2 ต.ค. 2023 เวลา 03:59 • นิยาย เรื่องสั้น

ตอน ร่วมงานพิธีฝังศพ

เมอร์คิวเรียสจ้องมองสายฝนที่เทโปรยปราย ฟังเสียงฝนสาดกระทบหน้าต่างเสียวดังแปะๆ ท้องฟ้าที่ยังคงมืดคลึ้มแม้เป็นเวลาเช้า ประหนึ่งว่าสวรรค์ร่วมไว้อาลัยให้กับเกอร์ทรูย์ด ซึ่งวันนี้จะเป็นวันจัดพิธีฝังศพให้กับเธอ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับประตูที่ถูกเปิดเข้ามา
"อาจารย์คะ หนูนำน้ำมาให้อาจารย์สำหรับโกนหนวดโกนเคราค่ะ" ลูซี่พูดพร้อมกับเดินเข้า เธอนำอ่างน้ำไปวางไว้บนโต๊ะ
"อาจารย์คะ คุณแคลส์แวะมาที่โรงแรม ท่าทางเร่งรีบ เขาได้ฝากข้อความไว้ให้อาจารย์ค่ะ" ลูซี่พูดจบก็ยื่นแผ่นกระดาษแผ่นเล็กๆให้กับเมอร์คิวเรียส
"ขอบใจหนูมากนะ" เมอร์คิวเรียสหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ในกระดาษเขียนว่า
'อาจารย์ครับ ผมมีข่าวดีแจ้งครับ ท่านนายกเทศมนตรีเห็นด้วยกับข้อเสนอของอาจารย์ ท่านจึงได้จัดรถม้าออกไปรับเหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยากมาร่วมงานฝังศพเกอร์ทรูย์ด ผมขอขอบคุณอาจารย์ด้วยครับ แล้วเจอกันที่งานครับ'
3
เมอร์คิวเรียสอ่านจบพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข
.
.
.
เมื่อเมอร์คิวเรียสมาถึงโบสถ์นิวเคิร์ก จึงได้ทราบอีกว่าท่านนายกเทศมนตรีได้แสดงน้ำใจด้วยการเอารถม้าส่วนตัวไปรับครอบครัวลีเวนส์มาที่โบสถ์ จัดหาที่นั่งให้เป็นส่วนตัว และทางเทศบาลรับเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีฝังศพให้แก่เกอร์ทรูย์ดจนครอบครัวลีเวนส์แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
แจนเน็ตจ์ได้พูดกับเมอร์คิวเรียสว่า
"ฉันและสามีมั่นใจในตัวอาจารย์มากว่าอาจารย์จะหาตัวคนร้ายที่ทำให้ลูกของเราเสียชีวิตแล้วนำมันมาลงโทษจนได้ค่ะ"
คำพูดนี้ทำเอาเมอร์คิวเรียสรู้สึกละอายใจที่ยังทำงานนี้ไม่สำเร็จ
"ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้จงได้ครับ"
"พระผู้เป็นเจ้าอยู่ข้างเรา พระองค์จะนำทางให้อาจารย์ทำงานนี้สำเร็จครับ" ลีเวนส์พ่อของเกอร์ทรูย์ดกล่าว
.
.
.
เมอร์คิวเรียสเดินไปหาแคลส์ซึ่งตอนนี้อยู่ในโบสถ์กำลังยุ่งอยู่กับการจัดการความเรียบร้อยของงานพิธี
"แคลส์ เย็นนี้คุณจัดให้ผมต้องพบกับใครหรือครับ?"
"อ๋อ! ผมนัดให้อาจารย์ทานมื้อเย็นกับคุณแวนรุจเวนครับ ส่วนวันพรุ่งนี้ผมนัดให้อาจารย์ทานมื้อเย็นกับคุณแวนลิวเวนฮอคครับ"
พอเมอร์คิวเรียสได้ยินชื่อแวนรุจเวน ภาพแวนรุจเวนกำลังดุด่าสาวใช้ก็ปรากฏขึ้นมาทันที เขาไม่มั่นใจเลยว่าการพูดคุยกับรุจเวนเย็นนี้จะราบรื่น
ผู้เฒ่าแจน ปีเตอร์ซุนและภรรยาเกินเข้ามาหาเมอร์คิวเรียส
"ผมและภรรยาต้องขอขอบคุณอาจารย์มากครัยที่ได้จัดรถม้ามารับพวกเรามาร่วมงาน"
"อันที่จริงคุณแจนต้องขอบคุณท่านนายกเทศมนตรีถึงจะถูกครับ"
"แต่ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์เป็นผู้เสนอความเห็น พวกเราคงไม่สามารถมาร่วมงานวันนี้ได้ครับ"
2
เมอร์คิวเรียสร่วมพิธีฝังเกอร์ทรูย์ดจนเสร็จพิธี จากนั้นเขาตั้งใจจะไปคุยกับศาสนาจารย์แต่พอเห็นท่านยุ่งอยู่กับการส่งแขกที่มาร่วมงาน เมอร์คิวเรียสจึงหันไปพูดคุยกับเจ่าหน้าที่ผู้ดูแลโบสถ์แถวนั้นแทน เขามีชื่อว่าจาคอบ อายุราวสี่สิบ มีช่วงไหล่กว้างกว่าคนทั่วไป ท่าทางดูเงียบขรึม กำลังกวาดพื้นอยู่ใกล้เมอร์คิวเรียสพอดี
หลังจากที่เมอร์คิวเรียสได้แนะนำตัวและทำความรู้จักกับจาคอบจนเริ่มคุ้นเคยกันพอสมควร เมอร์คิวเรียสจึงเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากจาคอบ
2
"คุณจาคอบครับ ผมอยากจะขอดูบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้าพิธีบัพคิศมาได้หรือไม่ครับ?"
"ได้สิครับ ในเมื่อท่านมาช่วยเหลือพวกเราชาวเมืองเดลฟท์ ผมเชื่อว่าศาสนาจารย์จะไม่ขัดข้องแน่นอน ผมจะพาท่านไปดูเชิญตามผมมาทางนี้ได้เลยครับ"
จาคอบพาเมอร์คิวเรียสเดินไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของตึกจนมาหยุดอยู่หน้าห้องเล็กๆห้องหนึ่ง จาคอบหยิบกุญแจที่ห้อยอยู่ที่เอวออกมาไขประตูห้อง
"คุณจาคอบครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากดูข้อมูลย้อนหลังไปแปดปีครับ"
จาคอบพยักหน้าตอบ จากนั้นเอื้อมแขนหยิบสมุดทะเบียนออกมาเล่มหนึ่งหน้าปกบอกช่วงเวลาของข้อมูลสิ้นสุดปี1662 เอามาวางบนโต๊ะ
เมอร์คิวเรียสหวังว่าจะมีขื่อของเด็กสาวทั้งสามคนอยู่ในสมุดทะเบียน อันที่จริงสำหรับแมกดาเลนา คุจเปอร์นั้นไม่น่าจะมีชื่อเธออยู่ในสมุดทะเบียนเพราะเธอเป็นเด็กไม่มีพ่อจึงถูกกีดกันจากเหล่าคริสตจักร แต่เมอร์คิวเรียสก็ยังหวังอยู่ลึกๆว่าท่านอาจไม่กีดกันเธอต่อการเข้าพิธีบัพติศมาก็ได้เพราะเขาได้ยินมาว่าศาสนาจารย์ท่านนี้เป็นผู้มีจิตใจเมตตา
แล้วก็เป็นจริงดั่งที่เขาคิด ปรากฏว่าเมอร์คิวเรียสเจอชื่อเธอเป็นชื่อแรก โดยมีการระบุว่าเธอเป็นลูกสาวของลิส คุจเปอร์ ซึ่งไม่มีพ่อ อาศัยอยู่ย่านอูสปอร์ต จากนั้นเมอร์คิวเรียสก็ค้นเจอรายชื่อของเกอร์ทรูย์ดและแอนนา
เมอร์คิวเรียสจดวันเดือนปีที่เด็กสาวทั้งสามได้เข้าพิธีบัพติศมาเผื่อว่ามันจะบอกเบาะแสอะไรบางอย่างที่จะนำไปสู่การค้นหาผู้ร้าย
จบตอนที่ 41
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากติดตามเพจ สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
และคอมเมนต์ด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
1
โฆษณา