26 ส.ค. 2023 เวลา 02:53

EP. 3 the king never smile

ในปี 2478 สมเด็จประชาธิปก คือรัชกาลที่ 7 ผู้สูญเสียอํานาจ ได้สละตําแหน่งในราชวงศ์จักรีให้กับอานันท ผู้ซึ่งอายุได้เพียง 10 ปี และทําให้ภูมิพลอยู่ในตําแหน่งถัดต่อมา แต่ดูเหมือนว่า อานันท ไม่มีวาสนา ที่จะขึ้นครองราชย์บัลลังก์ทองแปดด้านใน กรุงเทพ
อํานาจได้หลุดไปอยู่ในมือของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้ที่นับถือ นาโปเลียน และมีรูปถ่ายลายเซ็นของมูซโซลินี่แขวนอยู่เหนือโต๊ะที่ทํางาน
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
จอมพล ป. ไม่ชอบระบบกษัตริย์และระบบเจ้าขุนมูลนาย จึงหันไปใช้แนวทางที่ทันสมัย อย่างประเทศเยอรมัน และญี่ปุ่น ซึ่งสะสมกองกําลังทหารที่มีเลือดรักชาติ
เด็กทั้งสอง ไม่เหมาะที่จะเป็นกษัตริย์ อานันทเกิดในประเทศเยอรมันนี เมื่อเจ้าฟ้ามหิดลผู้เป็นพ่อ ตายตอนเป็นหนุ่ม เด็กทั้งสองเติบโตที่เมืองลูซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จากแม่ซึ่งเป็นสามัญชนคนธรรมดาชื่อว่าสังวาล โดยกฎหมายขอบประเทศสยาม สังวาลซึ่งเป็นคนสามัญเชื้อสายจีน จึงทําให้เกิดข้อกังขาว่าเด็กทั้งสองคน มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นผู้สืบสันตติวงศ์หรือไม่
สังวาล กับลูกชาย2คน อานันทและภูมิพล
ในเมืองลูซาน อานันทและภูมิพล เล่าเรียนภาษาฝรั่งเศส ลาติน และเยอรมัน ไม่ได้ใช้ภาษาในเชิงพุทธศาสนาอย่างไทยหรือบาลี ทั้งสองชอบเดินป่า ขึ้นเขาที่มีหิมะปกคลุมบนยอด ขณะที่เด็กไทยส่วนมากวิ่งเล่นกับควายในทุ่งนา
อานันทและภูมิพล เล่นสกี
วิถีชีวิตของเด็กไทยในชนบท ในสมัยก่อน
เมื่อตอนเป็นเด็กวัยรุ่น ต่างมีจิตใจฝักใฝ่กับ สงครามโลกครั้งที่สอง ชอบรถยนต์ และเพลงจากอเมริกา
เมื่อสงครามยุติลง เด็กทั้งสองย่อมมีความเหมาะสมกับสังคมชั้นสูงในยุโรป ไม่ใช่สังคมที่เป็นพุทธศาสนาใส่ผ้าเหลือง ที่มีบ้านเรือนที่ยากจน และชื่อภูมิพลคงไม่มีโอกาสได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ในประเทศไทยเลยก็ได้
หลังจาก จอมพล ป. ล้มเลิกการปกครองประเทศจากระบบเจ้าขุนมูลนาย และหมดอํานาจลงไปในปี 2487
บรรดาผู้ที่มีเชื้อสายราชวงศ์ที่จะสืบทอดกันต่อไปเหลือน้อยนิด อํานาจและทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ถูกยึดไปจนหมดแล้ว ตําแหน่งผู้ที่จะสืบสันตติวงศ์นั้นร่อยหรอ
อย่างไรก็ตามบรรยากาศหลังสงครามโลกต้องการความสมานฉันท์ อานันทได้ถูกรับเชิญให้กลับมารับตําแหน่งกษัตริย์ไทย
ครอบครัวตระกูลมหิดล จึงเดินทางกลับมาอย่างชั่วคราวในปลายปี 2488 เด็กทั้งสองคนหวังที่จะกลับไปเรียนหนังสือต่อให้จบในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะรับหน้าที่สืบสันตติวงศ์
ก่อนการเดินทางกลับยุโรปในวันที่ 9 มิถุนายน 2489 อานันทถูกลอบปลงพระชนน์ที่เตียงนอน ด้วยกระสุนปืนนัดเดียวที่เจาะเข้าที่ศีรษะ เมืองหลวงเต็มไปด้วยข่าวลือว่าใครเป็นผู้ฆ่า มันเป็นการฆ่าตัวตาย หรือพวกหัวก้าวหน้าที่ฆ่ากันแน่ หรือแม้นกระทั่งน้องชายตัวเองเป็นผู้ฆ่า คดีนี้ยังเป็นคดีที่มีลับลมคมนัยมาจนถึงปัจจุบันนี้
แท่นพระบรรทม รัชกาลที่ 8
แต่ผลลัพธ์เป็นสิ่งที่แน่นอนว่า เพียงแค่ข้ามคืน ผู้ที่โชคดีที่สุดคือ ผู้ที่ใส่แว่นตาหนา นั้นก็คือ ภูมิพล ผู้มีอายุได้ 18 ปี กลายเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ บนแผ่นดินที่ท่านเองก็พูดภาษาไทยได้ไม่ชัด มีวัฒนธรรมที่แตกต่างผิดเพี้ยนไปจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังป่าเถื่อนและล้าหลัง
จากวันที่พี่ชายเสียชีวิต เรื่องราวของภูมิพลขึ้นครองราชย์เหมือนกับตํานานจากเทพนิยาย
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พ.ศ.2493
4 ปีที่ไปศึกษาต่อในยุโรป แล้วเดินทางกลับมาในปี 2493 ได้ทําพิธีราชาภิเษก และอภิเษกสมรส กับเจ้าหญิงสิริกิต์ ผู้ที่มีเสน่ห์ความงามเป็นที่ชื่นชมของชาวโลก มีลูกด้วยกันสี่คน เป็นชายรูปหล่อหนึ่งคน ซึ่งหวังว่าจะเป็นผู้สืบราชวงศ์ และเป็นหญิงอีกสามคน
รูปแบบสังคมสมัยใหม่ในแบบเจ้าขุนมูลนาย ได้หวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อกษัตริย์หนุ่มชอบแล่นเรือใบ เล่นดนตรีแจ็ซ มีสถานีวิทยุเป็นของตัวเอง เขียนรูปภาพสีน้ำมัน และชอบออกงานสังคมชั้นสูง
เมื่อมีโอกาส ก็จะสวมใส่ชุดลายทอง สวมมงกุฎปลายแหลม อย่างเช่นในฉากละครเรื่อง The King and I ซึ่งเรียนแบบปู่ทวด เพื่อให้เหมาะสมกับวิถีทางประเพณีทางศาสนาพุทธ
กษัตริย์หนุ่มลาออกบวช บําเพ็ญเจ ศึกษาภาษาโบราณ โดยการโกนหัว ใส่ชุดผ้าเหลือง ใส่แว่นกันแดด ดูแล้วเด่นยิ่งกว่าตัวละครในหนังสือของแจ็ค ครัวแวค เสียอีก (นักเขียนอเมริกัน ค.ศ. 1922-1969)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา