Sega สร้าง Positioning ด้วยแคมเปญ Genesis does what Nintendon’t
ครั้งนี้จะมาเล่าเกี่ยวกับ "Genesis does what nintendon't" การวางตำแหน่งคอนโซลวิดีโอเกมของ Iconic Campaign ของ Sega
เป็นกลยุทธ์ที่ SEGA ใช้ในอุตสาหกรรมเกมในช่วงต้นทศวรรษปี 90
Nintendo ได้ครอบครองธุรกิจเกมอย่างเต็มที่ในเวลานั้น ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 95% ของคอนโซลวิดีโอเกม
และเป็นนักพัฒนารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นยุคที่ดูเหมือนว่าการครอบครองของ Nintendo นี้จะไม่มีใครขัดขวางได้
แต่ Sega ในเวลานั้นต้องการที่จะ "เปลี่ยนภูมิทัศน์" ในตลาดคอนโซลวิดีโอเกมนี้ และพวกเขาได้ท้าทายเจ้าตลาดอย่าง Nintendo ผ่าน “Genesis does what Nintendon’t”
ซึ่งเป็นแคมเปญที่ Sega ใช้เพื่อผลักดัน Genesis คอนโซลวิดีโอเกมของพวกเขาใน "ทวีปอเมริกาเหนือ"
ทวีปอเมริกาเหนือในช่วงต้นทศวรรษปี 90 ได้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "สงครามคอนโซล" คำนี้มีที่มาจากการต่อสู้กันในธุรกิจเกมระหว่าง Sega และ Nintendo
เริ่มต้นจากการที่ Sega พยายามที่จะเจาะเข้าสู่ตลาดวิดีโอเกมของสหรัฐอเมริกา ด้วยคอนโซลวิดีโอเกมอย่าง Genesis
ช่วงเวลานั้นขณะที่เจ้าตลาดอย่าง Nintendo ยังคงมุ่งมั่นสร้างเกมต่างๆ สำหรับให้ฐานผู้เล่นของ Nintendo Entertainment System (NES) และ Super Nintendo Entertainment System (SNES)
แต่สิ่งที่เจ้าตลาดอย่าง Nintendo ไม่ได้ทำในตอนนั้น นั่นคือ "การโฆณษาเกม" ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ว่าพวกมันเป็นเกมที่วิเศษและน่าสนุกแค่ไหน
Sega ได้มองเห็นโอกาสทางการตลาดที่ Nintendo พลาดไปนี้ Sega จึงวางตำแหน่งคอนโซลวิดีโอเกม Genesis เป็นทางเลือกที่ดีกว่า ล้ำสมัยกว่าและล้ำหน้ากว่าของ Nintendo
ด้วยแคมเปญโฆษณาการตลาดเชิงรุกของ Sega อย่าง Genesis does what Nintendon’t หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า "Genesis ทำในสิ่งที่ Nintendo ไม่ทำ"
โดยสโลแกนนี้มุ่งเป้าไปที่การทำตลาดของเจ้าตลาดอย่าง Nintendo โดยตรง
มาดูกันว่าแคมเปญ Genesis does what Nintendon’t ที่โดดเด่นนี้สร้างตำแหน่ง(Positioning) ที่ทรงพลังให้กับ Sega ในช่วงเวลานั้นได้อย่างไร
●
เน้นความเหนือชั้นทางเทคโนโลยี
แคมเปญนี้ของ Sega มีเป้าหมายเพื่อเน้นย้ำถึงความสามารถทางเทคนิคของคอนโซลวิดีโอเกม Genesis
พวกเขาแสดงความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้น ความสามารถด้านกราฟิกที่เหนือกว่า และเสียงสเตอริโอ ซึ่งแตกต่างจาก NES และ SNES ของ Nintendo
Sega สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพว่า Genesis มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำหน้ากว่า ดึงดูดผู้เล่นที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ต้องการนวัตกรรม
ตัวอย่าง
Blast Processing Sega เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลของ Genesis
Sega อ้างว่าพลังการประมวลผลของคอนโซลวิดีโอเกมช่วยให้สามารถเล่นเกมได้เร็วขึ้นและมีไดนามิกมากขึ้น
สิ่งนี้มีความหมายกับการตลาดของ Sega เพราะยิ่งตอกย้ำการรับรู้ของ Genesis ว่าเป็นระบบที่เหนือกว่าทางเทคโนโลยี
●
การกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่มีอายุมากกว่า
Sega พยายามที่จะดึงดูดผู้ชมที่มีอายุมากกว่า ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับครอบครัวของ Nintendo
มาสคอตที่เป็นสัญลักษณ์ของ Sonic the Hedgehog มีบทบาทสำคัญในการวางตำแหน่งของ Genesis ด้วยทัศนคติ ความเร็ว
และบุคลิกที่โดดเด่นของ Sonic เป็นตัวแทนของภาพลักษณ์ที่เท่และเฉียบขาดของ Sega เกม Sonic แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Genesis ในการมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและน่าประทับใจ
ต่อผลให้ Sega ส่วนแบ่งการตลาดถึง 65% ของตลาดคอนโซลวิดีโอเกม ในช่วงต้นทศวรรษปี 90 ซึ่งแซงหน้า Nintendo ที่ครองตลาดมานาน ได้นานอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียว
Sega ประสบความสำเร็จในการวางตำแหน่ง Genesis ให้เป็นคอนโซลวิดีโอเกมที่ล้ำสมัยและน่าตื่นเต้น แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่ท้าทายส่วนแบ่งการตลาดของ Nintendo เท่านั้น
แต่ยังสร้างการรับรู้ของ Sega ในฐานะแบรนด์ที่กล้าที่จะแตกต่างและครองใจเกมเมอร์ทั่วโลก