26 ก.ย. 2023 เวลา 11:15 • ท่องเที่ยว
โตเกียว

ออกไปแตะขอบฟ้าให้ราเมงที่ญี่ปุ่นเยียวยา EP7: แด่เทพเจ้าผู้ล่วงลับ

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่ต้องกลับมาวางแผนและหาทางกลับไปแก้มือกับ Muginae ให้ได้ในวันถัดมา (วันจันทร์ที่ 10 ก.ค.) จะได้ไม่พลาดซ้ำสอง ผมก็เลยเลือกที่จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 5.30 น. ครับ จะเรียกว่ากลัวจัดๆเลยก็คงไม่ผิดนัก
แล้วผมก็มาถึงหน้าร้านเวลา 7.20 น. ครับ คราวนี้ได้คิว 1 แล้ว ยังไงวันนี้ก็ได้ทานแน่ๆ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาที เชฟ Akihiro Fukaya เจ้าของร้านก็มาครับ ได้ทักทายกันไป 1 ที (ไม่แน่ใจว่าแกจะงงมั้ยว่าทำไมนักท่องเที่ยวคนนี้มันมาเร็วจัง ฮา)
ให้ฟีลคล้ายๆมาช่วยเปิดร้านครับ ฮา
ในขณะที่ยืนรอ ก็เริ่มมีชาวญี่ปุ่นมาต่อคิวทีละคนสองคนครับ จนราวๆเกือบ 9 โมงก็ได้ลงชื่อครับ
หลังจากที่ได้เขียนชื่อจองเรียบร้อย ก็มีเวลาว่างให้หาที่จุ่ม 2 ชั่วโมงครับกว่าจะถึงเวลา ผมก็เลยเลือกจะไปฝากชีวิตกับ Komeda ร้านเดียวกับเมื่อวานครับ
ข้อดีของ Komeda คือ Morning Set จะมีขนมปังกับเครื่องเคียงให้อยู่แล้วเมื่อสั่งพร้อมกาแฟครับ
หลังจากที่เติมคาเฟอีนให้ร่างกาย นั่งตากแอร์สักพักแล้ว ก็ได้เวลากลับไปที่ Muginae แล้วครับ
หน้าร้านร้อนมากจนแทบจะละลายติดฟุตบาทแล้วครับ
หลังจากที่กลับมาที่หน้าร้าน ยืนรออยู่ครู่หนึ่ง เชฟก็เรียกเข้าไปกดตู้เพื่อสั่งอาหารครับ
ซึ่ง ในการสั่งอาหารของ Muginae จะมีคู่มือภาษาอังกฤษให้ด้วยครับ ว่า แต่ละหมายเลขที่ตู้กด คือเมนูไหน ซึ่งตัวผมสั่ง Shoyu Ramen ที่เป็นเบสไก่ (หมายเลข 1) และ Special Topping จัดเต็ม (หมายเลข 6) ครับ
หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง ราเมงก็มาเสิร์ฟครับ เต็มชามมากๆ ฮา
สำหรับ Shoyu Ramen ของ Muginae จะมีความแตกต่างจากหลายๆชามที่ทานมาก่อนหน้านี้ครับ ตัว Shoyu มีความ light เบา สว่าง อร่อยแบบเบาๆ แต่อาจจะไม่ได้ถูกใจสายหนัก เส้นเล็ก เรียบ ลื่น แต่ไม่หนึบ กัดขาด สู้ฟันเล็กน้อย ส่วน Topping แต่ละอย่างอร่อยมาก ทั้งหมูชาชูแบบซูวีและรมควัน (กลิ่นรมควันหอมมาก) , วากิวชาชู, เกี๊ยว, ไข่ เรียกได้ว่าสมดีกรีที่ยกย่องกันมาจริงๆครับ
ไล่ทานทีละส่วน
ปิด job ครับ
จากที่สังเกตระหว่างทาน ร้านนี้เชฟจะรันเอง ทำเอง จัดการเองทุกอย่าง ไม่มีลูกมือใดๆทั้งสิ้นครับ (ตอนจัดการตอนเรียกคิว แกก็รันเองครับ) ซึ่งหลายๆร้านก็เป็น pattern นี้
ตอนที่ทานเสร็จแล้วกำลังจะออกจากร้าน เชฟเดินมาถามด้วยครับว่าจากประเทศไหน พอตอบไปว่ามาจากประเทศไทย เชฟก็บอกว่า เคยมาเที่ยวทะเลประเทศไทยด้วยครับ แก Friendly มากๆ
หลังจากที่เป้าหมายแรกของวันนี้จบไป ก็ได้เวลาวาร์ปไปยังร้านราเมงร้านแรกของโลกที่ได้ Michelin Star 1 ดาว “Tsuta” ครับ
จากสถานี Omori ย้อนกลับขึ้นไปที่ Shinjuku แล้วต่อ Odakyu Line มาลงที่ Yoyogi-Uehara ครับ
Tsuta เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่ในเว็บ omakase.in ครับ เพียงแต่ว่า ระดับความยากในการจองจะต่างจาก Iida Shoten ที่ต้องแย่งกันจองและหมดในไม่กี่อึดใจ (เอาเข้าจริงๆไม่ต้องจองแล้ว Walk-in ผมว่าก็ยังได้ครับ) ทำให้พอจะประเมินความ popular ในปัจจุบันได้ว่าไม่ได้มากเท่าช่วงก่อนจะย้ายร้านที่ยังมี Michelin Star อยู่ครับ แต่ด้วยดีกรีและชื่อชั้นของร้าน ก็ยังเป็นหนึ่งในร้านที่ควรจะมาลองทานอยู่ดี
หน้าร้าน 1 ห้องเล็กๆแต่ลงไปใต้ดินจะค่อนข้างกว้าง
ภาพเชฟ Yuki Onishi ผู้ล่วงลับที่ตั้งไว้หน้าร้าน พร้อมทั้งเล่มเมนูครับ (แต่ตอน Order กดจากเครื่องนะครับ) สำหรับ
สำหรับตัวที่ผมสั่งจะเป็น Shoyu Soba กับ Special Topping ซึ่งเป็น Recommended Set (3000 เยน) ครับ
ปูพื้นเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่เคยทาน Tsuta ที่ไทยนะครับ เชฟ Yuki ผู้ก่อตั้ง เป็นคนแรกๆที่เอา Truffle ลงมาใส่ในราเมงครับ ตั้งแต่สมัยที่แกได้ Michelin Star ครั้งแรกเมื่อเกือบสิบปีก่อน เป็นการเปิดโลกให้เกิดการพัฒนาและทดลองมิติใหม่ๆในวงการราเมงญี่ปุ่นเลย
ส่วนชามนี้ โครงสร้างจะเป็น Version ล่าสุดที่ถูกเชฟ Yuki พัฒนาจนนิ่งแล้ว ซึ่งจะมีองค์ประกอบเพิ่มเติมเกินจากราเมงทั่วไปคือ ซอสเห็ด Porcini เพื่อเพิ่มความเค็มและ umami, Fig Compote หรือซอสมะเดื่อ มีรสหวาน และ Balsamic Vinegar ที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้รวมถึงซุปโชยุถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถทานคู่กันได้ สามารถผสมไปมาได้และได้รสที่แตกต่างกัน
เพียงแต่ว่า สำหรับมือใหม่ ควรไล่ทดลองจากชิมซุปเปล่า แล้วค่อยลองชิมซุปที่ผสมกับซอสแต่ละตัวแยกกัน เพื่อรับรู้ถึงรสชาติหลากหลายแบบครับ อย่าคนหรือคลุกทีเดียวแบบเวลาทานก๋วยเตี๋ยวบ้านเราครับ
ความพิเศษของชามนี้ ผมรู้สึกว่าตัวซุปมันมีความลึกและหนักแน่นในความเป็น Shoyu มากกว่าทาน Tsuta ที่ไทยครับ เป็นไปได้ว่า ตัว recipe ที่ไปกับการขาย Franchise อาจจะเป็นสูตรที่นิ่งแล้วในอดีต แต่หลังจากนั้นก็มีการพัฒนารสชาติขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้น ใครที่ชื่นชอบ Shoyu Ramen แบบ Tsuta แล้วบินมา Tokyo ก็ควรแวะมาสักการะครับ
แต่! ยังไม่หมดแค่นั้นครับ ทีเด็ดของมื้อนี้ยังไม่จบ
ตอนที่ชุดนี้มาเสิร์ฟ ทางพนักงานแจ้งว่า ตัวเครื่องเคียงสามารถทานกับราเมงได้เลยครับ พอลองจิ้มแล้วทานเข้าไปก็ถึงกับอึ้งครับ ว่ามันเข้ากัน ไม่ว่าจะซอสตัวไหน หมูชิ้นไหน มันสามารถทานกับซุปได้หมดเลย เชฟ Yuki ออกแบบมาอย่างดีมากๆ
Special Dish ที่มี Topping หลายแบบ ซอสหลายรสชาติ แต่ทานกับซุปแล้วไม่ว่า combination ไหนก็อร่อยครับ
ของติดไม้ติดมือครับ เป็นโชยุปรุงพิเศษ ขวด 900 เยน
ปิดจบมื้อนี้ไปแบบฟินๆพลางเสียดายครับที่เชฟ Yuki มาด่วนจากไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นวงการราเมงของโลกน่าจะได้รู้จักกับรสชาติอะไรใหม่ๆผ่านราเมงจากแกอีกเยอะเลยครับ (โปรดติดตามใน EP ต่อไป)
โฆษณา