5 ส.ค. 2023 เวลา 10:38 • ท่องเที่ยว
Madakaripura Waterfall

ม่านน้ำตก มาดาการิปุระ สวยๆ เดินสบาย ถ่ายรูปชิลๆ

หลังจากนอนตายไป 1 วันเต็มๆ ตื่นเช้ามา กินอาหารเช้าที่มาส่งแต่เช้า เก็บของคืนห้อง แล้วเราก็นั่งรถมาที่น้ำตก มาดาการิปูระ น้ำตกฮิตๆที่ใครๆก็มา ทัวร์ส่วนมากพามาที่นี่เพราะมันเดินง่าย ถ่ายรูปสวย มาน้ำตกทีไรได้นั่งมอเตอร์ไซค์ทุกที หลังจากจอดรถเสร็จ มอเตอร์ไซค์ที่คุณจานะนัดไว้ก็มารอแล้ว แต่รอบนี้ไม่ใช่ทางวิบาก นั่งมอเตอร์ไซค์ไปตามทางถนนลาดยางมะตอยเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าน้ำตก ไกด์ท้องถิ่นก็มารอเราแล้ว น้ำพร้อม ชุดพร้อมเปียก และที่สำคัญคือเสื้อกันฝน
นั่งมอเตอร์ไซค์รับลมชิลๆ น้องแมวหน้าเคาน์เตอร์หน้ารับแขกมาก!!!
เส้นทางเดินเข้าน้ำตกเป็นทางที่ทำไว้แล้ว ไม่ลำบากเท่าน้ำตกแรก ขาที่ใช้งานหนักตั้งแต่วันแรก ออกอาการปวดขึ้นเรื่อยๆ ดีที่ 2 วันนี้ไม่ต้องใช้แรงมาก เดินลึกเข้าป่าไปเรื่อยๆ อากาศก็เริ่มเย็น ที่นี่อันตรายถ้ามาฤดูฝนเพราะมันจะมีหินถล่ม เนื่องด้วยภูมิประเทศที่เป็นเหว หน้าผา ทางเดินไปน้ำตกมันอยู่ข้างล่าง วันดีคืนดีก็มีหินกลิ้งลงมาจากข้างบนหล่นลงมา เดินเข้าไปไม่นานไกด์ก็บอกให้ใส่เสื้อกันฝน เพราะเรากำลังจะฝ่าม่านน้ำตก น้ำตกที่นี่แม้ไม่ใหญ่เท่าทุมปักเซวู แต่มีความอลังการในแบบการไหลของน้ำตกที่แผ่ออกมา
ม่านน้ำตกมาดาการิปุระ
มาน้ำตกรอบนี้ประทับใจพี่ไกด์ที่สุด นอกจากน้ำตกจะสวยแล้ว พี่ไกด์ยังหามุมเก่งแล้วก็ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือธรรมดาได้โปรมาก เรายกมือถือให้พี่เค้าไปเลย นางถ่ายแล้วเชคภาพ ไม่สวยถ่ายใหม่ ทั้งภาพนิ่ง ทั้งวีดีโอ นึกว่าเอาช่างภาพส่วนตัวมาด้วย รอบนี้ใครได้ภาพเยอะสุดคนนั้นทิปพี่ไกด์หนักสุดไปเลยจ้า
1
ภาพสวย น้ำใส มาง่าย สายชิล
ถ่ายรูปจนใกล้เที่ยงก็เดินกลับ ออกมาข้างหน้าสนับสนุนผลิตภัณฑ์โอทอป น้ำผึ้งท้องถิ่นไป แล้วเราก็แวะทางข้าวเที่ยงที่ร้านบักโซชื่อดังที่คุณจานะแนะนำ (นางไม่รู้ไงว่าเรากินบักโซหน้าที่พักมาเมื่อวาน) ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อที่นี่เน้นลูกชิ้น ไม่เน้นเส้น เพราะเค้ากินกับข้าวต้มมัด ส่วนพวกเรากินแต่บักโซ ซัดกันไปคนละ 2 ชาม พอขึ้นรถก็กลับเลย หลับยาวมาจนถึงโรงแรมที่อีเจี้ยน ถึงที่พักประมาณ 6 โมงเย็น เชคอินที่พักเรียบร้อย คุณจานะก็พาเราไปกินสะเต๊ะตามที่เราขอ วนหาร้านอยู่ซักพักก็มาจอดร้านห้องแถวเล็กๆข้างทาง
น้ำผึ้งป่าและบักโซ
เมนูมีแค่ สะเต๊ะไก่ สะเต๊ะแกะ ซุปหางวัว ข้าวเปล่า ชาเย็น น้ำส้ม สะเต๊ะจานละ 10 ไม่ ราคา 25,000 รูปี คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 60 บาท เสียดายไปช้า ได้สะเต๊ะแกะมาจานสุดท้าย ที่เหลือมีแต่สะเต๊ะไก่ แต่ก็อร่อยทั้งคู่ สะเต๊ะราดน้ำซอสถั่วชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมหอมแดงซอยและมะนาวจิ๋ว โต๊ะเราสั่งหอมแดงซอยเพิ่มจนหมดร้าน เจ้าของร้านดูตื่นเต้นมากที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากินที่ร้าน นางมาขอถ่ายรูปด้วย มื้อนี้จัดสะเต๊ะไปกันคนละประมาณ 13-14 ไม้ น้ำส้มปี๊ดคนละแก้ว ใครอยากกินหวานก็คนหน่อย เพราะน้ำตาลทรายนอนอยู่ก้นแก้ว
มีความหิวจัด เลยถ่ายได้เท่านี้ แต่รสชาติดี เข้มข้นสุดๆ มะนาวกับซอสถั่วมันเข้ากันมาก
กลับที่พัก จัดกระเป๋าแล้วรีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องเช็คเอาท์ตั้งแต่ตี 2 เพื่อไปคาวาอีเจี้ยน ตามกำหนดเดิมได้ไปดูเปลวเพลิงสีน้ำเงินต้องออกตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ตอนที่เราไป ไกด์แจ้งว่า น้ำกรดในทะเลสาบมันเดือดล้นออกมา มันอันตรายเค้าเลยปิดไม่ให้ลงไปดู เราเลยมีเวลานอนเพิ่ม 2 ชม. ได้ออกตอนตี 2 โรงแรมที่นี่ไม่ได้อยู่บนเขาเลยไม่หนาวเท่าที่พักที่โบรโม แต่ก็ต้องออกเช้ามากเพื่อเผื่อเวลานั่งรถไปอีก 2 ชม. เจอกันวันพรุ่งนี้จ้า...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา