Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฝึกใจไปกับธรรมะ
•
ติดตาม
5 ส.ค. 2023 เวลา 12:02 • ไลฟ์สไตล์
ปัญหาใหญ่ของคนไทยส่วนใหญ่ก็คือปัญหาหนี้สิน
ทั้งที่เป็นหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบจนมีข้อเรียกร้องให้ทางการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข ก็ต้องยอมรับว่าคนเป็นหนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากความยากจนที่ไม่มีรายได้ เช่น ตกงาน แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่แม้จะมีรายได้แต่ก็เป็นหนี้ ซึ่งเป็นเพราะมีการใช้จ่ายมากกว่ารายได้
ซึ่งผู้เขียนก็อยากจะย้ำไว้ ณ ที่นี้ว่าการเป็นหนี้นั้นเป็นการนำเอาเงินในอนาคตมาใช้ในวันนี้ และหากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง เมื่ออนาคตมาถึงท่านก็ต้องใช้หนี้ และเป็นวัฏจักรเช่นนี้ทำให้ไม่หลุดพ้นจากวงจรความยากจน ในขณะที่การออมนั้นเป็นการเก็บเงินในวันนี้เอาไว้ใช้ในอนาคต และจะมีชีวิตในอนาคตที่มั่นคง และมีเกียรติมีศักดิ์ศรี
คนที่ไม่รู้จักควบคุมสติปัญญาของตนเองที่ใช้จ่ายมากเกินกว่ารายได้ที่มีอยู่นั้นเป็นเพราะลัทธิบริโภคนิยมที่ได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสื่อทางโทรทัศน์ที่มีการโฆษณาที่กระตุ้นให้คนเราอยากได้สินค้านั้น เช่น บ้าน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งนอกจากโทรทัศน์แล้วยังมีเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนมือถือที่จะมีส่งข้อความมาแจ้งโปรโมชั่นสินค้าต่าง ๆ ซึ่งระบบการโฆษณาในปัจจุบันจะพยายามทำให้คนคิดน้อยที่สุดแต่จะใช้ความรู้สึกอยากได้มากที่สุดในการตัดสินใจซื้อสินค้า
ลัทธิบริโภคนิยมนอกจากในรูปแบบการโฆษณาแล้ว ยังมาจากระบบสินเชื่อต่าง ๆ ทั้งสินเชื่อสินค้า และสินเชื่อบัตรเครดิตที่การให้บัตรเครดิตจะให้ง่ายดายมากขึ้น การมีบัตรเครดิตใช้ก็ทำให้คนเราตัดสินใจใช้จ่ายซื้อของได้ง่ายขึ้น เพียงรูดการ์ดไปก่อน และไปหวังกับเงินรายได้ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และหากเกิดเหตุฉุกเฉินที่รายได้ไม่เข้ามาตามที่คาดหวังแล้วก็จะเป็นปัญหาที่จะถูกเรียกร้องให้ชำระหนี้คืน
รูปแบบพฤติกรรมของคนก็มีส่วนต่อการเป็นหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบไปเดินตามห้างสรรพสินค้าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะซื้ออะไรเฉพาะเจาะจง แต่ในที่สุดแล้วก็ลงเอยด้วยการซื้อสิ่งของ เพราะห้างสรรพสินค้าจะมีสารพัดวิธีที่กระตุ้นให้คนเห็นแล้วอยากจะได้สินค้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีความจำเป็น เช่น การลด แลก แจก แถม ซึ่งผู้บริโภคส่วนหนึ่งก็ซื้อสินค้าเพราะคิดว่าสินค้าราคาถูก
วิธีการหลุดพ้นจากลัทธิบริโภคนิยมได้จึงต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การมีสติปัญญาที่จะทำให้ตนเองไม่ตกอยู่ในอิทธิพลของความอยาก เตือนตนเองอยู่ตลอดเวลาให้มีความรู้จักประมาณตนในการบริโภค ให้มีความยินดีหรือมีความพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่น ตัวอย่างเช่น เห็นเพื่อนบ้านเปลี่ยนรถคันใหม่ก็รู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนรถค้นใหม่ด้วย ทั้งที่ฐานะการเงินของตนเองก็ไม่ดีก็ดิ้นรนไปกู้หนี้ยืมสินมาซื้อรถคันใหม่ ความสุขที่ได้จากการซื้อรถคันใหม่เป็นความสุขชั่วคราวที่ไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อครบกำหนดต้องชำระหนี้
ดังนั้น คนเราจึงต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เช่น ในการบริโภคอาหารก็ควรพิจารณาว่าพึงบริโภคเพื่อไม่ให้หิว ไม่บริโภคเพื่อความโก้เก๋หรือตามแฟชั่นที่จะบริโภคอาหารในร้านที่หรูหรือแพง ตัวอย่างเช่น คนนิยมบริโภคโดนัทที่เป็นยี่ห้อดังนำเข้าจากต่างประเทศในราคาชิ้นละ 28 บาท ทั้งที่โดนัททั่วไปขายในราคาเฉลี่ยชิ้นละ 12 บาท ทั้งที่ส่วนประกอบก็เป็นแป้ง และน้ำตาลที่ให้คุณค่าทางอาหารไม่ต่างกัน การกินข้าวแกงจานละ 40 บาทก็อิ่มเหมือนกับกินอาหารภัตตาคารมื้อละหมื่นเช่นกัน
คนอีกกลุ่มหนึ่งที่หลงใหลคลั่งไคล้ในสินค้าที่มียี่ห้อดังทั้งตัว ประกอบไปด้วย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า แว่นตาที่จะต้องเป็นของมียี่ห้อ ถ้าเป็นคนที่ฐานะร่ำรวยไม่ขัดสนก็ไม่ขอขัดแย้งหรอก แต่สำหรับคนที่มีรายได้ต่ำแต่รสนิยมสูงที่พยายามเลียนแบบตามนั้นก็คงต้องถามตนเองถึงความคุ้มค่า และที่สำคัญคือเหมาะสมกับฐานะของตนเองหรือเปล่า และซื้อแล้วจะเดือดร้อนกับตนเองหรือครอบครัวหรือเปล่า ดังนั้น คิดก่อนซื้อทุกครั้ง และอย่าลืมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่าต้องพอเหมาะ พอประมาณ และมีสติ
• • • • •
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมภ์เข็มทิศเงินทุน - 22 มกราคม 2554
พัฒนาตัวเอง
หนังสือ
เรื่องเล่า
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สุขสาระ 🤗
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย