18 พ.ค. 2023 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ที่มา Trade Routes เส้นทางการค้าโลก

รู้หรือไม่ว่า 80-90% การค้าโลก เป็นการทำการค้าผ่านการขนส่งทางทะเล (Sea Freight)
ในขณะที่ทางถนน และทางอากาศ มีปริมาณน้อยมาก เพราะฉะนั้นถ้าไปดูในเชิงมูลค่า การขนส่งทางทะเล ก็จะมีมูลค่าประมาณ 60-70% เสมอ
แล้วที่มาของ​​ Trade Routes โลกเริ่มต้นอย่างไร?
ต้องย้อนไปตั้งแต่ยุคที่ ยังเชื่อว่าโลกมี 3 ทวีป คือ ยุโรป แอฟริกา และเอเชียมี 2 มหาสมุทรใหญ่ คือ มหาสมุทรแอตแลนติก และอินเดีย
ในช่วงยุคกลาง คนสมัยนั้น รู้ดีว่า มีพื้นที่ของอินเดียและจีน เขาอยากไปหาสินค้าแปลกๆใหม่ๆมาค้าขาย
ระหว่างสงครามครูเสด ศตวรรษที่ 11-14 มีความพยายามเดินทางมาตะวันออกไกลแต่มาไม่ง่ายเพราะมีสงคราม และ เส้นทางที่มาค่อนข้างทุรกันดาร
จนช่วงท้ายของสงครามครูเสด แผ่นดินบริเวณ Levant หรือ เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก หรือ เอเชียตะวันตกเริ่มสงบลง ผู้คนเดินทางข้ามพื้นที่ได้ ก็เริ่มมีของแปลกๆ เข้ามาขาย
ชาวยุโรปเริ่มเข้ามาจีนและอินเดีย แต่ยังไม่ได้มีการบันมึกไว้เยอะ จนมาร์โค โปโล เดินทางทางบกไปจีน
แต่พอพวกออโตมันขยายอำนาจบนคาบสมุทรอนาโตเลีย ไปสู่กรุงคอนแสนตินโนเบิล ในปี 1453 ทำให้การเดินทางไปยังเอเชียด้วยทางบกเป็นไปไม่ได้ เพราะมีมหาอำนาจจากออตโตมันกั้นอยู่
ชาวยุโรปจึงต้องหาเส้นทางอื่นเดินทางไปอินเดียแะลจีน ซึ่งก็คือ เส้นทางเรือมาถึงยุคเรเนสซองส์ ผู้คนเริ่มมีความทะเยอทะยานในการค้นหาโลกใหม่ ราชสำนักโปรตุเกส ลงทุนทำแผนที่โลก
-นักเดินเรืออย่าง Vasco Da Gama เดินทางเรือ อ้อมใต้แอฟริกาหัวแรดไปยังอินเดียฝั่งตะวันตกสำเร็จ
-Christopher Columbus นักเดินเรือชาวอิตาเลียนที่เข้าไปรับใช้ราชสำนักสเปน ซึ่งเป็นคู่แข่งกับราชสำนักโปรตุเกส ตั้งเป้าว่าจะเดินทางไปอินเดีย แต่เลือกเดินทางเรือไปฝั่งตะวันตก เพื่อหวังจะไปเจออินเดียฝั่งตะวันตก
ปรากฏว่าพอไปเจอชายฝั่งตอนแรกคิดว่าอินเดียฝั่งตะวันตก ในปี 1492 แต่จริงๆ คือ บาฮามาส จนกระทั่งเขาเสียชีวิตก็ยังไม่รู้ว่า พื้นที่ที่ตัวเองพบไม่ใช่อินเดียแต่เป็นพื้นที่ใหม่
ต่อมา Americo Vespucio นักเดินเรือชาวอิตาเลียน บอกว่าชายฝั่งที่ Columbus เจอ คือ มวลแผ่นดินก้อนใหม่เป็นทวีปใหม่ โดยทวีปนั้นถูกตั้งชื่อว่า America ทำให้โลกรู้ว่า มีอีกหนึ่งทวีปใหม่
กระทั่งในปี 1520 ราชสำนักสเปนส่งนักสำรวจชาวโปรตุกีสชื่อว่า Ferdinand Magellan พร้อมกับเรือ 5 ลำ เดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ไปเจอกับทวีปอเมริกาใต้ ข้ามไปยังมหาสมุทรที่โลกไม่รู้จักในปี 1521 นั่นคือ มหาสมุทรแปซิฟิก
เรือที่เหลือจากกองเรือของเขา เดินทางกลับมายังสเปน โดยถือเป็นกลุ่มแรกในโลกที่เดินทางรอบเส้นรอบวงของโลกครบ 40,075 กิโลเมตร
ด้วยพลังแห่งการสำรวจทางทะเล สเปน ซึ่งถือเป็นเจ้าโลกในเวลานั้น ได้ทองคำ จากอเมริกาใต้ ได้เครื่องเทศ จากการทำการค้ากับหมู่เกาะโมลุกกะ โปรตุเกสได้เครื่องเทศจากอินเดีย ขณะที่อังกฤษในยุคพระเจ้าเฮนรีที่ 7 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิวดอร์ ส่งกองเรือไปสำรวจสหรัฐฯ แต่ถูกกองเรือของสเปนและโปรตุเกสปิดกั้น
ต่อมาในยุคพระราชินิเอลิซาเบธที่1 ปี 1588 ส่งกองเรือไปท้าทายสเปน ปรากฏว่าชนะ และกลายเป็นมหาอำนาจทางทะเลตั้งแต่นั้น
การก้าวมาเป็นมหาอำนาจของอังกฤษ ในตอนที่มีแผนที่โลกเต็มทั้งแผ่นอังกฤษขยายอาณานิคมในอเมริกาเหนือ มีศูนย์กลางที่เมืองเจมส์ทาวน์ มลรัฐเวอร์จิเนีย ขยายเป็น 13 อาณานิคม บนชายฝั่งแอตแลนติกตะวันตก
การค้าขายระหว่างยุโรปและอเมริกา จึงเป็นอีกหนึ่งTrade Routes ที่สำคัญเพราะฝรั่งเศสเอง ก็ขยายอิทธิพลเข้าไปตอนกลางของอเมริกา เข้าไปตั้งพื้นที่เรียนว่า American Louisiana ฝั่งซ้ายของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ เส้นทางการค้าแอตแลนติกจึงเริ่มเกิดขึ้น
ต่อมาอังกฤษในสมัยสจวต ส่งกองเรือยึดปลายแหลมกู๊ดโฮป ซึ่งเดิมเป็นของชาวดัตซ์ และเดินเรือขึ้นตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามมหาสมุทรอินเดียลงหลักปักฐานเมืองมัลดา และกังกัตตา ในอินเดีย เปิดเส้นทางการค้าขายที่มหาสมุทรอินเดีย
ต่อมา ปี 1776 เกิดการปฏิวัติของอเมริกา ทำให้อังกฤษเสีย 13 อาณานิคมแต่ 10 ปีให้หลัง พวกเขาได้ออสเตรเลียมาแทน
ฝั่งอเมริกาได้ต่อยอดพื้นที่ชายฝั่งแปซิกฟิก พัฒนา Trade Routes สายแปซิฟิกซึ่งต่อมาในปี 1852 เขานั่งเรือสีดำ ภายใต้การนำของพลเรือจัตวา แมธธิว เพอร์รี่ บังคับให้ญี่ปุ่นในยุคโชกุน เปิดเสรีทางการค้า ญี่ปุ่นเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Kurofune Raikou
ด้านอังกฤษพอเอาชนะสงครามฝิ่นในจีนได้ ในปี 1842 บังคับให้จีนเปิดเมืองท่า 5 แห่ง ได้แก่ เทียนจิง หนิงโป ฝูโจว กวางโจว และเซี่ยงไฮ้
เซี่ยงไฮ้ แต่เดิมเป็นเมืองที่จีนไม่เคยพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการค้าจริงจัง ถูกอังกฤษเล็งเห็นศักยภาพว่าเป็นทะเลทอง เพราะติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เชื่อมกับปากแม่น้ำแยงซีเกียง เข้าใจกลางจีน จึงพัฒนาเซี่ยงไฮ้ จนเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของตะวันออกไกลและของโลก
นอกจากการเชื่อมต่อเส้นทางการค้าโลก อังกฤษและฝรั่งเศส ยังได้ใช้วิทยาการทางวิศวกรรมโยธา สร้าง 2 คลองสำคัญ เืพ่อช่วยย่นเวลาเดินทางการเดินเรือ
-คลองสุเอธ ปัจจุบันอยู่ในประเทศอียิปต์ ใกล้กับคาบสมุทรไซนายตอนนั้นอียิปต์เป็นรัฐบริวารของออตโตมัน ฝรั่งเศสและอังกฤษบรรลุข้อตกลงกับสุลต่าน Abdulmejid ที่1 แห่งออตโตมันในการขุดคลองตัดคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ความยาว 193.3 กิโลเมตร ใช้เวลาขุด 10 ปี ทำให้การเดินเรือจากยุโรปตะวันตกไม่ต้องไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป หรือ ปลายสุดของนอแรดแอฟริกา แต่ตัดจากเมดิเตอร์เรเนียนเข้าทะเลแดง อ้อมสู่คาบสมุทรอาราเบีย ไปยังมหาสมุทรอินเดียทำให้เส้นทางการค้าระหว่างยุโรปและเอชียสะดวกขึ้น จวบจนวันนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลฝรั่งเศส ยังบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลปานามาในการขุดคลองปานามา ย่นระยะทางระหว่างสหรัฐฯฝั่งตะวันตกติดกับแปซิฟิก ผ่านไปยังสหรัฐฯฝั่งแอตแลนติก โดยไม่ต้องอ้อมแหลมฮอร์น (Cape Horn) หรือ ปลายสุดของอเมริกาใต้อีกต่อไป
ทั้งหมดนี้ คือวิวัฒนาการของเส้นทางการเดินเรือ Trade Routes สำคัญของโลก ที่เป็นมรดกจากคนรุ่นก่อน และเป็นเส้นเลือดทางการค้าที่สำคัญมาถึงปัจจุบัน
ที่มา : WEALTH HISTORY EP.35

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา