ฝนตกบ่อยควรติดฟิล์มไหม และจะติดแบบไหนดีนะ
ถ้าเป็นช่วงฤดูกาลฝนตก หลายๆ คน อาจไม่ค่อยคำนึงถึงความจำเป็นของการติดฟิล์มบ้านกันเท่าไหร่นัก เพราะเมื่อไม่มีแดดมากวนใจหรือทำให้รู้สึกร้อนก็คงไม่ต้องติดฟิล์มหรอกมั้ง แต่… คุณรู้ไหมว่า แม้ฝนตกแต่รังสี UV ยังคงทำงานในทุกวัน!! เมื่อฝนหยุดแสง UV/IR แผ่กระจายทันทีและคงประสิทธิภาพทำลายล้างอยู่เหมือนเดิม จะรู้สึกได้ทันทีหลังฝนหยุดว่ารู้สึกร้อนอบอ้าวมาก ๆ แบบไม่สบายผิวเอาสะเลย เพราะแบบนี้เลยทำให้คนมักชะล่าใจว่ามีฝนตกบ่อย ฟิล์มกรองแสงคงไม่จำเป็น และเราขอบอกว่าคุณกำลังคิดผิดอย่างแรง!
ภัยเงียบจากแสงแดดในช่วงหน้าฝน ที่คุณคาดไม่ถึง …..
รังสี UV ซึ่งเป็นต้นเหตุของผิวหมองคล้ำ ผิวเหี่ยว เกิดริ้วรอยก่อนวัย รวมไปถึงเป็นรังสีที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้หากเราไม่มีการป้องกันหรือปกป้องผิว แม้อยู่ในบ้าน ผิวก็จะค่อยๆ โดนทำร้ายในทุกวัน จนเป็นเหตุให้เกิดเป็นโรคร้ายได้ในที่สุด
รังสี (IR) Infrared ซึ่งเป็นรังสีที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ว่าเป็นความร้อน และทำให้เราแสบผิวเมื่อสัมผัสในระยะเวลานาน สร้างความรู้สึกไม่สบายตัว หงุดหงิดใจ เพราะความรู้สึกจากที่เราได้รับจากรังสี IR สามารถสร้างให้เรารู้สึก ง่วง ล้า เหนื่อยเพลีย ล้าดวงตา เป็นต้น
Visible light เป็นแสงสีขาวที่อยู่ในแสงแดด หากเรามองผ่านกระจกบ้านโดยตรงโดยไม่มีอะไรปกป้องหรือช่วยในการกรองแสง เราจะได้รับแสงนี้ 100% ทำให้รู้สึกแสบตา จะส่งผลต่อสายตา และหากต้องมองสัมผัสเป็นเวลานานๆ ก็อาจทำร้ายลึกลงไปถึงจอประสาทตาเลยทีเดียว ส่งผลให้เกิดโรคทางดวงตาตามมาได้นั่นเอง
และคุณทราบวิธีแก้ไขปัญหาไหมคะ? ที่จะทำให้การพักผ่อนที่บ้าน ได้รับความรู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายแม้ในวันฝนตกหรือแดดออก วันนี้ Maxxma จะมาแนะนำ การปกป้องทุกคนในบ้านด้วยวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุด นั่นก็การติดตั้งฟิล์มกรองแสง แต่ทว่าตอนนี้เป็นช่วงฤดูฝน บางท่านอาจจะคิดว่ายังไม่จำเป็นแต่จริงๆ แล้วจำเป็นอย่างยิ่ง แอดมินจะมาแนะนำให้ ตามมาอ่านกันค่ะ
การเลือกติดฟิล์มกรองแสงในหน้าฝน หรือช่วงที่ฝนตกทุกวัน
ควรเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารประเภทฟิล์มเซรามิค เพราะฟิล์มกรองแสงอาคารแบบเซรามิค เป็นฟิล์มที่สามารถใช้ได้ดีในทุกฤดูกาล และการเซ็ตตัวจะแตกต่างจากฟิล์มที่ไม่ใช่ฟิล์มเซรามิคแถมยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีอันตรายที่มากับแสงแดด ไม่ให้ส่องผ่านเข้ามาในบ้าน ทำให้รู้สึกกวนใจแถมยังทำลายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านให้ดูเก่า หรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันสมควรอีกด้วย และแนะนำให้เลือกฟิล์มที่มีความเคลียร์คมชัดเพื่อสามารถมองชมวิวหน้าฝนได้แม้ต้องอยู่ที่บ้าน จะได้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ช่วงฝนตกบ่อยๆ แบบนี้ ก็คงหนีไม่พ้นฟ้าร้องฟ้าผ่า หรือแม้แต่ลมฝนกระโชกแรง ทำเอากระจกบ้านสั่นสะเทือนกันไปหมด การติดฟิล์มสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย กรณีเกิดภัยทางธรรมชาติให้กับคุณได้นะ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่อาจทำให้กระจกแตกร้าว หากเราติดฟิล์มที่กระจกบ้าน ฟิล์มจะช่วยชะลอหรือช่วยยืดระยะเวลาในการแตกร้าวออกไปได้นานกว่ากระจกที่ไม่ติดฟิล์มที่จะแตกและหลุดกระจายในทันที
ฟิล์มเซรามิค Maxxma ที่สามารถเลือกติดตั้งได้ในช่วงหน้าฝน
1. ฟิล์มกรองแสง MAXXMA รุ่น Polarized (โพลาไรซ์) รหัส: MX-PR เป็นฟิล์มกรองแสง นาโนเซรามิค “ที่สุดแห่งความเคลียร์” ฟิล์มรุ่นท็อปของแบรนด์ ความพรีเมี่ยมที่ลงตัวยิ่งขึ้น ฟิล์มกรองแสงที่สามารถป้องกันรังสี UV(ยูวี)/IR(อินฟราเรด) ได้สูงที่สุด 99% เนื้อฟิล์มมีความหนาพิเศษถึง 2มิล (กึ่งนิรภัย) เนื้อฟิล์มมีความเคลียร์คมชัด
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเดียวกับเลนส์กล้องถ่ายรูป ประสิทธิภาพการกรองแสงดีที่สุด มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 ระดับความเข้ม (30% 40% 60% และ80%) โทนสีฟิล์มมีความหรูหรา ให้ความรู้สึก Luxury ได้อย่างลงตัว
ช่วยเสริมให้บ้านคุณดูสง่างามอย่างมีระดับ
(รับประกัน 7 ปี)
2. ฟิล์มกรองแสง MAXXMA รุ่น Black Panther (แบล็คแพนเธอร์) รหัส: MX-BP เป็นฟิล์มกรองแสง เซรามิคนาโนคาร์บอน กันรังสีUV99% เนื้อฟิล์มหนา 1.5 (มาตรฐาน) มาในโทนสีดำ คม/เข้ม/สมาร์ท โทนสียอดนิยมสุดคลาสสิคไม่มีเอาท์ มีให้เลือก 3 ระดับความเข้ม (40% 60% และ80%) มอบความเป็นส่วนตัวจากสายตาคนภายนอก แต่ภายในสามารถมองออกไปได้ปกติและให้ความรู้สึกสบายตา รุ่นยอดนิยมขายดีตลอดกาล (รับประกัน 5 ปี)
3. ฟิล์มกรองแสง MAXXMA รุ่น Refined (รีไฟน์) รหัส: MX-R เป็นฟิล์มกรองแสง เซรามิคเมทัลไลซ์ (สีปรอท) กันรังสีUV99% เนื้อฟิล์มหนา 1.5 (มาตรฐาน) มี3เฉดสี (ฟ้า/น้ำตาล/เขียว) และมีหลายระดับความเข้มของแต่ละเฉดให้เลือกสรร เท่ห์/ล้ำ/นำเทรนด์ มอบสีสันแห่งการใช้ชีวิตอย่างไม่จำเจ ด้วยความเงาวาวของเนื้อฟิล์มที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ ทำให้ฟิล์มรุ่นนี้สามารถสะท้อนความร้อนภายนอกได้เป็นอย่างดี
ในราคาสุดคุ้มค่า ฟิล์มรุ่น Refined จึงได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มที่ชอบโทนสีปรอทอย่างมาก (รับประกัน 5 ปี)
หวังว่าข้อมูลข้างต้น คงทำให้สามารถตัดสินใจได้ในระดับหนึ่งแล้วหละ ว่าคุณจะเลือกใช้รุ่นไหนเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของบ้านได้มากที่สุด หรือหากยังลังเล ทักข้อความหรือโทรเข้ามามาสอบถามพูดคุย รับคำแนะนำจากแอดมินได้นะคะ ยินดีให้บริการค่ะ^^ แอดมินขอแนะนำเสริมจากการตัดสินใจเลือกติดฟิล์ม มาดูวิธีการดูแลรักษาหลังติดฟิล์มไปพร้อมๆ กัน
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
