in connection with the Egyptians. Are you connected with that Ra in any way?
[1.3] 𝐐 : ฉันเคยได้ยินชื่อ "ราห์" ที่เกี่ยวข้องกับชาวอียิปต์ คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ราห์ ที่เป็นเทพเจ้าของชาวอียิปต์ในทางใดทางหนึ่งหรือไม่❓
RA : I am Ra. Yes, the connection is congruency. May we elucidate?
𝐑𝐀 : ฉันคือราห์ ใช่แล้ว ฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง เราขอชี้แจงได้ไหม❓
[1.4] QUESTIONER : Please do.
[1.4] 𝐐 : ได้โปรดให้ความกระจ่างกับเราด้วย
RA : What do you not understand?
𝐑𝐀 : มีเรื่องไหนบ้างที่คุณอยากได้รับความกระจ่าง❓
[1.5] QUESTIONER : Could you give me a little more detail about your role with the Egyptians?
[1.5] 𝐐 : คุณช่วยบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับบทบาทของคุณกับชาวอียิปต์ได้ไหม❓
RA : I am Ra. The identity of the vibration Ra is our identity. We as a group, or what you would call a social memory complex, made contact with a race of your planetary kind which you call Egyptians. Others from our density made contact at the same time in South America, and the so called "lost cities" were their attempts to contribute to the Law of One.
𝐑𝐀 : ฉันคือราห์ ตัวตนของการสั่นสะเทือนของ ราห์ ที่คุณบอกว่าเป็นเทพเจ้าของชาวอียิปต์นั้นคือตัวตนของเรา พวกเราในฐานะกลุ่ม หรือที่คุณอาจเรียกพวกเราได้ว่า "กลุ่มความทรงจำทางสังคมเชิงซ้อน" ได้ติดต่อกับชนชาติเร่ร่อน (ในยุคสมัยนั้น) ที่คุณเรียกว่าชาวอียิปต์ คนอื่นๆจากความหนาแน่นของเราในเวลาเดียวกันก็ได้ติดต่อกับชนชาติในอเมริกาใต้ ที่ถูกเรียกว่า "เมืองที่สาบสูญ"★ (ในยุคปัจจุบัน) ซึ่งเป็นความพยายามของพวกเขาในตอนนั้นที่จะถ่ายทอดความรู้ (ความจริง) ของกฎแห่งความเป็นหนึ่งให้กับอารยธรรมดังกล่าว
★หรือเมือง มาชูปิกชู ของชาวอินคานั่นเอง อ่านเพิ่มเติมเรื่องของเมืองนี้ได้ตามลิงค์ครับ –ผู้แปล–
We spoke to one who heard and understood and was in a position to decree the Law of One. However, the priests and peoples of that era quickly distorted our message, robbing it of the, shall we say, compassion with which unity is informed by its very nature. Since it contains all, it cannot abhor any.
เราได้พูดคุยกับผู้ที่ได้ยินและเข้าใจและอยู่ในฐานะที่จะออกประกาศิต (กำหนดกฎเกณฑ์ หรือ บทบัญญัติ) ของกฎแห่งความเป็นหนึ่งให้กับสมาชิกในอารยธรรมนั้นได้ อย่างไรก็ตาม นักบวช (ปุโรหิต) และผู้คนในยุคนั้นได้บิดเบือนข้อความของเราไปอย่างรวดเร็ว เราคงต้องกล่าวว่า พวกเขาได้ช่วงชิง (ดัดแปลงแก้ไข) สิ่งที่กฎแห่งความเป็นหนึ่งได้แนะนำ โดยการบอกกล่าวถึงธรรมชาติเดิมแท้ของสรรพสิ่ง ซึ่งก็คือความเมตตากรุณา เนื่องจากทุกคนคือหนึ่งเดียวกัน เราจึงไม่อาจเกลียดชังใครได้ (เพราะนั่นเท่ากับการเกลียดชังตัวเอง)★
★ผมเดาว่าในยุคนั้น เรื่องของชนชั้น ราชวงศ์ คนทั่วไป ทาส เป็นต้น มีความรุนแรงมาก เมื่อสังคมถูกแบ่งชนชั้น ทาสได้รับการปฏิบัติแบบไร้ซึ่งความเมตตากรุณาอย่างสื้นเชิง จะทรมาน จะทำร้าย จะฆ่ายังไง หรือ ฆ่าเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งคำสอนของกฏแห่งความเป็นหนึ่ง นั้น ขัดแย้งกับวิถีของอารยธรรมในตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง –ผู้แปล–
When we were no longer able to have appropriate channels through which to enunciate the Law of One, we removed ourselves from the now hypocritical position which we had allowed ourselves to be placed in.
เมื่อเราไม่สามารถมีช่องทางที่เหมาะสมในการประกาศถึงบทบัญญัติของกฎแห่งความเป็นหนึ่งได้อีกต่อไป เราก็ได้ถอนตัวเองออกจากภาระหน้าที่อันหลอกลวงที่เราปล่อยให้ตัวเองได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ตำแหน่งนั้นจากอารยธรรมดังกล่าว
And other myths, shall we say, other understandings having more to do with polarity and the things of your vibrational complex, again took over in that particular society complex.
และความเชื่อในตำนานปรัมปราอื่นๆ ที่เราคงจะต้องกล่าวว่า ความเข้าใจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความเป็นคู่ตรงข้ามและสิ่งต่างๆของการสั่นสะเทือนเชิงซ้อนของพวกคุณได้กลับเข้ามาแทนที่ในสังคมเชิงซ้อนนั้นอีกครั้ง★
★เอาจริงๆ ตรงย่อหน้านี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ ไม่รู้จะแปลว่าไงดี –ผู้แปล–
Does this form a sufficient amount of information, or could we speak further?
นี่เป็นข้อมูลที่เพียงพอหรือไม่ หรือต้องการให้เราอธิบายเพิ่มเติมอีก❓
.
.
.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา