26 พ.ค. 2023 เวลา 22:00 • การตลาด

กรณีศึกษา Walkman แบรนด์ยอดฮิตของ Sony ในยุค 80

Walkman เป็นแบรนด์ของเครื่องเล่นเสียงแบบพกพาที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทเทคโนโลยีของญี่ปุ่นอย่าง Sony
เริ่มต้นที่ "มาซารุ อิบุกะ" เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Sony ที่เป็นคนรักและหลงใหลในดนตรี เขามักจะมองหาวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้เขาสามารถเพลิดเพลินกับดนตรีได้มากขึ้นเสมอ
มาซารุ อิบุกะ มักจะใช้เครื่องบันทึกเทปคาสเซต TC-D5 ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อฟังเพลงขณะเดินทางเพื่อทำงาน แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกผิดหวังที่ ไม่มีเครื่องเล่นเสียงอันไหน ที่สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดี และขนาดกะทัดรัดพอ ที่จะทำให้เขาเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้
และ "อะกิโอะ โมะริตะ" อีกหนึ่งบุคคลที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Sony เขาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้าง เครื่องเล่นเสียงแบบพกพาของบริษัท หลังจากที่ได้เห็นผู้คนฟังเพลงผ่านหูฟังบนเครื่องบิน
เขา ''ตระหนัก'' ได้ว่ามันมีตลาดสำหรับเครื่องเล่นเสียงแบบพกพาที่จะทำให้ผู้คนเหล่านั้น สามารถฟังเพลงได้อย่างเป็นส่วนตัวนี้อยู่
ทั้งสองขอให้รองประธานบริหารอย่าง "โนริโอะ โอกะ" ช่วยออกแบบเครื่องเล่นเทปคาสเซต สำหรับเล่นเสียงโดยเฉพาะ และปรับให้เหมาะกับการเดินและพกพาสะดวก
ทั้ง อะกิโอะ โมะริตะ, มาซารุ อิบุกะ และ โนริโอะ โอกะ ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยเป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลัง การพัฒนาผลิตภัณฑ์อันใหม่ของบริษัท Sony ชิ้นนี้
ผลลัพธ์ของความพยายามนี้คือ "Sony Walkman TPS-L2" ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเสียงเทปคาสเซต แบบพกพารุ่นแรกของ Sony และเปิดตัวครั้งแรกในปี 1979 โดยจำหน่ายในราคาประมาณ 33,000 เยน
การตลาดของ Walkman ในเวลานั้น คือการนำเสนอผ่านโฆษณา ตั้งแต่การเดินไปตามถนนไปจนถึงการนั่งรถไฟ โดยแกนของการโฆษณาเหล่านั้น
ต้องการสื่อสารว่า Walkman เป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถหลีกหนีจากเสียงรบกวนและสิ่งรบกวนของโลก และมุ่งความสนใจไปที่ความคิดและความรู้สึกของคุณเองได้
ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ของ Sony นั้นประสบความสำเร็จในทันที และกลายเป็นปรากฏการณ์ ทางวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว Walkman ทำให้ผู้คนสามารถฟังเพลงได้ทุกที่ที่พวกเขาไป และช่วยให้เครื่องเล่นเสียงเทปคาสเซ็ตต์เป็นที่นิยม
แม้ว่า Sony จะคาดการณ์ว่าจะขายได้ประมาณ 5,000 เครื่องต่อเดือน แต่ก็เกินคาดเพราะสามารถ ขายได้มากกว่า 30,000 เครื่องในสองเดือนแรก
ทำให้มีบริษัทต่างๆ อย่าง Aiwa, Panasonic และ Toshiba ออกผลิตผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเกาะกระแสความนิยมนี้ไปด้วย
ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ Walkman ได้ถูกพัฒนาอย่างเข้มข้น และออกรุ่นใหม่ที่ใส่ฟังก์ชั่นต่างๆ เข้ามาเพิ่ม
อย่าง TPS-L2 ที่มีขนาดเล็กลง, SRF-40 FM ที่สามารถฟังวิทยุได้, WM-F1 ที่เริ่มมีระบบลดเสียงรบกวน และอีกหลายรุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ
ในปี 1989 บริษัท Sony ได้เปิดตัวรุ่นครบรอบ 10 ปี ที่สร้างไม่กี่ร้อยเครื่องเท่านั้น อย่าง WM-701S/T และอีกมากมาย
ต่อจากนั้นในปี 1990 บริษัท Sony ได้เปิดตัว เครื่องจัดเก็บเสียงดิจิทัลลงในเทปคาสเซต ภายใต้ชื่อ DAT Walkman และรุ่นที่มีการเพิ่มฟังก์ชั่นอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
จนทำให้ภายในเกือบหนึ่งทศวรรษของการเปิดตัว Walkman ทางบริษัท Sony สามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 50% ในสหรัฐอเมริกาและ 46% ในญี่ปุ่น
และสามารถขาย Walkman ได้กว่า 100 ล้านเครื่อง ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านเครื่อง ในปี 1995 และในปี 1999 จำนวนที่ขายได้เพิ่มเป็น 186 ล้านเครื่อง ทั่วโลก
ในปีเดียวกัน ยุคแห่งการเริ่ม "เสื่อมความนิยม" ของเครื่องเล่นเสียงเทปคาสเซตแบบพกพาก็ได้เริ่มขึ้น จากการมาของเครื่องเล่นเสียงระบบดิจิทัลเต็มตัวอย่าง MP3 ได้ทำให้เครื่องเล่นเสียงเทปคาสเซต มียอดขายลดลงเรื่อยๆ
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั่นเอง ทางบริษัท Sony ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเสียงดิจิทัลเต็มรูปแบบ เครื่องแรกของ Sony ภายใต้ชื่อ "Network Walkman" และยังเป็นเครื่องเล่นแรกซึ่งใช้ สื่อเก็บข้อมูล "Memory Stick" จากกระแสของโลกที่เริ่มเปลี่ยนไป
ต่อมาในปี 2000 ได้เกิดเรื่องที่นับเป็น "เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Walkman" เกิดความขัดแย้งภายในองค์กรขึ้น
Sony Music Entertainment ร่วมกับค่ายเพลงหลักอีก 5 แห่ง ฟ้องร้อง Napster แพลตฟอร์มบริการแชร์เพลงยอดนิยม ที่เป็นบริษัทที่ Sony ร่วมลงทุนด้วย
ค่ายเพลงกล่าวหาว่า Napster ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยอ้างว่าบริการดังกล่าว อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพลง ที่มีลิขสิทธิ์อย่างผิดกฎหมาย นับเป็นคดีความที่ยืดยาว คดีนึงของบริษัท Sony
ระหว่างนั้นเอง ปี 2001 จากความนิยมที่ลดน้อยลงทำให้ DAT Walkman ถูกยกเลิกการผลิตและปิดตัวลง
ต่อมาในที่สุดคดีความก็ถูกตัดสินในปี 2002 Napster ตกลงที่จะปิดบริการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง การปิดตัวของ Napster ส่งผลเสียต่อผลิตภัณฑ์ Walkman
Walkman เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้คนสามารถฟังเพลงที่พวกเขาซื้อมาได้ แต่ด้วย Napster ผู้คนสามารถดาวน์โหลดเพลงได้ฟรี สิ่งนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ Walkman ดึงดูดผู้บริโภคน้อยลง
และเนื่องจากความนิยม ของเครื่องเล่นเสียงเทปคาสเซตแบบพกพาที่ลดลง ทางบริษัท Sony ได้ประกาศเลิกผลิตรุ่นที่ใช้เทปคาสเซตลง ที่ญี่ปุ่นในปี 2010
โดยรุ่นสุดท้ายที่มีจำหน่าย ในสหรัฐอเมริกาคือ WM-FX290W ที่เปิดตัวในปี 2004
ถึงกระนั้นแม้ว่า บริษัท Sony ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเสียงดิจิทัลเต็มตัวของตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่สามารถ "ทำซ้ำความสำเร็จ" ของเครื่องเล่นเสียงในตลาดเครื่องเล่นเสียงดิจิทัลได้
จากการเปิดตัว "ipod" ของบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลกอย่าง Apple ในปี 2004 และ ipod ของ Apple ได้เป็นสิ่งที่ขัดขวางยอดขายของ Network Walkman ในต่างประเทศ
เป็นเวลาหลายปีที่ Network Walkman มีส่วนแบ่งการตลาดเพียงเล็กน้อยและยังต้องดิ้นรนต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ
แต่ก็ได้พ่ายแพ้อย่างราบคาบในปี 2006 ซึ่ง Network Walkman มีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดสหรัฐอเมริกาแค่เพียง "1.9%" เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Network Walkman ยังคงสามารถครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดของญี่ปุ่นใน ปี 2009 ได้อยู่ระหว่าง 43 ถึง 48% นำหน้า Apple เพียงเล็กน้อย เหตุผลส่วนนึงมา จากความเป็นชาตินิยมของคนญี่ปุ่นเอง
และในปีเดียวกัน ทาง Sony Computer Entertainment ส่วนงานนึงของบริษัท Sony ได้ประกาศว่า "PlayStation Portable" เป็น "Walkman แห่งศตวรรษที่ 21"
ซึ่งก็เหมือนการดูดดึงความสนใจไปจากผลิตภัณฑ์ Walkman ไปอยู่ที่ PlayStation Portable นับได้ว่าเป็นอีกสาเหตุของการ "เสื่อมความนิยม" ของผลิตภัณฑ์ Walkman
แบรนด์ Walkman ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในวัฒนธรรมของโลกยุค 80 ได้รับการกล่าวขานว่าไม่เพียง เปลี่ยนความสัมพันธ์ของผู้คนกับดนตรีเท่านั้น
มันยังถูกมองว่าเป็น "ปูชนียบุคคล'' ที่ครอบครองเทคโนโลยีกระแสหลัก ในยุคน้้นเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย
ซึ่งยังคงเป็นเหมือน "มนต์เสน่ห์" ให้กับนักสะสมหรือผู้ที่คลั่งไคล้ ในความดั้งเดิมของ Walkman และมันยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคบางกลุ่ม
โดยเครื่องเล่นสื่อและเสียงดิจิทัลแบบพกพา Walkman เป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ Walkman เพียงชนิดเดียวที่ยังคงผลิตอยู่ในปัจจุบัน
แม้ว่าจะไม่มีการใช้คำนำหน้า "Network" อีกต่อไป แต่หมายเลขรุ่นยังคงมีคำนำหน้าว่า "NW-" อยู่เหมือนเดิม
และขอขอบคุณรูปภาพจาก Wikimedia Commons

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา