11 ก.ค. 2023 เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ท่าดีทีเหลว ทำไม “เศรษฐกิจโลก” ฟื้นตัวได้แต่ไปไม่สุด…?

แม้ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ ของโลกหลายแห่งจะไม่ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา (recession) ในช่วงครึ่งแรกของปีอย่างที่นักวิเคราะห์หลายคนเดาไว้ แต่โอกาสที่จะเจอกับการชะลอตัวก็ยังคงมีอยู่
หนึ่งในสาเหตุก็เพราะ กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายแห่งที่ไปได้ดีในตอนนี้มาจากการที่ปัญหาด้านห่วงโซอุปทานคลี่คลายลงบวกกับความต้องการซื้อที่ถูกปลดปล่อยหลังช่วงโควิด ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาการขาดแคลนสินค้าและทรัพยากรณ์ที่ใช้ในการผลิตนั้นเริ่มคลี่คลายตั้งแต่ที่มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดซึ่งทำให้บริษัทและโรงงานกลับมาทำงานกันตามปกติ
นอกจากนี้ ราคาพลังงานและต้นทุนการขนส่งที่ลดลงก็ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการให้ผลิตสินค้ามากขึ้น และความต้องการซื้อสินค้าและบริการก็เพิ่มขึ้นหลังจากที่โลกปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติด้วย
โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกไปได้ดี แต่ก็อาจเป็นแค่ในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า เพราะเมื่อความต้องการซื้อที่อัดอั้นมาในช่วงโควิดลดลง การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิตก็จะชะลอตัวตามด้วย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เหมือนจะเกิดขึ้นแล้วในจีน ที่ตัวเลขชี้วัดล่าสุด
เริ่มแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังปลดล็อกดาวน์ชะลอตัวเร็วกว่าที่คาด มิหนำซ้ำ อัตราการว่างงานของหนุ่มสาวอายุ 16 – 24 ปีในจีน ก็เพิ่งจะแตะระดับสูงสุดที่เคยมีไป ซึ่งการว่างงานที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลงไปด้วยในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุ มาจากการที่นโยบายการเงินแบบเข้มงวดมักจะใช้เวลาสักพักก่อนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แม้ในช่วงนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะยังดูไปได้ แต่ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลกก็เริ่มปรากฏตัวให้เห็นแล้ว ยกตัวอย่างเช่นความต้องการกู้เงินโดยบริษัทในยุโรปที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง (แผนภูมิ 1)
แถมธนาคารมากมายก็เริ่มปล่อยเงินกู้ยากขึ้นด้วย อย่างในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ธนาคารพานิชย์ในสหรัฐฯ กว่า 46% ก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้บริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 44.8% (แผนภูมิ 2)
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดการเงินในหลายประเทศมีความตึงตัวมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสที่หลายแห่งจะเจอกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาได้
แนวโน้มที่เศรษฐกิจที่ดูท้าทาย ทำให้หลายคนมองว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ จะขยายตัวช้ากว่าในปีก่อนหน้า (ตาราง 1) จากคาดการณ์ของ Capital Economics เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะโตช้าลงจาก 2.7% ในปี 2022 เหลือแค่ 0.6% ในปีนี้
ในทำนองเดียวกัน World Bank มองว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะโตที่ 0.7% ในปีนี้ ลดลงจากประมาณ 2.6% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้การเติบโตจะดูอ่อนแอ ธนาคารกลางในประเทศเหล่านี้ก็ยังไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศยังคงสูงและตลาดแรงงานก็ยังค่อนข้างตึงตัว
ผู้เขียน : บูชิตา ปิตะกาศ Economist, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Sources:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา