Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Introverted investor
•
ติดตาม
12 ก.ค. 2023 เวลา 15:39 • ธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)
🟢“One stock per week” [EP.7] : แนะนำหุ้นไทย🟢
✅บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) : [TACC]
🥃เจ้าของตำนานกาแฟเย็นโถกดใน 7-11 ซึ่งร่ำลือกันว่าดีกรีแรงสุดโหด ใครเผลอลิ้มรสแล้วล่ะก็ไม่ต้องนอนกันทั้งคืน🔥
🟢“TACC” ประกอบธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ และสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ 2 กลุ่ม ดังนี้
🔹 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนากับพันธมิตรทางธุรกิจ : เครื่องดื่มในโถกดในร้าน 7-Eleven, เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงที่จัดจำหน่ายให้กับร้าน All Cafe ในร้าน 7-Eleven และผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนาเพื่อจำหน่ายเป็นครั้งคราวหรือตามฤดูกาล, เครื่องกดเครื่องดื่มร้อนแบบอัตโนมัติ
🔹 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัท : เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงตรา "ณ อรุณ" (Na-Arun), ธุรกิจคาแรคเตอร์ และไซรัปผลไม้ ตรา ทรีว่า (TRIVA)
✴ ผลิตภัณฑ์ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของ “TACC” คือเครื่องดื่มในโถกด ณ ร้าน 7-Eleven ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการพัฒนาสินค้าร่วมกันกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) : [CPALL] ในรูปแบบ Business to Business (B2B)
🟢บริษัทย่อย
🔹 บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (TACC ถือหุ้น 89%) : จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ
🔹 บริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด (TACC ถือหุ้น 30%) : ผลิตและจำหน่ายสารสกัดพืชและแปรรูปสมุนไพร
🟢โรงงาน
🔹 โรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง : โครงการพารากอน แฟ็คตอรี่แลนด์์ จังหวัดชลบุรี (1.1 ไร่) กำลังการผลิต 2,021 ตันต่อปี / แต่ TACC ยังคงใช้วิธีการจ้างผู้ผลิตภายนอกเป็นหลัก (มากกว่า 80% ของการผลิตเพื่อจำหน่าย) โดยให้เหตุผลเรื่องความหลากหลายของสินค้า
🟢รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
🔹 ชัชชวี วัฒนสุข : 20% (ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ)
🔹 ต่างชาติ : 7%
🔹 ทนุธรรม เกียรติไพบูลย์ : 5%
🔹 จารุณี ชินวงศ์วรกุล : 2%
🔹 กองทุนไทย : 2%
🔹 ณัฐจักร์ เลียงชเยศ : 2%
🔹 ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ : 2%
🔹 ภาวินี สุวรรณเมธานนท์ : 1.50%
🔹 ปริญญา เธียรวร : 1.50%
1
🟢ธุรกิจ B2B (ทั้งหมดขายให้กับ CPALL)
🔹 เครื่องดื่มเย็นในโถกด : ขายให้กับ 7-Eleven ในรูปแบบผงปรุงสำเร็จบรรจุถุง เพื่อนำไปชงใส่ในโถอีกครั้ง มีทั้งรสชาติหลักที่ต้องมีใน 7-Eleven ทุกสาขา (กาแฟ ชานม) และรสชาติตามฤดูกาล (เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน)
🔹 เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงพร้อมชง (ยกเว้นประเภทกาแฟ) : ขายให้กับ 7-Eleven (All Café) มี 4 รสชาติหลัก คือ ชานม ชาเขียวนม มัทฉะ ชามะนาว ชานมมุก และรสชาติตามฤดูกาล ณ สิ้นปี 2022 มุม All Café ใน 7-Eleven มีมากกว่า 13,000 สาขา
🔹 เครื่องกดเครื่องดื่มร้อนแบบอัตโนมัติ : มี 3 รสชาติหลัก คือ กาแฟ ช็อคโกแลต และชาเขียวนมมัทฉะ (แก้วละ 17 บาท)
🟢ธุรกิจ B2C
🔹 เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงตรา "ณ อรุณ" (Na-Arun) : บรรจุซองขนาด 500 กรัม แบ่งเป็น 3 หมวด คือ กาแฟ ชา และเครื่องดื่มทั่วไป
🔹 Licenses Business (คาแรคเตอร์) : ทำสัญญากับบริษัท Ingram ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนให้ใช้ลิขสิทธิ์ของบริษัท San-X, TACC จะดูแลลิขสิทธิ์ครอบคลุม 7 ประเทศ คือ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ระยะเวลาของสัญญา 5 ปี (สิทธิในการผลิตสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิทางการตลาดอื่นๆ แก่กิจการหนึ่ง โดยบริษัทผู้รับสิทธิหรือได้รับสัมปทาน ต้องจ่ายค่าตอบแทนตามที่ได้ตกลงกันไว้เป็นกรณีไป ส่วนใหญ่มักชำระในรูปของค่าธรรมเนียม)
🟢โครงสร้างรายได้ของ “TACC” เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง
🔹 หมวดเครื่องดื่มขายให้ 7-Eleven (B2B) : 94%
🔹 อื่นๆ (B2C) : 6% (รายได้สิทธิ์ในการใช้ตัวการ์ตูน 1.70%)
🟢ช่องทางการจำหน่ายสินค้า
🔹 รายได้มากกว่า 94% มาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ CPALL
วัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าของ TACC คือ กาแฟ ชา น้ำตาล และนม (ส่วนใหญ่บริษัทจัดหาเพื่อส่งต่อให้ผู้ผลิตภายนอก)
🟢ปัจจัยความเสี่ยงของ “TACC”
🔺 ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ : รายได้เฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังมากกว่า 94% ของ TACC มาจากการขายสินค้าให้ CPALL ผ่าน “Exclusive Contract” ต่อสัญญาอัตโนมัติทุก 3 ปี เป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่องกว่า 20 ปีมาแล้ว
🔺 ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้ผลิตภายนอก (OEM) : TACC ว่าจ้างผู้รับจ้างผลิตภายนอก 8 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% จากยอดการสั่งซื้อวัตถุดิบของบริษัท
🔺 ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและการขาดแคลนวัตถุดิบ : วัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าของ TACC คือ กาแฟ ชา น้ำตาล และนม
🔺 ความเสี่ยงการรักษาความลับสูตรการผลิต : สูตรการผลิตชาและกาแฟของ TACC ถือเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องเก็บรักษาเป็นความลับ
🟢คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A) ไตรมาสที่ 1/2023
🔸 รายได้รวม = 380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% (จากสถานการณ์ Covid ที่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และการขยายสาขาในกัมพูชาของ 7-11)
🔸 ต้นทุนขาย = 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% (จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ)
🔸 กำไรสุทธิ = 42 ล้านบาท ลดลง 30% (จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายพนักงาน)
🟢ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์
🔸 คาดว่ารายได้ของ TACC จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากการขยายสาขาของ 7-11 โดยเฉพาะในกัมพูชา และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
🔸 การเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารเสริมและความงาม คาดว่าปีนี้จะยังขาดทุน และพลิกกลับมามีกำไรในปี 2024
🔸 คาดว่ารายได้รวมทั้งปี 2023 จะลดลงจากปีก่อน
🔸 ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 แห่ง จะกดดันกำไรในปี 2023
🟢เป้าหมายการเติบโตในอนาคตจากผู้บริหาร
🔸 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2023 เติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน จากการเพิ่มมูลค่าสินค้าเดิม ควบคุมค่าใช้จ่าย และออกสินค้าใหม่
🔸 ธุรกิจอาหารเสริมและความงาม (แบรนด์ “Bloss Natura”) ในปี 2023 น่าจะยังขาดทุน และคาดว่ารายได้จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2024 ซึ่งมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท
🔸 ผู้บริหารมีเป้าหมายขยายฐานรายได้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับ CPALL ให้มีสัดส่วนมากกว่า 10% จากรายได้ทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่
🔸 ตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 32% และอัตรากำไรสุทธิประมาณ 15%
🔸 มีเป้าหมายขายหุ้นทิ้งทั้งหมด ในบริษัทร่วมทุน บริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด [TCI], (TACC ถือหุ้น 30%) : ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดพืชและแปรรูปสมุนไพร เนื่องจากธุรกิจกัญชง กัญชา มีแนวโน้มไม่สดใส โดยมีแผนการขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดภายในครึ่งปีแรกของปี 2024 และคาดว่าจะรับรู้ผลขาดทุนไตรมาสละ 1-2 ล้านบาท จนกว่าจะขายได้
🟢ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
🔸 กลางปี 2022 : ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงินลาออก
🔸 ต้นปี 2023 : จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (TACC ถือหุ้น 89%) เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ
🔸 ต้นปี 2023 : บริษัทย่อย เข้าลงทุนใน บริษัท บลัช บิวตี้ (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ “Bloss Natura” ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริม (มูลค่าเงินลงทุน 40 ล้านบาท)
🔸 กลางปี 2023 : ชัชชวี วัฒนสุข (CEO และผู้ถือหุ้นใหญ่) ซื้อหุ้นเพิ่ม 500,000 หุ้น
🔸 กลางปี 2023 : 7-11 ในกัมพูชามี 58 สาขา (CPALL มีเป้าหมายขยายเป็น 100 สาขาภายในปีนี้) และคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดสาขาที่ลาวอย่างน้อย 1 สาขา
🟢ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์
🔸 P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของ TACC = 18 เท่า
🔸 P/E เฉลี่ย อุตสาหกรรมอาหารในตลาดหุ้นไทย = 19 เท่า
🔸 P/E ของ TACC ณ ปัจจุบัน = 12 เท่า
🟢แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ปี 2022 – 2024
🔸 น้ำดื่มบรรจุขวด : มีแนวโน้มเติบโต 2-3% ต่อปี เนื่องจากเป็นสิ่งจำเป็น เข้ากับวิถีการใช้ชีวิต และการคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัย
🔸 น้ำอัดลม : มีแนวโน้มผันผวนและทรงตัว ผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราภาษีความหวาน และการแข่งขันที่รุนแรงภายในอุตสาหกรรม
🔸 กาแฟ : ผลผลิตกาแฟโลกอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่ปี 2022 จนกว่าผลผลิตรอบใหม่จากบราซิลจะออกสู่ตลาดโลกประมาณปี 2025 เพื่อชดเชยผลผลิตที่เสียหายเดิมจากสภาพอากาศแปรปรวน เป็นปัจจัยกดดันให้ราคากาแฟโลกทรงตัวในระดับสูง
☑“TACC” มีลูกค้าหลักคือ CPALL ซึ่งคิดเป็นรายได้จากลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวถึงมากกว่า 94% จากรายได้ทั้งหมด ประเด็นนี้มองได้ 2 ด้าน บ้างก็ว่านี่คือจุดแข็งของบริษัท เติบโตอย่างแข็งแกร่งและปลอดภัยไปกับ CPALL และสาขาของ 7-11 ไม่จำเป็นต้องทำการตลาดและขยายสาขาด้วยตนเอง ได้เปรียบบริษัทอื่นๆ ในเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านสาขา 7-11 ซึ่งคงไม่มีใครกล้าเถียงว่านี่คือร้านสะดวกซื้อผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศไทยและอาเซียนแล้ว มีรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ ค่อยๆเติบโต จ่ายปันผลสูงเย้ายวนใจ
หากแต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่งประเด็นนี้ก็อ่อนไหวพอสมควร ใครๆก็รู้ว่า CPALL ยิ่งใหญ่เพียงใด แล้วสถานะของ TACC อยู่ที่ตรงไหน? อำนาจการต่อรองกับคู่ค้าของ TACC คือฝันร้ายของบริษัทหรือไม่? แล้วถ้า CPALL ไม่ต่อสัญญาล่ะ? ถึงแม้ผู้บริหารจะเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมากกว่า 20 ปีก็ตาม อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หากถูกยกเลิกสัญญา รายได้เกือบทั้งหมดของ TACC ก็หายไปในอากาศ แทบล้มทั้งยืน
TACC มีความพยายามที่จะกระจายความเสี่ยงฐานรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ CPALL ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการรุกคืบไปยังธุรกิจใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาแบรนด์สินค้าของตนเอง และการเข้าลงทุนในธุรกิจความงามและสุขภาพซึ่งผู้บริหารเชื่อมั่นว่านี่คือกระบวนการสร้างการเติบโตใหม่ๆ ในอนาคต น่าสนใจติดตามเหมือนกันนะครับว่า การเปิดน่านน้ำใหม่ในครั้งนี้ แรงลมจะนำพา TACC ไปสู่ทิศทางใด
⭕ บทความนี้เป็นเพียงการรวบรวมและนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพจากรายงานประจำปีของบริษัทและข้อมูลข่าวสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไป ไม่มีเจตนาในการชี้นำ เชิญชวน โน้มน้าว ให้เกิดการลงทุน ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้ความรู้และความเข้าใจ เพื่อกำหนดเส้นทางการลงทุนของตนเอง
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
ธุรกิจ
หุ้น
การลงทุน
4 บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
🟢“One stock per week” : แนะนำหุ้นไทย🟢
4
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย