24 มิ.ย. 2023 เวลา 19:28 • บ้าน & สวน

เบญจธาตุสัมพันธ์

ในศาสตร์ปรับชะตาของชาวจีนโบราณนั้น ได้แบ่งธาตุออกเป็น 5 ธาตุด้วยกัน คือ ดิน ทอง น้ำ ไม้ และไฟ ซึ่งรวมเรียกว่า เบญจธาตุ โดยถือกันว่าธาตุลมนั้น ไม่มีตัวตนจึงไม่ถือเป็นธาตุ ทว่าก็ใช่จะไม่มีบทบาทใดๆ เลย ตรงกันข้ามลมกับถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัดพาปราณธรรมชาติ ให้เคลื่อนไหวกระจายไปในที่ต่างๆ ทั้งปราณดินและปราณฟ้า
จนกลายเป็นชื่อวิชาที่คนเรียกกันติดปากว่า ฮวงจุ้ย โดยฮวงก็คือลม ส่วนจุ้ยก็คือน้ำนั่นเอง และที่เรียกเช่นนี้ ก็โดยอาศัยบทบาทของธาตุทั้งสองที่มีอิทธิพลต่อปราณธรรมชาติดังกล่าว คือ ลมพัดพา น้ำเก็บกัก ในที่นี้ก็คือพัดพาหรือเก็บกักปราณนั่นเอง และเพื่อเป็นการช่วยให้ท่านผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น จึงขอสรุปบทบาทของเบญจธาตุในรูปของตารางและแผนภาพดังต่อไปนี้
รูปที่ 1-1 แสดงตารางและวงจรของเบญจธาตุ
จากตารางข้างต้น เป็นการนำเสนอสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายของธาตุทั้งห้าโดยสังเขป เพื่อพอจะให้ท่านผู้อ่านเห็นข้อแตกต่างระหว่างแต่ละธาตุได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานไปสู่การอธิบายในรายละเอียดอีกที แต่ก่อนอื่นจะขอพูดถึงวงจรการกำเนิดและทำลายของเบญจธาตุ ก่อน เพราะเป็นหลักการสำคัญที่จะขาดเสียมิได้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างแพร่หลาย ในหลากวิชาแห่งการถอดรหัสและปรับชะตา โดยวงจรการกำเนิด จะมีลำดับดังนี้คือ ดินกำเนิดทอง ทองกำเนิดน้ำ น้ำกำเนิดไม้ ไม้กำเนิดไฟ และไฟกำเนิดดิน
โดยวงจรนี้จะถูกใช้ในกรณีของการเสริมกำลังให้ธาตุที่จะใช้งาน หรือใช้เป็นธาตุประสานที่เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างธาตุ ตามวงจรการทำลายหรือพิฆาตธาตุที่จะกล่าวถึงต่อไปคือ ดินพิฆาตน้ำ น้ำพิฆาตไฟ ไฟพิฆาตทอง ทองพิฆาตไม้ และไม้พิฆาตดิน ซึ่งถ้าเขียนเป็นแผนภาพแล้วก็จะได้รูปเหมือนดาวห้าแฉก ที่ล้อมรอบด้วยวงกลมดังแสดงไว้ในแผนภาพข้างต้น ส่วนรายละเอียดของแต่ละธาตุนั้นจะนำเสนอต่อไป เพื่อเป็นส่วนขยายความของข้อมูลที่นำเสนอไว้ในตารางข้างต้น
เริ่มต้นจากธาตุดิน ซึ่งจะหมายถึงแผ่นดิน ภูเขา พื้นปฐพี หิน กรวด ทราย ดิน และอัญมณีชนิดต่างๆ รวมทั้งดินเผา เซรามิค หรือปูนที่มนุษย์สร้างขึ้น ใช้รูปทรงแทนด้วยสี่เหลี่ยมจุตรัสด้านเท่า มีสีประจำคือ เหลือง สีครีม หรือเหลืองปนขาว ขณะที่ทิศทางของธาตุดินนั้นมีอยู่หลายทิศด้วยกัน แต่ในเบื้องต้นนี้จะใช้การแบ่งตามหลักวิชาแปดทิศ คือ ธาตุดินจะประจำอยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้
ส่วนลักษณะอุปนิสัยของคนธาตุดิน ในทางบวกจะออกไปในทางสัตย์ซื่อ ยึดถือในสัจจะอย่างจริงจัง แต่ในทางลบก็จะเป็นคนที่ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง มีความดื้อรั้นไม่ฟังความคิดเห็นของคนอื่น โดยรูปร่างของคนธาตุดิน จะออกไปในทางใบหน้าเหลี่ยม ตัวค่อนข้างป้อมเตี้ยไม่สูงมากนัก
ธาตุทอง จะหมายถึงโลหะทุกชนิด ทั้งที่มีค่าและไม่มีค่า รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีผิวเป็นมันเงางามเป็นประกายวาววับ จึงอาจนับรวมรัตนชาติที่ผ่านการเจียรไน จนมีผิวสะท้อนแสงเป็นประกายแวววาวด้วย รูปทรงที่ใช้แทนจะเป็นวงกลม ทรงกลม หรือส่วนโค้งเพียงหนึ่งเดียว หากมีเส้นโค้งมากกว่าหนึ่งเส้นมาต่อกันจะไม่ใช่ธาตุทอง สีประจำคือ ขาว ทอง เงิน บรอนซ์ และทุกสีที่มีความแวววาวของโลหะ ทิศของธาตุทองตามหลักแปดทิศ จะอยู่ที่ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตก
อุปนิสัยของคนธาตุทอง ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และออกไปทางฝ่ายบู๊ คือชอบการลงมือกระทำ หรือปฏิบัติมากกว่าการนึกคิด บ่อยครั้งจึงมุทะลุดุดัน ชอบใช้กำลังมากกว่าสมอง ทำอะไรไม่ค่อยคิด จนเกิดควมผิดพลาดได้ง่าย รูปร่างของคนธาตุทองจะค่อนข้างอ้วนกลม ไม่มีเหลี่ยม
ธาตุน้ำ จะหมายถึงของเหลวทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำตามธรรมชาติ ทั้งแอ่งน้ำและสายฝน โดยอาจรวมถึงถนนหนทางที่มีการสัญจรทั้งยวดยานและผู้คนได้ด้วย รูปทรงของธาตุน้ำจะเป็นแบบไร้รูป (Irregular shape) หรือแบบลูกคลื่น ที่ประกอบด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าต่อกันเป็นพืด สีประจำของธาตุน้ำคือ สีเทา สีดำ สีน้ำเงิน และสีฟ้า ทิศของธาตุน้ำตามหลักแปดทิศ จะประจำอยู่ทางทิศเหนือเป็นหลัก
ส่วนอุปนิสัยของคนธาตุน้ำ จะออกไปในทางเจ้าปัญญา นักคิด พลิกแพลงเก่ง ปรับตัวได้ดี เหมือนกับธรรมชาติของน้ำที่สามารถเข้าได้กับทุกภาชนะที่รองรับ ตรงกันข้ามก็อาจถึงขั้นเจ้าเล่ห์ชอบเอาเปรียบผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็ยังอาจหมายถึงเงินทองได้ด้วย รูปร่างของคนธาตุน้ำจะค่อนข้างท้วม แต่ไม่จำเป็นต้องอ้วนกลม มีส่วนโค้งส่วนเว้าได้ ธาตุน้ำเป็นธาตุที่ต้องระวังการนำไปใช้งานเป็นพิเศษ เพราะหากใช้ผิดสามารถสร้างความเสียหายให้ได้
ธาตุไม้ จะหมายถึงพืชพันธุ์และแมกไม้ทุกชนิด มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือที่แตกแขนงเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ สีประจำของธาตุไม้คือ สีเขียว หรือสีน้ำตาลเข้มเหมือนเปลือกไม้ มีทิศประจำตามหลักแปดทิศอยู่ที่ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ อุปนิสัยของคนธาตุไม้จะค่อนข้างใจดีมีคุณธรรม และเน้นไปทางฝ่ายบุ๋น คือเป็นนักคิดมากกว่าการลงมือปฏิบัติ เหมือนพวกนักปราชญ์ นักปรัชญา นักวิชาการ หรือนักทฤษฎีทั้งหลาย
บางครั้งจึงดูเหมือนคนเกียจคร้าน ชอบแต่คิดฝันไม่ลงมือกระทำ ลักษณะของคนที่เป็นธาตุไม้ จะค่อนข้างผอมสูง บางครั้งดูเก้งก้าง แขนขายาว ธาตุไม้ถือเป็นธาตุเดียวในห้าธาตุที่สามารถเจริญเติบโตได้ จึงเหมาะที่จะทำเคล็ดเสริมกระตุ้นได้ดี
ธาตุไฟ จะหมายถึงเปลวไฟ แสงไฟ รวมไปถึงแหล่งกำเนิดความร้อนทุกอย่าง เช่น แอร์คอมเพรสเซอร์ เตาไฟ ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อน และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด รูปทรงของธาตุไฟเป็นสามเหลี่ยม หรือสิ่งที่มียอดแหลมทั้งหลาย สีประจำธาตุไฟคือ สีแดง สีชมพู สีส้มแดง ทิศประจำตามหลักแปดทิศจะอยู่ที่ทิศใต้
อุปนิสัยของคนธาตุไฟจะค่อนข้างไว้ตัว สำอาง มีมารยาท เหมือนผู้ดีมีสกุล ในขณะเดียวกันก็ใจร้อน คิดไวทำไว ไม่ค่อยถี่ถ้วน บางครั้งก็โกรธง่าย อารมณ์เสียได้กับทุกเรื่อง รูปร่างของคนธาตุไฟจะค่อนข้างผอมแห้ง แต่ไม่สูงโปร่งมากนัก สีแดงของธาตุไฟนั้น ถือเป็นอีกสีหนึ่งที่มีข้อยกเว้นในการใช้งาน คือสามารถใช้ได้กับทุกทิศทางในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะจะช่วยกระตุ้นพลังหยาง
และชักนำการเคลื่อนของพลังมงคลให้หมุนเวียนตามทิศทางที่ต้องการได้ ในกรณีนี้สามารถใช้การเปิดไฟช่วยได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันแสงไฟยังสามารถใช้จ่ายพลังให้กับเคล็ดวัตถุอื่นได้
จากความหมายและบทบาทของเบญจธาตุที่บรรยายมา จึงทำให้สามารถใช้หลักการดังกล่าวนี้มาเทียบเคียงเพื่อระบุอาชีพที่เหมาะสม สำหรับคนที่มีธาตุประจำตัวแตกต่างกัน โดยจะมีการพูดถึงอาชีพหลักที่ตรงกับแต่ละธาตุนั้นโดยตรงก่อน ตามด้วยอาชีพรอง ที่เป็นองค์ประกอบจากหลายธาตุผสมผสานกัน ส่วนการเลือกทั้งอาชีพหลักและรอง จะต้องพยายามอย่าให้มีธาตุที่ขัดแย้งกับธาตุประจำของตัวเอง ส่วนการดูธาตุของบุคคลนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน โดยอาจดูจากการคำนวณเลขประจำตัวบุคคลฮวงจุ้ย หรือใช้วิธีการคำนวณหาธาตุสำคัญจากวิชาดวงจีน
โดยเฉพาะวิชาสี่ราศีแปดอักษร ดังจะกล่าวถึงรายละเอียดในบทต่อๆ ไป ซึ่งหลักการเลือกอาชีพของเบญจธาตุนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการเลือกธาตุของอาคารหรือสำนักงาน ให้สอดคล้องและส่งเสริมธาตุประจำของแต่ละอาชีพนั้นๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ทำอาชีพธาตุไม้แต่ดันไปได้อาคารธาตุทอง ธาตุดินหรือธาตุไฟ ก็จะเกิดสภาวะขัดแย้งของพลังธาตุได้ ทำให้อาชีพที่ทำไม่ราบรื่นหรือเจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร สำหรับหลักการพิจารณาอาชีพประจำของแต่ละธาตุที่จะบรรยายต่อไปนี้ จะพิจารณาตามลักษณะธรรมชาติ และสภาวะอุปนิสัยประจำของแต่ละธาตุประกอบกัน
อาชีพประจำธาตุดิน จะเป็นอาชีพเกี่ยวกับดินทั้งหมด อาทิเช่น อสังหาริมทรัพย์ ค้าดิน หิน วัสดุก่อสร้าง เซรามิค กระเบื้องเคลือบ อุตสาหกรรมอาหาร อาหารสัตว์ ธุรกิจก่อสร้าง พลาสติก ส่วนเหมืองแร่ อัญมณี จะผสมผสานระหว่างธาตุดินกับธาตุทอง ขณะที่การเกษตร การจัดสวน จะเป็นธาตุดินกับธาตุไม้ และเมื่อพิจารณาจากภาวะนิสัยประจำธาตุ ที่สัตย์ซื่อหนักแน่น เน้นสัจจะ จึงเหมาะกับงานทางด้านการอำนวยความยุติธรรม นักบัญชีที่ต้องเน้นความซื่อตรง หรือที่ปรึกษาที่มีจรรยาบรรณ ให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา
อาชีพประจำธาตุทอง เป็นอาชีพเกี่ยวกับโลหะ และอัญมณีที่มีประกายแวววาว อาทิเช่น ค้าเหล็ก อลูมีเนียม โลหะทุกอย่าง ร้านทอง เครื่องจักร อาวุธ นาฬิกา งานเจียรไน โดยแว่นตา อัญมณีจะผสมระหว่างธาตุดินกับธาตุทอง ขณะที่การขนส่ง รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และอาวุธที่เป็นระบบอิเลคทรอนิค จะผสมระหว่างธาตุทองกับธาตุไฟ
ส่วนธนาคาร ธุรกิจการเงิน ไฟแนนซ์ โรงรับจำนำ จะผสมระหว่างธาตุทองกับธาตุน้ำ และเมื่อพิจารณาจากภาวะนิสัยประจำธาตุ ที่เน้นการลงมือปฏิบัติ และออกไปทางการแสดงออกในเชิงบู๊ จึงเหมาะกับอาชีพตำรวจ ทหาร ยาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บอดี้การ์ด แม้แต่นักมวย หรือศิลปะการป้องกันตัวทุกประเภท
อาชีพประจำธาตุน้ำ เป็นอาชีพเกี่ยวกับน้ำ ของเหลว และการเงินทั้งหลาย อาทิเช่น ขายเครื่องดื่ม บาร์ ผับ ไนท์คลับ ชลประทาน ประมง ไอศกรีม อาหารทะเล ห้องเย็น ค้าของทะเลสด เคมีภัณฑ์เหลว อาบอบนวด สถานบันเทิง ขณะที่การเดินเรือและรถ จะผสมระหว่างธาตุน้ำ ธาตุทอง และธาตุไฟ ส่วนธุรกิจการเงิน ธนาคาร จะผสมระหว่างธาตุน้ำกับธาตุทอง
สำหรับโรงแรม รีสอร์ท และสปา จะผสมระหว่างธาตุน้ำกับธาตุดิน และเมื่อพิจารณาจากภาวะนิสัยประจำธาตุน้ำ ซึ่งเน้นทางด้านการใช้ปัญญา พลิกแพลง และนำเสนอข้อมูล จึงเหมาะกับอาชีพ นักวิชาการ นักขาย นักการทูต มัคคุเทศก์ โดยรวมเอานักแสดง ดารา นักร้องด้วย เพราะเป็นการแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ ให้เกิดความบันเทิงต่อผู้ชม
อาชีพประจำธาตุไม้ เป็นอาชีพเกี่ยวกับไม้ ทั้งแบบธรรมชาติและแปรรูป อาทิเช่น ค้าไม้แปรรูป เฟอร์นิเจอร์ ขายต้นไม้ จัดดอกไม้ กระดาษ ขายหนังสือ สำนักพิมพ์ สมุนไพร ขณะที่การเกษตร จัดสวน จะผสมระหว่างธาตุไม้กับธาตุดิน โรงพิมพ์จะผสมระหว่างธาตุไม้กับธาตุทอง และเมื่อพิจารณาจากภาวะนิสัยประจำธาตุไม้ ที่เน้นความซื่อตรง นักคิด นักวิชาการ จึงเหมาะกับอาชีพ นักวิจัย อาจารย์ นักประพันธ์ นักการศาสนา ประชาสัมพันธ์ สื่อสาร การตลาด ข้าราชการพลเรือน และงานบริการเช่น แอร์โฮสเตส บริกร นักการโรงแรม
อาชีพประจำธาตุไฟ เป็นอาชีพเกี่ยวกับไฟ ความร้อน ไฟฟ้า อาทิเช่น แก๊ส การเชื่อม หลอดไฟ โคมไฟ ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเลคทรอนิค คอมพิวเตอร์ ร้านถ่ายรูป จะผสมระหว่างธาตุไฟกับธาตุทอง ร้านอาหาร ผสมระหว่างธาตุไฟกับธาตุดิน และเมื่อพิจารณาจากภาวะนิสัยประจำธาตุไฟ ที่เน้นในเรื่องของการแสดงออกซึ่งความงาม อ่อนโยน มีน้ำใจ จินตนาการ การเปิดเผย จึงเหมาะกับอาชีพ เสริมสวย นักสังคมสงเคราะห์ ที่ปรึกษา นักปราชญ์ ห้างสรรพสินค้า งานแฟชั่น ศิลปินที่ใช้จินตนาการ นักคิด นักวิทยาศาสตร์
นอกจากนั้นยังสามารถใช้เบญจธาตุในการปรับสภาวะแวดล้อมของบ้าน และอาคารที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมสอดคล้องกับพลังของธาตุได้ โดยสามารถแบ่งลักษณะบ้านหรืออาคารออกเป็นธาตุต่างๆ โดยดูได้จากทิศอิงของตัวบ้านหรืออาคารหลังนั้นๆ ส่วนการปรับสภาวะให้สอดคล้องกับธาตุ จะเน้นที่รูปทรงของบ้าน สีสันที่ใช้
โดยอาศัยหลักของพลังธาตุทิศให้เป็นประโยชน์ เพื่อกำหนดสีพื้นและแถบสีเพิ่มเติม รวมไปถึงวัสดุเครื่องตกแต่งทั้งหลาย ความจริงแล้วองศาทิศอิงของบ้านจะถูกแบ่งออกตามทิศย่อยลงไปได้อีก แต่ในที่นี้จะเน้นเฉพาะทิศอิงแปดทิศหลักก่อน ส่วนทิศย่อยจะไปกล่าวถึงในรายละเอียดชั้นสูงต่อไป ซึ่งจะเป็นเพียงการแบ่งธาตุประจำบ้านให้ชัดเจนขึ้น แต่ยังสามารถใช้หลักการปรับแต่งเดียวกันกับที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เช่นกัน
บ้านธาตุดิน คือบ้านที่หลังอิงทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ รูปทรงบ้านสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ควรสูงมาก อาจเป็นบ้านชั้นเดียวที่กินบริเวณกว้าง หรือไม่เกินสองชั้น หลังคาสีน้ำตาลอ่อน ออกเหลือง ตัวบ้านทาสีครีมไข่ไก่อ่อนๆ เดินเส้นโทนสีน้ำตาลอ่อน หรืออาจทาพื้นสีขาว ตัดเส้นขอบด้วยสีครีม โดยเฉพาะด้านหน้าบ้าน เพราะหันประจัญทิศธาตุดิน จึงสามารถใช้หลักธาตุทิศ ให้ดินมากำเนิดทอง
ช่วยส่งเสริมให้บ้านเจริญรุ่งเรือง ลวดลายที่ใช้ได้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือลายเส้นที่เป็นเส้นตั้งฉากกัน วัสดุที่ใช้ตกแต่งมีเซรามิค กระเบื้อง ภาชนะ หรือรูปปั้นดินเผา ก้อนหินรูปทรงกลมมน ที่ไม่มีเหลี่ยมคม หรืออาจใช้เส้นโค้ง วงกลม และโทนสีขาว วัสดุแวววาว โลหะ ที่ด้านหน้าบ้านได้บ้าง แต่อย่าโดดเด่นจนเกินไป
บ้านธาตุทอง คือบ้านที่หลังอิงทิศตะวันตก หรือตะวันตกเฉียงเหนือ รูปทรงบ้านสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยใช้เคล็ดธาตุดินเสริมธาตุทอง ช่วยให้บ้านมีพลัง มีส่วนโค้งมนได้แต่อย่าเป็นลูกคลื่นความสูงไม่ควรเกินสองชั้น และไม่ควรเป็นแท่งเดี่ยวๆ เพราะจะกลายเป็นธาตุไม้พิฆาตทอง ทำให้บ้านอ่อนกำลัง หลังคาใช้สีน้ำตาลอ่อนของธาตุดินก็ได้ ตัวบ้านทาสีขาว ตัดด้วยขอบสีฟ้าอ่อนๆ เพื่อแทนธาตุน้ำ
โดยเฉพาะทางหน้าบ้าน แต่ไม่ควรมาก และไม่ควรอยู่สูงเกินชั้นสอง เพื่อเป็นการใช้หลักธาตุตัวกลาง มาช่วยลดความขัดแย้งของทิศทาง เพราะบ้านหลังอิงทิศธาตุทอง หน้าบ้านจะประจัญกับทิศธาตุไม้โดยไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งเป็นธาตุที่พิฆาตกัน จึงใช้ธาตุน้ำมาช่วยลดความขัดแย้ง ในอีกกรณีอาจดึงเอาพลังของทิศธาตุไม้มาใช้ประโยชน์ได้ โดยใช้หลักไม้กำเนิดไฟ จึงอาจมีโทนสีแดงหรือชมพูอ่อนไว้ทางหน้าบ้านบ้าง แต่ไม่ควรมาก เพราะไฟทำลายพลังของธาตุทอง
ลวดลายที่ใช้ได้คือ เส้นโค้งเว้า วงกลม ทรงกลม กรณีเส้นโค้งครึ่งวงกลม ไม่ควรต่อเนื่องติดกันเกินหนึ่งอัน เพราะจะกลายเป็นลูกคลื่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ และจะมาทอนกำลังธาตุทองของตัวบ้าน อาจใช้ได้บ้างทางด้านหน้า แต่ไม่ควรมากจนโดดเด่น วัสดุที่ใช้ตกแต่งเป็นพวกโลหะ วัสดุมันวาว หินอัญมณีที่ผ่านการเจียรไนแล้ว ด้านหน้าบ้านอาจตั้งน้ำ หรือใช้รูปลักษณ์เส้นโค้ง และโทนสีฟ้าของน้ำ หรือรูปทรงปลายแหลมและโทนสีชมพูอ่อนของไฟได้บ้าง แต่ต้องระวังไม่ให้โดดเด่นจนเห็นได้ชัด
บ้านธาตุน้ำ คือบ้านที่หลังอิงทิศเหนือ เป็นบ้านรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะดีกว่าจัตุรัส เพราะเป็นธาตุดิน ซึ่งพิฆาตธาตุน้ำ หน้าบ้านหันทิศใต้ ธาตุไฟ ซึ่งเป็นธาตุพิฆาตต่อกัน จึงควรใช้ธาตุไม้มาเป็นตัวกลาง ในการลดความขัดแย้ง หลังคาจึงควรเป็นสีเขียวหรือน้ำตาลเข้ม ตัวบ้านทาสีเขียวอ่อนจางๆ ตัดขอบด้วยสีครีมหรือสีเหลืองอ่อนๆ โดยเฉพาะหน้าบ้าน แต่ห้ามมาก เพียงเป็นการดึงพลังของทิศธาตุไฟมากำเนิดดิน เพื่อช่วยเพิ่มพลังให้ตัวบ้าน
ถ้ามากไปไม่ดี เพราะธาตุดินพิฆาตน้ำ ทำให้บ้านเสียกำลัง ลวดลายที่ใช้เน้นไปทางธาตุไม้เป็นหลัก คือใช้โทนสีเขียว สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นแท่งตั้ง ลายเครือเถาของไม้ แต่ต้องตั้งน้ำเพื่อเสริมกำลังให้ตัวบ้าน โดยต้องไม่ให้ขัดกับตำแหน่งของดาวเหิน เนื่องจากไม้ทอนกำลังของน้ำเช่นกัน อาจใช้โทนสีฟ้าขาว และลายเส้นโค้งของธาตุน้ำได้บ้าง ในตำแหน่งที่สูงกว่าพื้นแต่ไม่เกินอกของผู้อาศัย เพื่อช่วยกระตุ้นพลังของธาตุน้ำให้ตัวบ้าน รูปทรงและวัสดุที่ใช้ มีต้นไม้ใบเขียว ทั้งของจริงและของเทียม
สิ่งของที่ทำด้วยไม้ โทนสีเขียวอ่อน รูปทรงแท่งของสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยอาจใช้รูปทรงเส้นโค้ง และโทนสีฟ้าอ่อนของธาตุน้ำได้บ้าง ในตำแหน่งที่ไม่สูงเกินอก และห้ามใช้เป็นสีพื้นอาคารเด็ดขาด ส่วนด้านหน้าอาจใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และโทนสีเหลืองของธาตุดิน รวมทั้งวัสดุที่เป็นธาตุดิน เช่น เซรามิค ดินเผา แต่ห้ามมากจนโดดเด่นเช่นกัน
บ้านธาตุไม้ คือบ้านที่หลังอิงทิศตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ รูปทรงที่ใช้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความสูงได้มาก แต่ให้อยู่ในหลักที่กลมกลืนและสมดุลย์กับสภาพแวดล้อม หลังคาออกโทนสีน้ำตาลเข้ม หรือสีเขียวเข้มได้ ตัวบ้านทาสีเขียวอ่อน ตัดลายสีฟ้าจางของธาตุน้ำทางด้านหน้า เพื่อให้น้ำมาช่วยเป็นตัวกลางลดความขัดแย้งระหว่างทองกับไม้ เพราะบ้านธาตุไม้จะมีหน้าบ้านประจัญกับทิศธาตุทองเสมอ และรูปลักษณ์ของน้ำที่หน้าบ้านยังช่วยดึงพลังของธาตุทองให้มากำเนิดน้ำ ใช้ประโยชน์จากธาตุทิศมาเสริมกำลังให้ตัวบ้าน
รูปทรงและวัสดุที่ใช้ จึงเน้นไปทางธาตุไม้ คือรูปทรงแท่ง ลายเส้นที่แตกแขนงเหมือนต้นไม้ เครือเถาไม้ ต้นไม้ใบเขียว ของจริงหรือของปลอมได้หมด โทนสีเขียวอ่อน หรือสีน้ำตาลแก่ แต่ห้ามมาก เพราะแม้เป็นธาตุไม้ แต่สีทึบจะปลดปล่อยพลังหยิน ทำให้บ้านลดทอนพลังมงคล ด้านหน้าอาจมีรูปลักษณ์เส้นโค้ง และโทนสีฟ้าของธาตุน้ำได้บ้าง แต่ห้ามโดดเด่น รวมถึงการตั้งน้ำได้ด้วย ซึ่งต้องไม่ขัดกับตำแหน่งของดาวเหิน
บ้านธาตุไฟ คือบ้านที่หลังอิงทิศใต้ รูปทรงที่ใช้อาจเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ของธาตุไม้ ดีกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสของธาตุดิน เพราะไม้กำเนิดไฟ ช่วยเสริมกำลังให้บ้าน ขณะที่ดินทอนกำลังของไฟ ลดกำลังของบ้าน และเพราะหน้าบ้านประจัญกับทิศเหนือธาตุน้ำ ทำให้เกิดความขัดแย้ง การใช้ไม้เป็นธาตุตัวกลางจึงช่วยลดความขัดแย้งได้ และยังเป็นการดึงพลังของธาตุน้ำมาช่วยเสริมกำลังให้บ้าน หลังคาบ้านจึงอาจเป็นสีเขียวเข้ม หรือน้ำตาลเข้มก็พอได้
ตัวบ้านทาสีเขียวอ่อน อาจมีสีชมพูขาวแซมได้ ลวดลายมีทั้งเครือเถาของธาตุไม้ ไปจนถึงลายสามเหลี่ยมปลายแหลมของธาตุไฟ ให้ดูกลมกลืนกัน แต่ด้านหน้าบ้านอาจมีธาตุไฟน้อยอย่าให้โดดเด่นเพื่อลดความขัดแย้งของธาตุทิศ รูปทรงและวัสดุที่ใช้ เน้นไปที่ธาตุไม้ โทนสีเขียว วัสดุที่ทำด้วยไม้ หรือธาตุไฟ โทนสีชมพูอ่อน และการติดตั้งโคมไฟที่ให้แสงสว่าง โดยใช้ตำแหน่งดาวเหินร่วมพิจราณาด้วย
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นหลักการพื้นฐานในการประยุกต์ใช้หลักวิชาเบญจธาตุสัมพันธ์มาใช้ในการปรับชะตา โดยเฉพาะชะตาคน และชะตาดิน ความจริงแล้วในส่วนของชะตาฟ้า โดยเฉพาะเรื่องของฤกษ์ยาม หากจะให้ได้ฤกษ์ที่ดีมีความเหมาะสมต่อเจ้าชะตาอย่างแท้จริงแล้ว ก็จะต้องอาศัยหลักการส่งเสริมและทำลายของเบญจธาตุมาร่วมประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน
จึงจะก่อเกิดความสมบูรณ์พร้อมมากที่สุด ผู้เขียนจึงหวังว่า ท่านผู้อ่านคงพอจะได้แนวทางวิธีไปใช้บ้างโดยเฉพาะการปรับชะตาอาคาร ส่วนเรื่องการคำนวณหาธาตุประจำตัวบุคคลนั้น เชิญติดตามได้ในบทต่อๆ ไป เพราะมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่เมื่อเข้าใจแล้ว ไม่ว่าวิธีไหนก็ล้วนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ้น
(มิติทางหลักปรัชญา ep.3 เบญจธาตุสัมพันธ์)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา