5 ส.ค. 2023 เวลา 08:55 • ท่องเที่ยว
Bromo Tengger Semeru National Park

ออกไปไต่ปากปล่องภูเขาไฟโบรโม

จากน้ำตกทุมปักเซวู กว่าจะถึงที่พักที่แทบจะอยู่ยอดเขา อากาศหนาวเหน็บจนต้องใส่เสื้อหนาวขนเป็ดนอน
นอนเที่ยงคืน ตื่นตี 2 นี่เป็นที่มาของชื่อทริปนี้ คุณจานะ ผู้ดูแลเราตลอดทริปคนเดิม นอนรอในรถตั้งแต่เมื่อคืน ออกจากที่พักตี 3 ด้วยรถจี๊ปสุดเท่ห์ ขับออกมาจากที่พักได้หน่อยเดียวก็เหมือนรถจี๊ปทุกคันมาต่อคิวขึ้นเขา ดูตระการตายังกับกองคาราวาน แต่เสียอย่างเดียว ควันไอเสียจากรถจี๊ปเหม็นมาก เดาว่าเพราะเป็นน้ำมันดีเซล นั่งไปเมารถไป แนะนำให้พกยาดมมาด้วย ขึ้นเขาพันโค้งจนมาถึงยอด
มีการจองที่จอดรถโดยให้แก๊งค์มอเตอร์ไซค์มาจอดก่อน พอรถจี๊ปเรามาถึงก็ถอยมอเตอร์ไซค์ออกจอดรถได้เลย เดินขึ้นเขาเบาๆประมาณร้อยเมตร แต่ด้วยความปวดขามาตั้งแต่เมื่อวาน ประกอบกับการนอน 2 ชม. แล้วทางก็ชันมาก ต้องเดินไปเกาะรถจี๊ปที่จอดข้างทางไป ใครพกไฟฉายมาก็ได้ใช้อยู่ แต่จะไม่เอามาก็ได้ เพราะแสงไฟจากรถที่จอดอยู่ก็พอมองเห็นทาง เดินขึ้นเขาไปประมาณ 100 เมตรก็จะเห็นร้านขายของเรียงราย ซึ่งทุกร้านก็ขายเหมือนกันคือเครื่องดื่มร้อนแบบซองและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งแบบถ้วยและแบบซอง
จากเมื่อคืนที่ได้งีบไป 2 ชม. ตื่นมาอาบน้ำ ก็สดชื่นเริ่มกินได้ เดินไปจิ้มๆซองที่ดูน่าอร่อย ถามเค้าว่าอันไหนแบบซุป แล้วเค้าก็จะถามว่าจะใส่ไข่มั้ย จากนั้นก็สั่งไมโลร้อนมาให้เพื่อนๆ ส่วนเราขอแต่น้ำร้อนเพราะเอาโอวัลตินซองมาด้วย โต๊ะที่นั่งก็จะเตี้ยๆ บางโต๊ะมีแต่เก้าอี้นั่งล้อมเตาผิงไฟ คนส่วนใหญ่สั่งเครื่องดื่มร้อนมากินกับกล้วยทอด ที่นี่เค้าเสิร์ฟกล้วยทอดเป็นถาด แต่เวลาคิดเงินคิดเป็นชิ้น เพราะฉะนั้นต้องนับไว้ด้วยว่าเรากินไปกี่ชิ้น
กล้วยทอดเค้านิ่มไม่เหมือนบ้านเรา
ไม่นานบะหมี่ที่สั่งไว้ก็มา ควันหอมฉุย เส้นบะหมี่นุ่มมาก มีรสสัมผัสคล้ายบะหมี่เหลืองมากๆ น้ำซุปส่วนใหญ่เป็นรสไก่ เพราะที่นี่เค้าไม่กินหมูกัน หลังจากซัดบะหมี่ กล้วยทอด และโอวัลตินแล้ว ก็ใกล้เวลาพระอาทิตย์ขึ้น เนื่องจากเราไม่ใช่ตากล้องมืออาชีพ เลยไปต้องรีบไปจองที่ จ่ายตังค์เดินออกจากร้านไปไม่ถึง 1 นาที ก็ถึงจุดชมวิว นักท่องเที่ยวทั้งฝรั่ง ทั้งเอเชีย เต็มไปหมด รอถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและวิวภูเขาโบรโม โชคดีที่เราไปแล้วฟ้าเปิด มีเมฆหมอกบางๆ พอให้ถ่ายรูปสวย
พระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิว
เขาสุเมรุที่สูงๆด้านหลัง ยังมีพลังงานอยู่ มีการระเบิดของควันจากปากปล่องเป็นระยะ ดูแล้วเหมือนภูเขาสูบบุหรี่แล้วพ่นควันออกมา ส่วนโบรโม่คือภูเขาปากกว้างที่ยังมีควันอยู่ เป็นภูเขาไฟเบบี๋ที่บังเพิ่งเริ่มก่อตัว จะเห็นได้จากระดับความสูงและระดับความกว้างของปากปล่อง และต้นไม้รอบภูเขา ถ้าภูเขาไฟปะทุและพ่นลาวาออกมาบ่อยๆ ลาวาก็จะทับถมให้ภูเขาสูงขึ้น ปากปล่องแคบลง พอเริ่มทิ้งช่วงปะทุนานๆเข้าก็จะเริ่มมีต้นไม้เขียวๆขึ้น เลยชัดเจนว่าน้องโบรโม่น่าจะเดบิวท์เป็นภูเขาไฟได้ไม่นาน
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับมาที่รถจี๊ป ระหว่างทางเจอข้าวโพดคลุกเนยโรยชีสดักไว้ซะก่อน ข้าวโพดคลุกเนยราดด้วยมายองเนส ขูดมอสซาเรลล่าชีสโรยหน้าอีกที อากาศหนาวๆ ข้าวโพดร้อนๆ ชีสยืดๆ ฟินมาก นั่งรถจี๊ปลวมาเพื่อเดินทางไปโบรโม ระหว่างทางเหมือนอยู่ในการแข่งขันรถจี๊ปออฟโร้ด วิ่งกันฝุ่นตลบ แล้วพี่คนขับก็หามุมจอดถ่ายรูปให้แบบไม่ติดคน เป็นอีก 1 จุดที่ต้องถ่ายรูปกับรถจี๊ป ด้านหลังเป็นภูเขา
พอแดดออกยูวีก็แรงมาก แนะนำให้เอาแว่นกันแดดมาด้วย
จากนั้นก็นั่งรถต่อไปอีกหน่อยจนถึงจุดจอด เพื่อจะต้องเดินขึ้นไปโบรโม แต่ด้วยความที่ขาล้ามาก เราควรเก็บแรงพักร่างกายไว้วันอื่นๆบ้าง เลยเลือกขี่ม้าแทน เลือกม้าให้ตัวใหญ่กว่าเราซัก 2 เท่า น้องจะได้มีแรงแบกเราขึ้นไป ราคาขี่ม้าไปกลับ 4 แสน แต่คุณจานะบอกว่าจริงๆ 2 แสนก็ได้ น้องที่มาด้วยขี่ม้าเป็น นางเลยควบม้าไปเลยจ้า ส่วนเราก็ให้เจ้าของม้าจูงม้าไป น้องม้าชื่อนีโย่ นางดูเรียบร้อย การขึ้นม้า-ลงม้าสำหรับคนไม่เคยขี่ม้าและปวดขามากเป็นความทรมานอย่างหนึ่ง แต่ใดๆคิดว่าคิดถูกที่นั่งม้ามา
ขี่ม้าครั้งแรก ดีที่น้องม้าใจดี
ระยะทางจากจุดจอดรถจนถึงที่ลงม้าค่อนข้างไกล ฝุ่นดินภูเขาไฟฟุ้งไปหมด แนะนำให้ใส่หน้ากากหรือหาผ้าปิดจมูก หลังจากลงม้าก็ต้องเดินขึ้นบันไดอีกประมาณ 500 ขั้น เพื่อขึ้นไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ คนพื้นที่ถือว่าปล่องภูเขาไฟโบรโมเป็นตาสวรรค์ มีการโยนดอกไม้ลงไปเพื่อบูชาเทพเข้า ขอบปากปล่องสามารถเดินไปได้เรื่อยๆถ้าไม่กลัวความสูง เพราะระยะแรกๆก็ยังมีรั้วกั้นอยู่ พอเดินไปสักพัก รั้วจะไม่มีแล้ว ถ้าตกลงไปนี่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติเลยนะจ๊ะ แดดที่โบรโม UV แรงมาก ออกจากที่พักตั้งแต่มืดเลยลืมทากันแดด ดำไปเลยจ้า
ขาสั่น เหนื่อยก็พัก แต่ต้องยืนหันหลังให้แดด
เดินลงมาขึ้นน้องม้าตัวเดิมกลับมาที่จอดรถ แวะถ่ายรูปและซื้อสะเต๊ะอะยัม มันคือไก่สะเต๊ะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังจากนอนน้อยมา 2 คืนติด กลับที่พักประมาณ 9 โมง คุณจานะเอาข้าวกล่องอาหารเช้ามาให้ อาบน้ำสระผมให้สะอาด ออกไปเดินเล่นเก็บภาพรอบที่พัก เจอรถขายบักโซ(ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อ) อยู่ ตรงข้ามที่พักเลย นางกำลังเตรียมตัวจะออกไปขายของ เราเลยวิ่งไปขอซื้อ วิ่งกลับมาเอาชามที่ที่พักไปใส่บักโซร้อนๆ ได้ข้าวกลางวันมากินแบบงงๆ จากนั้นก็กลับเป็นตาย
ไก่สะเต๊ะที่ลานจอดรถและบักโซหน้าที่พักอร่อยอยู่นะ หิวแหละดูออก!!!
ส่วนคุณจานะ พอส่งข้าวเช้าเสร็จ เราก็นัดเค้าอีกทีตอน 5 โมงเย็น มารับเราออกไปกินข้าวเย็น นางก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวนางขอไปอาบน้ำนอนก่อนนะ แต่อยู่แถวนี้แหละ มีอะไรโทรมาเรียกได้เลย คือเอาจริงๆตั้งแต่นางมารับที่สนามบิน นางอยู่กับพวกเราตลอด 24 ชม. นอนอยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างที่พัก เราเลยบอกนางว่า ยูไปอาบน้ำนอนให้สบายใจเลย แล้วเจอกัน 5 โมงเย็น 5 โมงเจอนางอีกที หน้าตาสดใส นางพาไปร้านอาหารอินโด วิวดี อาหารหลักที่เราสั่งคือไก่ย่างทั้งตัว แต่ไก่แถวนี้ตัวเล็กมาก สั่งไก่นึกว่าได้นกกระทา
กับข้าวแทบทุกจานมีผักสดและซัมบอล(น้ำพริกอินโด) แถมมาให้ด้วย
แล้ววันนี้ก็จบไปอีกวัน กลับมาที่พักเก็บกระเป๋า พรุ่งนี้ย้ายที่อยู่ไปแถวอีเจี้ยน พรุ่งนี้ตื่นเช้า (ไม่ต้องตื่นดึก) เราควรเข้านอนเร็ว เจอกันวันพรุ่งนี้ในโพสต์ต่อไปจ้า...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา