ลมจากการท่องเที่ยวที่เคยพัดเรือใบแห่งเศรษฐกิจอาจเริ่มแผ่วลง
หลังการระบาดของโควิด 19 การกลับมาของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา Capital Economics ได้ประมาณการไว้ว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวได้ช่วยทำให้การเติบโตของ GDP ยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปีเพิ่มขึ้นราวๆ 0.3% แม้ภูมิภาคจะเจอกับปัญหาเงินเฟ้อสูง
นอกจากนี้ ประเทศส่วนใหญ่ที่ฟื้นตัวได้ดีในต้นปีนี้ ก็มักจะเป็นประเทศที่ภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนค่อนข้างเยอะใน GDP ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวอาจเริ่มแผ่วลงในช่วงครึ่งหลังของปี นี่ก็มาจากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุแรกมาจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาดแล้ว จากรายงานของ UNWTO จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกในไตรมาสแรกของปีอยู่ที่ราวๆ 80% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิด
อย่างตะวันออกกลางก็เป็นภูมิภาคแรก ที่จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดแล้วในไตรมาสแรกของปี ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในยุโรปในไตรมาสแรก อยู่ที่ 90% ของระดับในปี 2019 ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวในอเมริกาและแอฟริกาอยู่ที่ 85% การที่จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ระดับปกติในช่วงก่อนการระบาด ก็หมายความว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวในอนาคตอาจเพิ่มสูงไปมากกว่านี้ไม่ได้เยอะเท่าไร
เหตุผลที่สองคือการที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูง โดยเฉพาะในประเทศหลักทั่วโลก เริ่มทำให้คนอยากออกไปท่องเที่ยวกันน้อยลง จากแบบสำรวจล่าสุดของ European Travel Commission แม้สัดส่วนของคนยุโรปที่มีแผนจะเดินทางในช่วงเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายนปี 2566 นี้ จะยังค่อนข้างสูงที่ 69% แต่ตัวเลขนี้ก็ลดลงมา 4%
จากแบบสอบถามเมื่อปีที่แล้ว นี่เป็นเพราะความต้องการท่องเที่ยวที่อัดอั้นมาในช่วงโควิดเริ่มลดลงและปัญหาด้านการเงินจากทั้งเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูงเริ่มก่อตัวมากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายการเงินแบบตึงตัวในหลายประเทศก็ยังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งหลายคนคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะได้เห็นผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยแบบเต็มที่ในอนาคตอันใกล้นี้ นี่แปลว่าจำนวนคนที่อยากท่องเที่ยวอาจลดลงไปได้อีก
เหตุผลที่สามคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจใหญ่ๆ เช่น จีน หรือ ยุโรป อาจทำให้ความต้องการท่องเที่ยวลดลงไปเยอะ อย่างจีนก็กำลังเจอปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระดับหนี้ในภาคอสังหาฯ ที่สูง การส่งออกที่ชะลอตัว หรือการใช้จ่ายหลังเปิดประเทศที่เริ่มแผ่วลง
จากความอ่อนแอเหล่านี้ การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคของประเทศก็ได้เริ่มชะลอลงในเดือนมีนาคม แม้จะเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน
อันที่จริง ตัวเลขเศรษฐกิจจีนในช่วงนี้อ่อนแอถึงขนาดที่รัฐบาลต้องหยุดการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไปเลย ความเชื่อมั่นของคนที่ลดลง มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย ซึ่งอาจรวมถึงการท่องเที่ยวด้วย และถ้าคนจีนออกไปเที่ยวน้อยลง ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกก็คงจะได้รับผลกระทบไม่น้อย
เพราะหนึ่งในห้าของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงก่อนโควิดนั้นมาจากนักท่องเที่ยวจีน เช่นเดียวกัน ประเทศในทวีปยุโรปก็มีแนวโน้มจะเจอกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาในช่วงครึ่งหลังของปี
นี่ก็อาจทำให้คนยุโรปออกไปท่องเที่ยวกันน้อยลง และความต้องการท่องเที่ยวที่ลดลงนี้ก็จะส่งผลเสียต่อภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะนักท่องเที่ยวยุโรปมีจำนวนเยอะที่สุดที่ 703 ล้านคนในปี 2019
โดยสรุปแล้ว การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ถูกจำกัด แรงกดดันด้านการเงินที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดูอ่อนแอ ต่างก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวนั้นชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งนี่อาจช่วยลดเงินเฟ้อในภาคการบริการได้บ้าง แต่ก็คงไม่มากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ตัดสินใจหยุดขึ้นดอกเบี้ยในทันที
ผู้เขียน : บูชิตา ปิตะกาศ Economist, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Sources :
- ●
- ●
- ●
- ●
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
