Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
1 ต.ค. 2023 เวลา 13:48 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 12
หลู่จื้อเซิน สงฆ์ลงลาย (5) ไม้เท้า หรือ พลั่ว
อาวุธของหลู่จื้อเซินมี 2 ชิ้น คือ ไม้เท้า และ มีดศีล
หลังจากเมารอบแรกและได้รับการอบรมแล้ว หลู่จื้อเซินก็อยู่อย่างสำรวมไม่ก้าวออกจากวัดเลยได้ราวสี่เดือน จนย่างเข้าเดือนยี่ อากาศร้อนจัด หลู่จื้อเซินออกจากกุฏิเดินออกประตูวัดมองดูเขาอู่ไถแล้วกู่เสียหนหนึ่ง พลันแว่วเสียงติงๆ ตังๆ ดังลอยลมมาจากตีนเขา หลู่จื้อเซินกลับเข้ากุฏิคว้าเงินยัดใส่อกเสื้อ ก้าวฉับๆ ลงเขามา พอลอดซุ้มประตูเขาอันมีจารึกว่า “五台福地 อู่ ไถ แดน สุข” ก็แลเห็นตลาดที่มีขนาดราวเจ็ดร้อยหลังคาเรือน ในตลาดมีขายทั้งเนื้อทั้งผัก ยังมีร้านเหล้า ร้านบะหมี่
“ซื่อบื้อเอ๊ย ถ้ารู้ว่ามีที่แบบนี้ วันก่อนไม่ต้องแย่งเหล้าถังนั้น ลงมาหาซื้อกินเอาได้ สองสามวันนี้ก็ร้อนอบอ้าวจนแฉะไปหมด ไปดูหน่อยสิว่า มีอะไรกินบ้าง”
เสียงติงๆ ตังๆ ที่ได้ยินนั้นดังมาจากร้านตีเหล็กที่อยู่ติดกับโรงแรมบิดาและบุตร 父子客店 ในร้านมีช่างตีเหล็กอยู่สามคน หลู่จื้อเซินถามว่า
“มีเหล็กดีๆ ไหม”
ช่างตีเหล็กมองมาเห็นเคราข้างแก้มของหลู่จื้อเซินที่เพิ่งโกนใหม่ๆ มีเคราขึ้นสั้นๆ ดูลักษณะแล้วอัปลักษณ์น่ากลัว กล่าวว่า
“ท่านอาจารย์ เชิญนั่ง จะสั่งทำอะไรล่ะ”
“ส่าเจียอยากได้ไม้เท้า 禅杖 อันหนึ่ง และมีดศีล 戒刀 เล่มหนึ่ง ไม่รู้ว่าที่นี่มีเหล็กชั้นดีไหม”
“เหล็กที่ร้านผู้น้อยนี้มีแต่เหล็กชั้นดี ท่านอาจารย์อยากได้ไม้เท้า มีดพก หนักเท่าไร เชิญสั่งได้เลย”
“ส่าเจียอยากได้ไม้เท้าหนักหนึ่งร้อยชั่ง”
ข่างตีเหล็กหัวเราะ “หนักไปแล้ว ท่านอาจารย์ ผู้น้อยตีให้ได้ แต่กลัวท่านอาจารย์จะถือไม่ไหว ง้าวของท่านกวนกงยังหนักเพียงแปดสิบเอ็ดชั่ง”
“ข้าถึงจะเทียบไม่ได้กับท่านกวนกง แต่ท่านก็คนเหมือนกัน”
“ผู้น้อยว่า เอาอย่างทั่วไป สี่ห้าสิบชั่งก็หนักเต็มที่แล้ว”
“ตามที่เจ้าบอก เอาตามท่านกวนกง ตีหนักแปดสิบเอ็ดชั่ง”
“ท่านอาจารย์ หนักไปก็ดูไม่ดี ใช้ก็ไม่ได้ ผู้น้อยว่าตีไม้ขักขระ 水磨禅杖 หนักหกสิบสองชั่งให้อาจารย์ แต่ถ้าใช้ไม่ไหวก็อย่ามาโทษกัน ส่วนมีดศีลนั้น ผู้น้อยใช้เหล็กชั้นดีตีเอาไว้ขายอยู่นี่แล้ว”
“ทั้งสองอย่างนี้เป็นเงินเท่าไร”
“ไม่ต้องต่อรอง คิดเป็นห้าตำลึง”
“เอาตามนั้น ห้าตำลึง ถ้างานออกมาดี จะมีรางวัลเพิ่ม”
ไม้เท้าและมีดศีลสองชิ้นนี้จะกลายเป็นอาวุธคู่มือของหลู่จื้อเซินซึ่งใช้ตลอดไป มีประเด็นถึงลักษณะของอาวุธโดยเฉพาะไม้เท้าว่ามีรูปร่างอย่างไร
1
ไม้ขักขระ เป็นภาษาสันสกฤต มีประวัติทางมหายานว่า เวลาพระสงฆ์ออกบิณฑบาตในอินเดียนั้น ใช่ว่าชาวบ้านจะมารอตักบาตรแบบที่เราคุ้นตาในเมืองไทยจนเห็นเป็นปกติ มักจะต้องไปเคาะประตูขอบิณฑบาตอาหารซึ่งชาวบ้านมักไม่ได้มีพร้อมให้กันทุกคน พระพุทธองค์จึงให้ใช้กระพรวนติดไม้ เวลาไปถึงหน้าบ้านก็เขย่ากระพรวนเพื่อให้เจ้าบ้านรู้ตัวแทนที่จะเคาะประตู และสุดแล้วแต่ว่าบ้านหลังนั้นพร้อมที่จะให้ทานหรือไม่
นอกจากนั้น เวลาภิกษุเดินทางหรือเดินธุดงค์ เสียงกระพรวนจะเตือนสัตว์ร้ายเช่น งู แมงป่อง ซึ่งจะหนีก่อนโดยสัญชาตญาณ การฉกกัด หรือต่อย มักจะเกิดจากการเผลอไปเหยียบก่อนโดยไม่ทันระวัง และการใช้ไม้ยาวยังอาจใช้ป้องกันตัวจากสัตว์ที่ตัวใหญ่ขึ้นได้
ไม้ขักขระนี้ พอมาถึงเมืองจีนก็กลายมาเป็นของจำเป็นสำหรับภิกษุสงฆ์คู่กันกับบาตร ที่หัวไม้เท้าทำเป็นซี่แขวนห่วงทำให้เกิดเสียง จีนถอดคำจากภาษาสันสกฤตว่า 隙弃罗 ซีชี่หลอ ก็ไม่รู้ว่าไปใกล้กับ ขักขระได้อย่างไร คำยาวๆ นี้ ชาวจีนจะกร่อนคำเหลือแต่ 隙 ซี ที่ไม่มีความหมายมาเรียกเป็น ไม้เท้าซี 锡杖 (ซีจ้าง) ใช้อักษรซี 锡 ที่แปลว่า ดีบุก จะเป็นด้วยเหตุที่ไม้เท้านี้เดิมทำด้วยดีบุก หรือ พอเรียกกันว่า ดีบุก จึงหันมาใช้ดีบุกทำก็แล้วแต่
ไม้เท้าฌาน 禅杖 ฉานจ้าง 禅 คือ ฌาน หรือ เซน เป็นไม้ที่อาจารย์เอาไว้เคาะหัวหรือตีลูกศิษย์สะกิดให้ตื่นเวลาสัปหงกระหว่างเข้าฌานหรือนั่งสมาธิ ไม้นี้มีขนาดเล็กและสั้น แต่บางทีก็ใช้ไม้ขักขระเขย่าห่วงให้เกิดเสียงเตือนแทนได้ นานเข้าคำว่าไม้เท้าฌานก็เรียกกลืนเป็นความหมายเดียวกับไม้เท้าดีบุก หรือไม้ขักขระไป
รูปร่างลักษณะของไม้ขักขระนี้ ก็ให้นึกถึงไม้เท้าที่พระถังซำจั๋งในเรื่องไซอิ๋วใช้ หรือไม้เท้าที่พวกหลวงจีนเส้าหลินในนิยายกำลังภายในใช้เป็นอาวุธ จำนวนห่วง 4, 6, 12 ก็แล้วแต่จะตีความตามคติธรรม เช่น 4 ห่วง หมายถึงอริยสัจ 4 ส่วน 6 ห่วง หมายถึง ปรมิตา 6 เป็นต้น
ทว่า ไม้เท้าของหลู่จื้อเซิน ในภาพยนตร์หรือภาพวาดประกอบ มักเห็นหัวไม้เท้าเป็นรูปร่างคล้ายใบขวานหงายด้านคมขึ้นด้านบน เป็นอาวุธชนิดหนึ่งเรียกว่า พลั่วอเนกประสงค์ 方便铲
พลั่วอเนกประสงค์ 方便铲 นี้ นักพรตเต๋าอ้างว่าตนเป็นต้นคิด หลวงจีนพุทธก็อ้างว่าตนเป็นต้นคิด แต่ใครจะคิดก็ตาม หน้าที่หลักก็ใช้ตามชื่อเรียกนั้น
นักบวชในเมืองจีนนั้นแต่เดิมคงรอแต่บิณฑบาตขออาหารได้ไม่พอกิน จึงต้องทำไร่ทำสวนเองด้วย ใบพลั่วจึงออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งเป็นพลั่ว จอบ ขวาน ใช้ได้ทั้ง ตัก ขุด เจาะ ผ่า ปลายไม้เท้าอีกด้านอาจทำปลายให้เรียวลง ใช้ แทง คว้าน เจาะ ได้อีก ต่อมาก็พัฒนามาเป็นใบมีดโค้งเดือนเสี้ยวใช้เกี่ยวได้คล้ายเคียว เรียกชื่อใหม่ว่า พลั่วอเนกประสงค์สุริยันจันทรา 日月方便铲 หรือ พลั่วสุริยันจันทรา 日月铲
1
ไม้เท้าของหลู่จื้อเซินควรเป็น ไม้ขักขระ ไม่ใช่พลั่วสุริยันจันทราด้วยเหตุผลว่า
1. ง่ายๆ เลยคือ ชื่อเรียกว่า ไม้เท้า 禅杖 ไม่ใช่พลั่ว 铲
2. ตลอดเรื่องนั้นหลู่จื้อเซินใช้อาวุธนี้สำหรับ หวด ฟาด ตี กระทุ้ง ไม่เคยมีการบรรยายใช้ ฟัน สับ ผ่า แทง เกี่ยว เลย ซือไน่อันเป็นผู้เขียนที่ให้รายละเอียดมาก เมื่อไม่เคยกล่าวถึง แสดงว่าอาวุธนี้ใช้งานในลักษณะพลั่วอเนกประสงค์ไม่ได้
3. ด้วยเหตุผลเดียวกันเรื่องรายละเอียด ซือไน่อันจะบรรยายลักษณะอาวุธของแต่ละตัวละคร สำหรับหลู่จื้อเซินนั้นไม่มีการบรรยายลักษณะพิเศษ ในฉากที่สั่งตีอาวุธนั้น ก็ไม่ได้บอกให้ตีอาวุธอันมีลักษณะพิเศษ เพียงสั่งตีไม้เท้า 禅杖 ซึ่งช่างตีเหล็กเข้าใจได้ว่าเป็นไม้ขักขระที่หลวงจีนใช้กันทั่วไปจึงไม่ต้องบรรยายพิเศษ
แล้วเหตุใดจึงนิยมเขียนภาพหรือให้หลู่จื้อเซินถือพลั่วในละคร
ข้อผิดพลาดนี้ย้อนกลับไปไกลมากถึงสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อมีการตีพิมพ์หนังสือเรื่องสุยหู่จ้วน ในหนังสือมีภาพประกอบวาดโดย หยางติ้งเจี้ยน 杨定见 วาดภาพหลู่จื้อเซินใช้พลั่วอเนกประสงค์เป็นอาวุธ จึงเกิดการลอกต่อกันมาโดยตลอด แม้มีผู้วาดภาพภายหลังบางคนเปลี่ยนเป็นภาพไม้ขักขระบ้างแล้ว แต่กลับไม่ได้รับความนิยม โดยไม่มีการสอบทานรายละเอียดกับหนังสือต้นฉบับ
1
อาวุธอีกชิ้นหนึ่งของหลู่จื้อเซิน คือ มีดพกพระ 戒刀 หรือ มีดศีล คำว่า 戒 คือ ศีลหรือข้อห้าม
1
มีดพกพระ หรือมีดศีล 戒刀 มีลักษณะเป็นมีด หรือ มีดโกน ไม่ได้จำกัดขนาด หรือ ความยาว มีบัญญัติให้ใช้ โกน ปอกผ่าผลไม้ หั่นผัก ตัดหนัง ตัดเส้นด้าย ฯลฯ ได้ แต่ห้ามใช้ทำ ปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มีดศีลของหลู่จื้อเซินนี้มีกล่าวถึงในบทอื่นว่ามีความยาวถึง 3 ฉื่อ หรือ ร่วม 1 เมตร
สรุป มีดศีล คือ มีดมีคมทั่วไป แต่ห้ามนำไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
แต่ดูเหมือนหลู่จื้อเซินจะมุ่งใช้งานตามข้อห้ามเป็นหลัก ใช้งานอื่นเป็นรอง ยิ่งเป็นตัวละคร อู่ซง ยิ่งแล้วใหญ่ ใช้มีดศีลคู่เป็นอาวุธ นักบวชที่พกมีดศีลเป็นเรื่องปกติ แม้จะหน้าตาดุร้ายแบบหลู่จื้อเซิน แต่หากพกเป็นคู่แบบอู่ซง คงดูไม่เป็นปกติ
ตอนก่อนหน้า : โทษของสุรา
https://www.blockdit.com/posts/651824946ec21bf108c480ec
ตอนถัดไป : เมาสุราป่วนเขาอู่ไถ
https://www.blockdit.com/posts/651ac9b4ed72b0649a4193e5
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย