27 ส.ค. 2023 เวลา 04:29

EP. 5 the king never smile

ในปี 2500 - 2503 อันเป็นช่วงวิกฤตการสูงสุดของสงครามอินโดจีน ท่านได้เอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับการเมือง การพัฒนาประเทศ การยุททศาสตร์ โดยทําตัวอยู่ในหลังม่าน กษัตริย์ภูมิพลวางแผนชาติ แนวทางประชาชน จนแม้นกระทั่งทําการเลือกตัวผู้นำประเทศ ท่านได้ร่วมเป็นผู้นําการวางแผนการยุทธศาสตร์ในการต่อต้านการแทรกแซง ซึ่งได้นําไปใช้แทนกลยุทธ์อเมริกันในสงครามเวียดนาม
จนช่วงสามสิบปีของการครองราชย์ ในปี 2519 ท่านเป็นผู้ที่มีอํานาจการเมืองอย่างสูงสุดในประเทศไทย ท่ามกลางระบบประชาธิปไตยที่มีพระกษัตริย์เป็นประมุขที่มีอยู่ในโลก กษัตริย์ภูมิพลอาจเป็นกษัตริย์ผู้เดียวที่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมากที่สุด
กษัตริย์ภูมิพลได้รับความนับถือ ถึงขั้นเอาขึ้นแท่นบูชาจากประชาชนไทย ทุกคนต่างทราบกันดีว่า ท่านมีความปรีชาสามารถ และช่วยเหลือประชาชน แต่ก็คงไม่มีใครกล้าพูดถึงท่านในทางไม่ดีเป็นแน่ เพราะมีกฎหมายหมิ่นประมาทพระบรมเดชานุภาพที่ปกป้องทุกคนในราชวงศ์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากใครกล้าพูดถึงก็มีความผิดและมีสิทธิ์ติดคุกถึง 10 ปี อันเป็นสาเหตุที่ไม่ให้มีใครกล้าพูดถึงกษัตริย์ไทยและครอบครัว รวมทั้งบรรดาราชวงศ์ทั้งหลาย
หลังจากที่ได้เสวยราชย์มาได้ร่วมห้าสิบปี ประวัติและเรื่องราวของกษัตริย์ภูมิพลที่มีส่วนผลักดันประเทศชาติ ยังไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องในเรื่องราวต่างๆที่บันทึกไว้อย่างเป็นทางการ
กษัตริย์ภูมิพลได้สร้างกรณียกิจเอาไว้มาก เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบหรือขัดแย้งกันเกิดขึ้น อย่างในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ท่านได้แสดงตัวออกมา เพื่อสร้างความสมานฉันท์เป็นน้ำหนึ่งเดียวกันให้กับประเทศไทยอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ของกษัตริย์ภูมิพลที่นําเอาระบบธรรมราชากลับมาใช้ อาจจะไม่แจ่มแจ้งเท่าตัวท่านเอง หลังจากรัฐธรรมนูญปี 2475 กษัตริย์มีหน้าที่เพียงเป็นหุ่นเชิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการที่ท่านเอาตัวเข้าไปพัวพันมีบทบาทการเมือง ย่อมมีผลที่แตกร้าวระหว่างผู้คนในภายหลัง แทนทีจะสนับสนุนความก้าวหน้าทางด้านประชาธิปไตยต่างๆ ในวังกลับจํากัดขอบเขต วิถีทางการเมือง เศรษฐกิจ จะเป็นอย่างไรก็ได้แต่ต้องไม่ละเมิดขอบค่ายและผลประโยชน์ของราชวงศ์ ซึ่งกษัตริย์ได้ปลูกฝังความคิดไว้ว่าให้ชาวบ้าน เคารพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
กษัตริย์ภูมิพลได้รับการอบรมสั่งสอนจากบรรดาที่ปรึกษาองคมนตรีผู้อาวุโสต่างๆในราชวงศ์ ให้มีหน้าที่ปกป้องรักษาสถาบันกษัตริย์อย่างสุดความสามารถ และจากพื้นฐานนี้ ท่านจึงสรุปเอาไว้ว่าบรรดาสมาชิกสภาต่างทําเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ได้ทําเพื่อประชาชน ท่านตัดสินใจเอาเองว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญมีไว้เพื่อผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อราชวงศ์ และไม่ปกป้องในเนื้อหาจุดประสงค์ของท่าน
ยิ่งกว่านั้นท่านยังมีความเชื่อว่าระบบประชาธิปไตยแบบยุโรป รัฐธรรมนูญ และทุนนิยม ต่างแบ่งแยกประชาชน ซึ่งขัดต่อการปกครองแบบระบอบธรรมราชา หรืออีกทัศนหนึ่งก็คือ ประเทศไทยสมัยใหม่ควรที่จะอยู่ใต้คําบ่งการของกษัตริย์ และกฎทางศีลธรรม มีความจงรักษ์ภักดี ดังเช่นบรรดาข้าราชบริพาร ขุนพล ขุนนาง ผู้สืบเชื้อสายตระกูลของราชวงศ์ ดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
จนถึงที่สุดกษัตริย์ภูมิพลได้รวบรวมขุนพลนายทหารไว้ในวังมากมาย และพวกมันได้ทําการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความโหดเหี้ยมและการโกงกินนั้น เป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าที่สังคมจะแก้ไขได้
ตราบใดที่บรรดาทรราชขุนพลแสดงความจงรักษ์ภักดีต่อราชวงศ์มากกว่าการยึดถือในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และตราบใดที่ราชอาณาจักรไทยมีความสงบเรียบร้อย กษัตริย์ภูมิพลก็จะยังคงปล่อยให้ขุนพลเหล่านั้นกุมอํานาจกันต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา