กรณีศึกษา เครื่องเล่นเกม Wii ของ Nintendo
Nintendo เป็นบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่น บริษัทประสบความสำเร็จจาก การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับวิดีโอเกม และเครื่องเล่นเกมยอดนิยมมากมายมาตั้งแต่อดีต
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา Nintendo ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกมมากมาย ที่หลายคนอาจจะเคยพบเคยเล่น หรือมีไว้ในครอบครอง
ไม่ว่าจะเป็น Game Boy, Super Famicom, Nintendo DS และ Switch ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดของ Nintendo
แต่ที่เราจะนำมาเล่าคือ "Wii" เป็นเครื่องเล่นเกมอีกหนึ่งยอดนิยมของ Nintendo ในอดีต
Wii เป็นคอนโซลวิดีโอเกมในบ้านที่ พัฒนา และทำการตลาดโดย Nintendo เปิดตัวเมื่อปี 2006 เป็นคอนโซลวิดีโอเกมหลักลำดับที่ 5 ของ Nintendo ต่อจาก GameCube
เป็นเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมที่ Nintendo ผลิตออกมาเพื่อแข่งขันกับ Xbox 360 ของ Microsoft และ PlayStation 3 ของ Sony ในเวลานั้น
- ●ถึงจะบอกว่าเปิดตัวในปี 2006 แต่ที่จริงแล้ว Wii นั้นถูกคิดค้นในปี 2001
เรื่องราวของ Wii นั้นเริ่มมาจากการให้สัมภาษณ์ของ "ชิเงรุ มิยาโมโตะ"
นักออกแบบเกมและฝ่ายผู้บริหารของ Nintendo เกี่ยวกับแนวคิดในการมุ่งเน้นที่จะค้นหาวิธีใหม่ๆ สำหรับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น
เขาได้กล่าวว่า พลังประมวลผล ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ของเครื่องเล่นเกม เราไม่สามารถมีเครื่องทรงพลังหลาย ๆ เครื่อง แข่งขันกันเอง
มันก็เหมือนกับมีแต่ "ไดโนเสาร์ดุร้าย ที่ต่อสู้กันเอง จนสูญพันธุ์ไปหมด"
สองปีต่อมา "ชิเงรุ มิยาโมโตะ และ เก็นโย ทาเคดะ" เป็น "ผู้นำ" การพัฒนาคอนโซลนี้ ภายใต้ชื่อรหัสว่า "Revolution" ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น "Wii" ในภายหลัง
โดยประธานของ Nintendo ในเวลานั้นอย่าง "ซาโตรุ อิวาตะ" บอกให้พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับ Microsoft และ Sony ในด้านกราฟิกและพลังประมวลผล
แต่ไปให้ความสำคัญกับ "รูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่" แทน
- ●คำว่า "Wii" มาจากไหน
Nintendo สะกด "Wii" ด้วยตัว "i" ตัวเล็กทั้งสองตัว
โดยต้องการให้คล้ายกับ คนสองคนยืนอยู่ข้างๆกัน แสดงถึงผู้เล่นที่มารวมกัน และอาจแสดงถึงที่ตัวบังคับของเครื่องได้อีกด้วย
เครื่องคอนโซลวิดีโอเกมที่มีชื่อว่า "Wii" จึงได้ถือกำเนิดขึ้น และมาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ไร้สายอย่าง "Wii Remote" ที่มีลักษณะการควมคุมใน "แนวตั้ง"
ซึ่งถือว่าแปลกใหม่ เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมคู่แข่งอย่าง Xbox 360 และ PlayStation 3 ที่ใช้การควมคุมในแนวนอน
และยังมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีรูปทรงแปลกตา ที่ Nintendo ปล่อยออกมาหลังจากนี้
- ●Wii ได้ถูกเอ่ยชื่อขึ้นครั้งแรก
Wii ได้ถูกเอ่ยชื่อขึ้นในต่างประเทศที่งาน E3 ปี 2004 โดยตอนนั้นบอกเพียงแค่ว่า กำลังจะมีการเปิดตัวเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมของ Nintendo
และเปิดตัวอย่างบางส่วนในประเทศญี่ปุ่นที่งาน Tokyo Game Show และต่างประเทศในงาน E3 ใน ปี 2005
ก่อนจะถูุกวางจำหน่ายในปี 2006 ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ด้วยราคา 25,000 เยน หรือ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ
- ●Wii เครื่องคอนโซลวิดีโอเกมเครื่องแรก ที่ไม่มีคำว่า Nintendo
Wii ยังเป็นเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมเครื่องแรกของ Nintendo ที่ทำการตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น
โดย "ไม่มีชื่อบริษัทเป็นเครื่องหมายการค้า" และเลือกที่จะใช้แค่คำว่า Wii อย่างเดียว
และเนื่องจาก Wii นั้นเป็นเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมที่ลดพลังประมวลผล และมุ่งมั่นไปกับรูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่ ทำให้ Wii และเกมที่ผลิตออกมามีราคาถูกกว่าคู่แข่ง
โดย Wii มีเกมยอดนิยมอย่าง Wii Sports, Super Mario, Legend of Zelda, Pokémon และ Metroid จึงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเปิดตัว
โดยปี 2006 บริษัทได้จัดส่งไปแล้วเกือบ 3.2 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งขายได้มากกว่ายอดขายรวมของ PlayStation 3 และ Xbox 360 ในหลายภูมิภาคในช่วงเปิดตัว
และยังขาดตลาดตลอดช่วงปีแรก จนมีการเพิ่มยอดการผลิตเป็น 17.5 ล้านเครื่อง จนถึงปี 2007 เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ Wii
ต่อมาในปี 2009 ซาโตรุ อิวาตะ ได้เผยผ่านที่ประชุม Game Developers Conference ว่า Wii มียอดขายถึง 50 ล้านเครื่อง
และในปีเดียวกันนี้เอง Nintendo ยังได้ประกาศลดราคาเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมครั้งแรก
เพื่อต่อสูู้กับคู่แข่งอย่าง Sony และ Microsoft ที่ได้ประกาศลดราคาของ PlayStation 3 และ Xbox 360 เหมือนกัน
ทำให้ Wii เครื่องคอนโซลวิดีโอของ Nintendo มียอดขายเกิน 67 ล้านเครื่อง ภายในปี 2009
- ●Wii เริ่มสูญเสียความนิยม
ในปี 2010 Wii ก็ได้เริ่ม "สูญเสียความนิยม" จากยอดขายที่ลดลง 21% เมื่อเทียบรายปี
เป็นผลมาจากการเปิดตัว "คอนโทรลเลอร์ใหม่ที่คลายคลึง" กับ Wii
อย่าง PlayStation Move ของ Sony บน PlayStation 3 และ Kinect ของ Microsoft บน Xbox 360
และการพัฒนาเกมที่ "ช้าและไม่ค่อยมีคุณภาพ" จากบริษัทบุคคลที่สาม หากสังเกตุเกมยอดนิยมบน Wii ในเวลานั้น ส่วนใหญ่มักจะมาจากเกมของฝั่ง Nintendo เอง
- ●เพื่อที่จะกระตุ้นยอดขายและความนิยมให้กลับมาให้ได้
ต่อมาในปี 2011 "Wii Family Edition" ก็ได้ถูกเปิดตัว รุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้วางในแนวนอนเท่านั้น และตัดฟีเจอร์บางส่วนออกไป
เพื่อทดแทนรุ่น Wii ดั้งเดิม ซึ่งหยุดให้บริการ ในบางภูมิภาครวมถึงยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาที่ถูกลดมา
- ●ผู้สืบทอดต่อจาก Wii
ทาง Nintendo ก็ได้ประกาศผู้สืบทอดต่อจาก Wii นั่นคือ "Wii U" ที่งาน E3 ในปี 2011
Wii U เป็นคอนโทรลเลอร์ที่มีหน้าจอสัมผัสในตัวและความละเอียดสูง สามารถต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ของ Wii ได้
วางจำหน่ายทั่วโลก ในปี 2012 และ Wii U เครื่องนี้อาจจะเป็น "ตัวต้นแบบ" ให้กับ Nintendo Switch ในปัจจุบัน
ในปี 2012 นั่นเอง Nintendo ยังได้ประกาศเปิดตัว ''Wii Mini'' เป็น Wii รุ่นเล็กที่ออกแบบใหม่ เป็นเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมราคาประหยัด ที่ไม่มีฟีเจอร์ทั้งหมดของ Wii ดั้งเดิมค่อนข้างเยอะ
พวกเขาถอดคุณสมบัติออกเพื่อลดราคาลงอีก เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ยังไม่ได้ซื้อ Wii
โดยเปิดตัวเฉพาะในแคนาดาด้วย ราคา 99.99 ดอลลาร์แคนาดา ก่อนจะมีจำหน่ายในยุโรปและสหรัฐอเมริกาภายหลัง
Nintendo ยังคงขาย Wii รุ่นปรับปรุงและ Wii Mini ควบคู่ไปกับ Wii U และได้เริ่มยกเลิกฟังก์ชั่นออนไลน์บางอย่างของ Wii เรื่อยๆ
เนื่องจากพวกเขาผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ Wii U
- ●สิ้นสุดยุคของ Wii
จากการพยายาม กระตุ้นยอดขายหลายต่อหลายครั้ง Nintendo ประกาศที่จะ "ยุติการผลิต" ของ Wii รุ่นต่างๆ ในปี 2013
แต่ยังคงการผลิตและจำหน่ายของ Wii Mini และ Wii U ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ประกาศยุติการผลิตของ 2 รุ่นนี้ในปี 2017
และยุติบริการออนไลน์ทั้งหมดของ Wii ในปี 2019
โดยตลอดอายุของคอนโซลวิดีโอเกมชื่อ Wii นั้นได้มียอดขายทั้งหมดกว่า "101.63 ล้านเครื่องทั่วโลก"
มีการขายคอนโซลวิดีโอเกมอย่างน้อย 48 ล้านเครื่องในอเมริกาเหนือ, 12 ล้านเครื่องในญี่ปุ่น และ 40 ล้านเครื่องในภูมิภาคอื่นๆ
Wii ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวอย่างที่สำคัญของแนวคิด "มหาสมุทรสีน้ำเงิน" ที่มีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ Sony และ Microsoft ยังคงแต่คิดวิธีทำให้ฮาร์ดแวร์ ของคอนโซลวิดีโอเกมของพวกเขา มีกราฟิกและพลังประมวลผลที่มากขึ้น
กลับกัน Nintendo ในเวลานั้น ที่พยายามหาวิธีเพื่อสร้างการเล่นเกมมิติใหม่ๆ ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างยอดเยื่อม ถึงแม้มันจะสูญสลายไปตามกาลเวลาก็ตาม
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
