22 ส.ค. 2023 เวลา 11:25 • ท่องเที่ยว
โปขระ

EP.6 เมื่อโพคาราโอบแขนต้อนรับพวกเราด้วยภาพจำที่ไม่มีวันลืม | เนปาลในความทรงจำ

เมื่อวานไฟดับตั้งแต่กลับถึงที่พัก ลากยาวไปจนถึง สองทุ่มกว่า ความที่ไวไฟก็ใช้ไม่ได้ ไฟฟ้าก็ไม่มี เลยมานั่งเขียนบันทึกภายใต้แสงเทียนแทน
กำลังเขียนแซวว่าที่กาฐมาณฑุนี้ เขาขนไฟไปใช้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2070 หมดแล้ว เราคงต้องรอให้จบหลังเที่ยงคืนไฟถึงจะมา แต่ยังเขียนแซวได้ไม่เท่าไร เหมือนการไฟฟ้าจะรู้ตัว จู่ๆหลอดไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้น
ไฟมาแล้ว
เราเช็คแผนการเดินทางวันพรุ่งนี้อีกสักรอบ เพื่อความมั่นใจ หันไปมองพี่อิ๋วดูเหมือนจะนอนไปแล้ว ส่วนคุณริบบิ้นศรีก็เล่น LINE POP อย่างเมามัน
อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่นะ
นาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ตื่นมามองดูท้องฟ้ายังคงมืดสนิท แถมไม่มีไฟให้ใช้ด้วย เห้อ😌 คลำทางอาบน้ำเอาก็แล้วกัน
ก็อยากจะตื่นสายกว่านี้อยู่หรอก เพราะเมื่อวานเล่นเดินเผาผลาญพลังงานกันจนหมดเกลี้ยง เพียงแต่วันนี้เราต้องออกเดินทางไปโพคาราแล้ว ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็ควรไปให้ทันเที่ยวรถรอบที่จองเอาไว้
เล่นจองซะเช้าเลย
"ก็อยากมีเวลาไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองโพคารานี่นา"
แต่ก่อนจะเช็คเอาท์ออกจากที่พัก ก็มีเรื่องให้ได้ตื่นเต้นอีกแล้ว เพราะซัคเซสดันยังไม่มาทำงาน นั่งมองแผ่นธนบัตรที่สอดไว้ใต้กระจกหนาอยู่นาน จนเกือบใกล้เวลาออกเดินทางเขาถึงพึ่งโผล่มา เดินยิ้มทักทายเรามาแต่ไกลอย่างอารมณ์ดี
ความจริงซัคเซสคงมาทำงานตามเวลาปกติ เพียงแต่พวกเราต้องออกเช้ามากเลยแอบเคืองเล็กน้อย (แต่แจ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ 😤) พอเคลียร์ทุกอย่างเสร็จเราก็กระโดดขึ้นแท็กซี่หน้าที่พักเลย ไม่เหลือเวลาให้เดินเที่ยวเล่นอีกแล้ว เราต้องรีบไปให้ทันเที่ยวรถ
มันเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ที่ได้นั่งรถแท็กซี่ชมเมืองกาฐมาณฑุในช่วงเวลาเร่งรีบ รถคันเล็กๆวิ่งไปเลาะตามตรอกซอกซอยที่แคบพอกัน ถ้านึกภาพไม่ออกให้ย้อนกลับไปดูใน Ep.4 นะ
อ่านตอนทั้งหมดในซีรีย์เนปาลในความทรงจำได้ที่นี่น้า
เวลาที่รถสองคันขับสวนกันพวกเขาดูไม่มีทีท่าว่าจะเบรค เราเลยคิดว่าค่าทำสีรถที่นี่คงไม่น่าแพง
นอกจากขับรถฉวัดเฉวียนมากด้วยประสบการณ์แล้ว เสียงบีบแตรที่นี่ก็ดังครื้นเครงไม่แพ้กัน บางครั้งยังไม่ทันเห็นตัวรถเลย เสียงแตรก็ดังนำมาก่อนแล้ว
แอบคิดในใจว่าเขาจะลงไปต่อยกันไหมนะ
บีบแตรกันได้เกรี้ยวกราดสุดๆ
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนบนท้องถนนก็ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ คนขับแท็กซี่ก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะโกรธเวลาถูกบีบแตรใส่
บีบ(แตร)มา บีบ(แตร)กลับ
ไม่โกง
ที่อาการดูหน้าเป็นห่วงก็เห็นจะมีแค่พวกเราสามคน ที่นั่งลุ้นมองหน้ากันไปมาด้วยความไม่ชิน
แต่ถ้าจะให้พูดไปก็พอเข้าใจได้อยู่นะ ว่าทำไมเขาถึงบีบแตรกันตลอดทางขนาดนั้น เพราะเส้นทางที่รถวิ่งผ่านล้วนเป็นตรอกซอกซอย หากไม่บีบแตรเพื่อส่งสัญญาณเตือน ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเหตุชนกันอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนน
บริเวณจุดที่พวกเราขึ้นรถบัสในเมืองกาฐมาณฑุ เนปาล
แท็กซี่วิ่งมาส่งเราถึงที่หมายแต่ความบันเทิงยังไม่จบ ราคาที่บอกเราไว้ในตอนแรกมันดันขึ้นตามพระอาทิตย์ แถมเรียกเป็นดอลลาร์ซะด้วย ฝั่งเรามันก็นักสู้ ใช่จะยอมถอยเข้ามุมง่ายๆ ต่อรองกันไปมาสุดท้ายก็ยอมรับเงินสกุลเนปาล
ซื้อโดนัทคลุกน้ำตาลข้างทาง เนื้อสัมผัสเหมือนปาท่องโก๋มีรู เดินขึ้นรถบัสไปนั่งรวมกับสองคนนั้น ที่นั่งดูเหตุการณ์รออยู่บนรถก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่รอช้ารีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง ก่อนพี่อิ๋วจะพูดบางอย่างให้สะกิดใจ
ต่อรองจ่ายเป็นเงินเนปาล แต่พอคำนวณดูแล้ว
แพงกว่าดอลลาร์อีก เหอๆ
😂🤣 สงสัยจะยังเช้ามาก เครื่องคิดเลขในหัวเลยยังไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพดี
เห้อ ปวดหัว
รถบัสเคลื่อนตัวออกจากจุดจอด พาเราวนรอบตัวเมืองอีกสักหนึ่งรอบ เส้นทางในสมองเลยค่อยๆเชื่อมต่อกัน ทำให้ได้รู้ว่าเส้นทางที่พวกเราเดินลัดเลาะในเมื่อวาน มันเกาะเกี่ยวกันเป็นเครือข่ายแบบไหน
ถ่ายรูปเล่นรอรถออก ไอ้บิ้น(เอ๊ย!)คุณริบบิ้นศรีได้นั่งติดหน้าต่าง ฝากถ่ายรูปด้วยนะ
ปวดหัวกะแท็กซี่
พี่อิ๋วหลับรอรถออกไปหลายตลบ
นั่งหลับๆตื่นๆจนจะถึงจุดพักรถจุดแรก กะว่าจะเข้าห้องน้ำเสียหน่อย เดินไปเห็นสภาพห้องน้ำที่ขึงด้วยผ้าใบสีดำ และกลิ่นสุดสะพรึงทะลุผนังกั้นออกมา
เราถึงกับต้องเปลี่ยนใจหมุนตัวกลับแบบ 360 องศา ก่อนปลอบตัวเองว่าป้ายหน้ายังไหว 😆
บรรยากาศระหว่างทางที่รถบัสวิ่งผ่านในช่วงแรก
ร้านค้าตามเมืองต่างๆ ที่พวกเรานั่งรถบัสผ่าน
ชาวเมืองซักผ้าในคลองริมถนนที่รถบัสผ่าน
และแล้วรถบัสก็แวะจอดจุดพักรถถัดไปในช่วงเวลาเกือบเที่ยง รอบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ เป็นตายยังไงก็ต้องหาห้องน้ำเข้าให้ได้
เห็นรถบัสคันอื่นเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบกันอยู่หลายคัน ห้องน้ำของที่นี่ก็เลยมีอยู่หลายห้อง เพียงแต่คิวยาวมาก
รถบัสมาจอดเทียบกันที่จุดพักรถระหว่างทาง (คันข้างในออกยังไงนั่น)
ให้นึกถึงที่พักชั่วคราวที่สร้างด้วยสังกะสีในไซต์ก่อสร้าง ประตูห้องน้ำทำจากผ้าใบสีดำ ที่ถ้าลมแรงหน่อยก็อาจจะปิดไม่อยู่
ขณะที่นักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติยืนรอต่อกันเป็นแถวเดียว หญิงสาวเจ้าถิ่นโผล่มาจากไหนไม่รู้ เธอเดินตรงไปยังห้องน้ำที่พึ่งมีคนออกมาทันที
ด้วยแรงกดดันจากกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ที่อัดอั้นมาตลอดการเดินทาง ทำให้ทุกคนในแถวตะโกนออกมาห้ามแทบจะพร้อมกัน ทำเอาหญิงผู้นั้นหน้าเหวอไปสักพักใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเดินถอยออกมาไปต่อที่ท้ายแถว
เราได้เข้าห้องน้ำต่อจากหญิงชาวเอเชียผมดำ ผิวขาวสะอาดสะอ้าน แต่พอได้เข้าไปถึงกับตกตะลึง เพราะก้อนอารยธรรมของเธอนอนขดสงบนิ่งอยู่ในคอห่าน
อีกนิดเดียวมันก็จะลงไปรวมอยู่ในบ่อเกรอะกับเพื่อนๆข้างล่างแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ส่งพวกมันให้เรียบร้อยด้วยการราดน้ำ หรือเธอต้องการประกาศศักดากับคนที่เข้าห้องน้ำตามทีหลัง ให้ได้ประจักษ์ชัดว่าอารยธรรมของเธอนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
เล่ามากก็ไม่ดี เดี๋ยวพาลไม่เจริญอาหาร ไปหาอะไรกินดีกว่านี่ก็เที่ยงแล้ว
รถบัสวิ่งไปตามไหล่เขา
เห็นถนนอยู่ไกลๆ
มองกลับลงไปยังเส้นทางที่วิ่งผ่านมา โห สูงมาก!
เหมือนตรงนั้นจะมีดินถล่มนะ
แท่งหินขนาดใหญ่กั้นริมขอบถนนกันตก
รถบรรทุกคันใหญ่กำลังวิ่งสวนขึ้นมา
พวกที่ไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนหนึ่งก็เดินไปหยิบถาดหลุมโลหะ ต่อแถวทานอาหารกลางวันกัน แม้ความจริงจะยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่มันมีให้ในแพ็คเกจเราเลยต้องกินเพื่อไม่ให้ขาดทุน มื้อเช้าก็กินมาแค่โดนัทคนละชิ้น หากรอให้ถึงเมืองโพคารา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน คงได้หิวกันจนเป็นลมไปเสียก่อน
รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในวัยประถม ข้าวขนาดหนึ่งทัพพีพูนถูกโปะลงบนถาดหลุมใหญ่ช่องใหญ่สุด ขณะที่พนักงานจะตักเพิ่มให้เราอีกทัพพี เราก็รีบส่ายหัวก่อนเลื่อนถาดหนีไปอีกทาง
เขาจะงงไหมนะ?
ส่ายหน้าให้แต่เลื่อนถาดหนี
ส่วนกับข้าวที่เลือกมาก็จะเป็นปลาทอดตัวยาวๆ กับแกงกะหรี่สีเหลืองข้น ใส่ถั่วลูกไก่ เคยกินถั่วลูกไก่ครั้งแรกก็ที่นี่แหละ
ขยับไปทีละก้าวจนสุดไลน์ตักอาหาร ปรากฏว่ามีคนนั่งรอเก็บเงินค่าอาหารอยู่
เอ้า
ไหนว่าค่าอาหารรวมอยู่ในค่าตั๋วแล้วไง?
แต่คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเขาไม่พูดภาษาอังกฤษ สุดท้ายก็เลยยอมจ่ายไป ก่อนถือถาดไปนั่งกินรวมกันที่โต๊ะกลม ชมบรรยากาศแม่น้ำที่อยู่ด้านข้าง มื้อนี้จุกสุด
เจอแต่เรื่องจุกๆ
เพิงขายผักผลไม้ในจุดพักรถระหว่างไปโพคารา เนปาล
แม่น้ำที่อยู่ข้างจุดพักรถระหว่างทางไปโพคารา เนปาล
แต่พอออกจากจุดพักรถนี้แล้ว รถบัสก็ยังพาพวกเราไปแวะพักอีกหนึ่งจุด ซึ่งได้มารู้ทีหลังว่า อาหารที่รวมอยู่ในตั๋วก็คือที่นี่เอง แต่ถึงตอนนั้นพวกเราก็กินกันไม่ไหวอีกแล้ว 😂
จริงแล้วพวกเราต้องมากินอาหารกันที่ร้านนี้
ดอกดาวเรืองที่ปลูกอยู่บริเวณร้านอาหาร
รถบัสพาเรามาถึงเมืองโพคาราอย่างปลอดภัย แต่แค่นั่งรถเฉยๆไม่รู้ทำไมมันถึงเหนื่อยนัก อาจเป็นเพราะเมารถและโดนแอร์เป่าหัวอยู่ตลอดเวลา พอมาถึงสถานีรถบัส ก็เลยเรียกแท็กซี่ให้พาไปส่งที่โรงแรม
แท็กซี่ประเทศนี้ก็ไม่รู้จะบันเทิงไปไหน ก่อนมาตกลงกันที่ราคา 150RS แต่พอถึงที่หมายกลับเรียกเก็บ 200RS เห้อ เหนื่อยนะ 😮‍💨 ที่ต้องเรียกวิญญาณเจ้าแม่นักสู้ลงมาประทับได้ทั้งวี่วัน แต่สุดท้ายแท็กซี่ก็ยอมตามราคาที่ตกลงกันตั้งแต่ต้น
บรรยากาศในห้องพักยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดินที่โพคารา เนปาล
ที่พักในวันนี้ถูกจองมาจากประเทศไทยผ่านเว็บไซต์ agoda ตัวตึกคล้ายหอพักนักศึกษาทั่วไป ฉาบทาผนังด้านนอกด้วยสีส้มโอรส
"From Thai"
บรรยากาศเมืองโพคาราที่มองลงมาจากที่พัก เนปาล
พนักงานต้อนรับเดาประเทศต้นทางของพวกเราได้ถูกต้อง แต่นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขารอเราอยู่นานแล้ว เลยเวลาเช็คอินมามากโข
ตรวจสอบเอกสารอะไรกันเสร็จสิ้น ผู้ชายผิวเข้มตัวเล็กใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวทับในกางเกงสแล็คสีดำ ก็ช่วยพวกเราถือกระเป๋าเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุด ระหว่างทางก็ชวนคุยไปเรื่อย แต่ชายหนุ่มดูเหมือนจะขี้อาย เลยได้ข้อมูลมาแค่ว่า
เขาชื่อ 'สมบูรณ์'
ชื่อเหมือนคนไทยเลย
เดินแค่ไม่กี่ชั้นก็พากันลิ้นห้อยเสียแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าแทรกกิ้งอีกห้าวันต่อจากนี้ สภาพพวกเราจะเป็นเช่นไร
ตกลงกันว่าวันนี้จะยังไม่ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน เลยสั่งอาหารของที่พักมากิน สามคนตกอยู่ที่ 800RS ก็ประมาณ 200 บาท อิ่มไปอีกมื้อ
นอกจากนี้ก็ให้ทางที่พักช่วยจัดทำเอกสาร TIMs ซึ่งตกคนละ 10 ดอลลาร์ และช่วยจัดหาผู้ช่วยนำทางให้อีก 1 คน เดินทางไปกับพวกเรา 5 วันตกอยู่ที่ 60 ดอลลาร์
จำได้ว่าที่พักนี้มีดาดฟ้าไว้ให้นั่งชมวิว หลังตระเตรียมเรื่องสำคัญเรียบร้อย ก็ชวนกันเดินขึ้นไปด้านบนสูดอากาศของเมืองโพคาราให้เต็มปอดเสียหน่อย
มันเป็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี เบื้องหน้าคือทะเลสาบขนาดใหญ่ที่โอบล้อมเอาไว้ด้วยภูเขาหลายลูกเรียงซ้อนกัน แสงสีทองอมชมพูฉาบทั่วท้องฟ้า สะท้อนลงมาที่ผิวน้ำส่องประกายระยิบระยับ
รู้สึกราวกับว่า
โพคารากำลังอ้าแขนต้อนรับเราอย่างอบอุ่น
บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินเหนือเมืองโพคารา เนปาล
คุณริบบิ้นศรีหัวฟูเพราะเพิ่งแซะตัวเองออกมาจากที่นอนดูด
พี่อิ๋วเองก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความสวยงามสุดประทับใจนี้ไว้เหมือนกัน
ถ่ายเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพอ เพราะมันสวยมาก
สักพักฝนตกวงแตก วิ่งหลบเข้าร่มกันจ้าละหวั่น แต่ก็ได้เห็นรุ้งกินน้ำเพิ่มเข้ามาในซีนนะ
นกพากันบินกลับรัง
ฝูงนกบินกลับรังท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน
แสงอาทิตย์สุดท้ายค่อยๆลาลับขอบฟ้า เหนือเมืองโพคารา เนปาล
นั่นจะใช่ภูเขาที่เราต้องไปเดินในวันพรุ่งนี้มั้ยนะ
นมัสเต โพคารา
อ่านตอนต่อไปได้ที่นี่เลยน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา