Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
3 ต.ค. 2023 เวลา 13:51 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 14
หลู่จื้อเซิน สงฆ์ลงลาย (7) เขยบ้านดอกท้อ
禅林辞去入禅林,知己相逢义断金。
且把威风惊贼胆,漫将妙理悦禅心。
绰名久唤花和尚,道号亲名鲁智深。
俗愿了时终证果,眼前争奈没知音。
อำลาดงฌานมุ่งสู่ดงฌาน
รู้ตนจึงพานพบธรรมล้ำค่า
เป็นที่คร้ามเกรงในหมู่โจรา
ไม่ไหว้สาแต่ใจมีธรรมเบิกบาน
ฉายาเรียกนานมาสงฆ์ลงลาย
ฉายาธรรมหมายหลู่จื้อเซินขาน
ผลที่สุดสัมฤทธิ์ปณิธาน
เบื้องหน้าร่านรนไยไร้อัตตา
(ดงฌาน 禅林 คือ วัด)
หลู่จื้อเซินอำลาเขาอู่ไถแล้วลงมาพักที่โรงแรมตีนเขาอยู่อีกหลายวันเพื่อรออาวุธที่สั่งตีเอาไว้ เมื่อได้อาวุธแล้วจึงออกเดินทางมุ่งสู่ตงจิงเมืองหลวง ระหว่างทางก็พักตามโรงแรมไม่ได้ไปอาศัยวัดเช่นพระทั่วไป
เดินทางมาแล้วกว่าครึ่งเดือน วันหนึ่งเดินเพลินไปสักหน่อยเลยเมืองที่มีที่พักมาไกล ฟ้าจวนค่ำยังหาที่พักไม่ได้ เดินตามท้องนามาได้ยี่สิบกว่าลี้ ข้ามสะพานมาก็เห็นแสงไฟแถบหนึ่งพาดอยู่เหนือคฤหาสน์ชนบท ด้านหลังล้วนทิวเขาสลับซับซ้อน หลู่จื้อเซินมุ่งตรงไปเพื่อขออาศัยค้างคืน เห็นชาวบ้านสิบกว่าคนกำลังย้ายข้าวของกันวุ่นวาย
1
เมื่อหลู่จื้อเซินเอ่ยถามขอเข้าพัก ลูกบ้านคนหนึ่งก็บอกว่า
“คืนนี้ที่บ้านจะจัดงาน คงให้พักไม่ได้”
หลู่จื้อเซินว่า “อนุโลมให้ที่พักแก่ส่าเจียแค่คืนเดียว พรุ่งนี้ก็เดินทางต่อแล้ว”
“หลวงพี่รีบไปเถิด พักอยู่ที่นี่เท่ากับรนหาที่”
“แปลกจริง พักแค่คืนเดียว รนหาที่อย่างไรกัน”
“จะไปก็รีบไป ถ้าไม่ไป คงต้องจับมัดไว้”
หลู่จื้อเซินจึงโมโหขึ้นมา “ไอ้บ้านนอกนี่ ไม่มีเหตุผล ไม่ทันไรจะจับส่าเจียมัด”
แล้วก็เกิดการทุ่มเถียงกันขึ้น หลู่จื้อเซินเตรียมจะเอาไม้เท้าตี ก็มีชายชราอายุราวหกสิบเศษถือไม้เท้ารีบออกมาจากในบ้านตวาดใส่ลูกบ้านว่า “พวกเจ้าเอะอะอะไรกัน”
“หลวงพี่นี่จะตีพวกข้า”
หลู่จื้อเซินจึงว่า “อาตมาเป็นพระมาจากเขาอู่ไถกำลังจะไปทำธุระที่ตงจิง วันนี้ยังหาที่พักไม่ได้ จึงมารบกวนขอพักสักคืนหนึ่ง ลูกบ้านท่านเสียมารยาท จะจับส่าเจียมัด”
ชายชราว่า “เมื่อเป็นพระสงฆ์จากเขาอู่ไถ เชิญตามข้าเข้าในบ้านก่อน”
เมื่อนั่งลงเรียบร้อย ชายชราก็ว่า “ท่านอาจารย์ ต้องขออภัยด้วย พวกลูกบ้านไม่รู้จักพุทธะมีชีวิตอย่างท่าน ผู้เฒ่าเองนั้นเลื่อมใสในพระรัตนตรัย แม้คืนนี้ที่บ้านมีงาน แต่ก็จะจัดที่พักให้ท่านอาจารย์สักคืนก็แล้วกัน”
หลู่จื้อเซินพิงไม้เท้าแล้วก็ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณว่า “ขอบคุณประสก อาตมารบกวนขอถามชื่อสกุลของท่าน
1
“ผู้เฒ่าแซ่หลิว ที่นี่เรียกว่า หมู่บ้านเถาฮวา หรือหมู่บ้านดอกท้อ ชาวบ้านจึงเรียกผู้เฒ่าว่า หลิวไท่กงบ้านดอกท้อ 桃花庄刘太公
รบกวนถามชื่อสกุลฆราวาสของท่านอาจารย์มีว่าไร”
“อาจารย์ของอาตมาคือท่านเจ้าอาวาสจื้อเจินเป็นผู้ตั้งฉายาให้ ส่าเจียแซ่หลู่ จึงเรียกว่า หลู่จื้อเซิน”
ไท่กงว่า “อาจารย์ เชิญทานอาหารค่ำด้วยกัน ไม่ทราบว่าท่านรับประทานอาหารคาวได้หรือไม่”
“ส่าเจียไม่ติดข้อห้ามเรื่องอาหารคาว แม้แต่เหล้าขาวก็ดื่ม ไม่เลือกว่าเป็นเนื้อโคเนื้อสุนัข มีอะไรก็กินได้”
อาหารค่ำประกอบด้วยเนื้อหนึ่งจาน ผักสามสี่อย่าง เหล้าหนึ่งกา เนื้อและเหล้าหมดไปอย่างรวดเร็ว หลังอาหารไท่กงจึงให้จัดแจงห้องที่นอกตัวบ้านสำหรับหลู่จื้อเซินและกำชับว่า
“คืนนี้ข้างนอกคงจะครึกครื้น แต่อย่างไรก็อย่าได้ออกมาดู”
“ขอถามว่า ที่บ้านท่านมีงานอะไรหรือ”
“คืนนี้ ลูกสาวจะออกเรือนจึงได้วุ่นวายกัน”
หลู่จื้อเซินหัวเราะร่วนกล่าวว่า “หนุ่มสาวเติบใหญ่ย่อมต้องแต่งงาน นี่นับเป็นเรื่องมงคล เกรงวุ่นวายไปไย”
ไท่กงว่า “อาจารย์ท่านไม่รู้อะไร เรื่องมงคลครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องสมัครใจ”
หลู่จื้อเซินกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “ไท่กงท่านคงตลก ถ้าไม่เต็มใจ แล้วเอามาเป็นลูกเขยได้อย่างไร”
ไท่กงว่า “ผู้เฒ่ามีลูกสาวคนเดียว ตอนนี้อายุสิบเก้า ละแวกนี้มีเขาชื่อ เขาดอกท้อ 桃花山 (เถาฮวาซาน) ไม่นานมานี้มีนายโจรสองคนมาตั้งส้องโจรมีลูกน้องอยู่ราวเจ็ดร้อยคน เที่ยวปล้นเรือนชิงทรัพย์ ทางการชิงโจว 青州 ก็ทำอะไรไม่ได้ พอมาเรียกค่าคุ้มครองที่หมู่บ้าน เห็นลูกสาวของผู้เฒ่าเข้าก็วางสินสอดเป็นทองคำยี่สิบตำลึง แพรแดงหนึ่งพับ เลือกคืนนี้เป็นฤกษ์ดี ค่ำนี้จะมาแต่งเข้าบ้าน 入赘 จะไปสู้รบตบมือกับเขาก็ไม่ได้ แล้วแต่เขา จึงวุ่นวายกัน ไม่ได้เกี่ยงเฉพาะอาจารย์ท่านแต่ผู้เดียวหรอก”
หลู่จื้อเซินว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ อาตมามีวิธีชี้แจงแสดงเหตุผลให้เขาเปลี่ยนใจไม่แต่งกับบุตรสาวท่านได้ ท่านว่าดีไหม”
“พวกนี้เป็นโจรฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา ท่านจะไปเปลี่ยนใจเขาได้อย่างไร”
“ส่าเจียศึกษากับท่านเจ้าอาวาสจื้อเจินบนเขาอู่ไถ เรียนรู้วิธีใช้เหตุใช้ผลเกลี้ยกล่อมผู้คนแม้แกร่งดังหินดังเหล็กให้โอนอ่อนผ่อนตามได้ ค่ำนี้ท่านให้บุตรสาวไปซ่อนตัวเสียที่อื่น ให้ข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาในห้องลูกสาวท่าน เขาคงเปลี่ยนใจได้”
ไท่กงว่า “ดีนั้นดีอยู่ แต่อย่าไปกระตุกหนวดเสือเข้า”
“ส่าเจียไม่เอาชีวิตเขาหรอก ทำตามที่บอกก็พอ”
“ดีจริง บ้านเราโชคดี ได้พุทธะมีชีวิตมาโปรด”
ไท่กงถามว่า “ยังอยากกินข้าวอีกไหม”
หลู่จื้อเซินว่า “ข้าวคงไม่ต้อง มีเหล้าก็ขอดื่มต่ออีกหน่อย”
“มี มี” ไท่กงให้คนนำห่านมาตัวหนึ่ง เหล้าอีกชามใหญ่ แล้วจื้อเซินก็ดื่มไปอีกยี่สิบกว่าชาม หมดห่านตัวนั้นไป จากนั้นก็ลุกขึ้นถามว่า
“ไท่กง ท่านให้บุตรสาวหลบไปที่อื่นหรือยัง”
“ผู้เฒ่าให้ลูกสาวไปหลบอยู่กับเพื่อนบ้านข้างๆ แล้ว”
“พาส่าเจียไปห้องเจ้าสาวที”
หลู่จื้อเซินย้ายโต๊ะเก้าอี้หลบเข้าที่ เอามีดศีลวางบนหัวเตียง ไม้เท้าไว้ข้างเตียง ปลดผ้าม่านดิ้นทองลง ถอดเสื้อผ้าออกจนล่อนจ้อนแล้วโดดขึ้นเตียง
ไท่กงเห็นฟ้ามืดแล้วจึงให้จุดตะเกียงจนสว่างไสว ตั้งโต๊ะกลางลานนวดข้าว จัดวางดอกไม้ เทียน ตะเกียง เนื้อจานโต เหล้าอุ่นกาใหญ่
雾锁青山影里,滚出一伙没头神;
烟迷绿树林边,摆着几行争食鬼。
人人凶恶,个个狰狞。
头巾都戴茜根红,衲袄尽披枫叶赤。
缨枪对对,围遮定吃人心肝的小魔王;
梢棒双双,簇捧着不养爹娘的真太岁。
夜间罗刹去迎亲,山上大虫来下马。
หมอกจางจางแลเห็นใต้เงื้อมเขา
กลุ่มเทพไร้เงาหัวพลันปรากฏ
หมอกอ้อยอิ่งกลางพนาทางเลี้ยวลด
ผีอดอยากเป็นแถวแถวดารดาษ
แต่ละตัวแต่ละตนล้วนดุร้าย
แต่ละนายแต่ละคนพิกลประหลาด
ผ้าโพกหัวย้อมแต่งสีแดงชาด
ใบเฟิงแดงพาดเหนือเสื้อคลุมทับ
เป็นคู่คู่ทวนพลองสลอนชู
ล้อมมารน้อยอกตัญญูชอบกินตับ
รากษสแห่แหนออกต้อนรับ
พยัคฆ์ร้ายควบขับลงเขามา
เวลาราวยามหนึ่ง มีเสียงฆ้องกลองมาจากข้างภูเขา แสงคบเพลิงราวห้าสิบคบเห็นแต่ไกลจนใกล้เข้ามาสว่างจ้าดุจกลางวัน เหล่าลิ่วล้อแต่ละคนแต่งกายด้วยชุดแดง โพกผ้าแดงมีดอกไม้ป่าแซมผม ทวนกระบองที่ถือมาผูกผ้าเขียวๆ แดงๆ ปลายอาวุธสะท้อนแสงคบแวววับ ด้านหน้ามีคนชูโคมแดงห้าคู่ ส่องแสงจับตัวนายโจรโพกผ้าแดงสวมหมวกแดง มีดอกไม้ทัดหู สวมเสื้อใยไหมสีเขียวปักทอง คาดเข็มขัดไถ้ดิ้นทอง ขี่ม้าขาว
2
พอใกล้เข้ามา ตัวนายโจรลงจากม้า เหล่าลิ่วล้อโห่ร้อง
“帽儿光光,今夜做个新郎;
衣衫窄窄,今夜做个娇客。”
มาลาโชติช่วง ราตรีนี้มาเป็นเจ้าบ่าว
อาภรณ์รัดรูป ราตรีนี้มาเป็นอาคันตุกะ
หลิวไท่กงลนลานนำลูกบ้านคุกเข่าคำนับ นายโจรรีบเข้ามาพยุงแล้วว่า
“ท่านเป็นพ่อตาข้า จะคุกเข่าทำไม”
ไท่กงว่า “อย่ากล่าวเช่นนั้น ผู้เฒ่าเป็นเพียงคนในความคุ้มครองของท่านอ๋องใหญ่”
1
ท่านอ๋องใหญ่เมาได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว หัวเราะร่วนกล่าวว่า “ข้าจะมาเป็นเขยบ้านท่านอยู่แล้ว ไม่รังแกท่านหรอก บุตรสาวท่านเป็นคู่ตุนาหงันที่เหมาะสม”
นายโจรมาดื่มเหล้าที่โต๊ะดอกไม้กลางลานได้สามจอก บอกให้ลิ่วล้อเอาม้าผูกไว้ใต้ต้นหยาง แล้วก้าวเข้ามาในห้องโถง นั่งลงแล้วตะโกนถามว่า
“ท่านพ่อตา ฮูหยินข้าอยู่ไหนล่ะ”
“คงอายหรอก ไม่กล้าออกมาพบ”
อ๋องใหญ่หัวเราะแล้วว่า “เอาเหล้ามา ข้าคารวะท่านพ่อตา”
พอรับจอกเหล้ามาก็บอกว่า “ข้าไปหาฮูหยินก่อน เดี๋ยวค่อยมาดื่มก็ยังไม่สาย”
“ผู้เฒ่านำทางท่าน” ไท่กงถือเทียนส่องนำทางไปยังห้องเจ้าสาว “ห้องนี้แหละ เชิญท่านอ๋องใหญ่”
แล้วไท่กงก็ถือเทียนรีบเดินกลับ จะดีจะร้ายก็หาทางรอดไว้ก่อน
อ๋องใหญ่ผลักประตูเข้าไปเห็นห้องมืดมิดจึงว่า
“ดูดู๋ พ่อตาข้า ตะเกียงก็ไม่จุด ปล่อยให้ฮูหยินข้านั่งอยู่มืดมืด พรุ่งนี้คงต้องให้ลิ่วล้อเอาน้ำมันมาไว้จุดสักถัง”
หลู่จื้อเซินอยู่บนเตียงกลั้นหัวเราะเสียแทบแย่
อ๋องใหญ่คลำทางมากลางความมืด ปากก็ว่า
“เมียจ๋า ทำไมไม่ออกมารับผัว ไม่ต้องอายหรอก พรุ่งนี้ก็ได้เป็นฮูหยินหัวหน้าค่ายแล้ว”
พอคลำมาเจอผ้าม่านดิ้นทองเข้าก็เปิดผ้าม่านขึ้น แล้วใช้มืออีกข้างยื่นเข้าไปคลำหา คลำไปเจอหน้าท้องของหลู่จื้อเซินเข้า
ดีนะ ยังไม่คลำต่ำอีกหน่อย
หลู่จื้อเซินใช้ผ้าโพกหัวตวัดมัดมือ แล้วกดลากลงมาจากเตียง อ๋องใหญ่พยายามดิ้น หลู่จื้อเซินง้างหมัดขวา ด่าภาษาพ่อขุน
“ไอ้สังวาสมารดา” แล้วชกเข้าใต้กกหู
“ชกข้าทำไม”
“ฝากไว้ให้จำเมียไง” แล้วลากมาข้างเตียง กระหน่ำทั้งมือทั้งเท้าจนท่านอ๋องใหญ่ต้องตะโกนร้องให้คนช่วย
หลิวไท่กงกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ไหนว่าจะเกลี้ยกล่อมท่านอ๋องใหญ่ กล่อมอย่างไรตะโกนลั่นให้คนช่วย จึงลนลานถือเทียนส่องนำทางพวกลิ่วล้อเข้าไปยังห้อง ก็เห็นพระตัวอ้วนใหญ่แก้ผ้าล่อนจ้อนคร่อมท่านอ๋องใหญ่อยู่หน้าเตียง กระหน่ำชกเอาชกเอา
ลิ่วล้อคนนำตะโกนบอก “พวกแกรีบเข้ามาช่วยท่านอ๋อง เร็ว”
พวกลิ่วล้อชูอาวุธกรูกันเข้ามา หลู่จื้อเซินปล่อยท่านอ๋องใหญ่ หันไปคว้าไม้เท้าจากข้างเตียงลากพื้นจะออกมาตี พวกลิ่วล้อเห็นท่าไม่ดี ร้องกันลั่นแล้วต่างคนต่างหนี หลิวไท่กงเอาแต่ร้องว่า แย่แล้ว
ระหว่างชุลมุน ท่านอ๋องใหญ่คลานออกพ้นประตูห้อง ก็วิ่งหนีอย่างว่องไวไปหน้าบ้าน คว้าอานม้าได้รีบกระโจนขึ้น หักได้กิ่งหลิ่วเอามาหวดสะโพกม้า แต่ม้าไม่ยอมวิ่ง
อ๋องใหญ่ว่า “แย่แล้ว ไอ้ม้านี่ก็ยังมาแกล้งข้า” มองมาอีกที ที่แท้ยังไม่ได้แก้เชือกผูก รีบกระตุกจนขาดแล้วควบบึ่งออกทางประตูหมู่บ้านหนีขึ้นเขาไป
ด้านหลิวไท่กงยุดหลู่จื้อเซินไว้ต่อว่าว่า
“พระท่าน ก่อเรื่องใหญ่แล้ว แต่แรกว่าจะเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ ใครจะคิดว่ากลับไปชกเขาเสียยกใหญ่ นี่คงขึ้นเขาไปพาพวกยกโขยงกลับลงมาฆ่าพวกเราแน่”
จื้อเซินว่า “ไท่กงอย่ากังวล ข้าจะบอกให้ ส่าเจียใช่ใครอื่น เคยเป็นถีเสียในจวนนายท่านฉงจิงเลวี่ยผู้เฒ่าเมืองหยันอัน ฆ่าคนตายจึงมาออกบวช อย่าว่าแต่ไอ้หัวนกเขาสองตัวบนเขานั่น ให้ยกพวกกันมาสักพัน ส่าเจียก็ไม่กลัว ถ้าพวกท่านไม่เชื่อก็ลองมายกไม้เท้าส่าเจียดู”
พวกลูกบ้านใครเลยจะยกขึ้น หลู่จื้อเซินเอาไม้เท้ากลับมาควงหวดอย่างสบาย
ไท่กงว่า “อาจารย์ท่านอย่าเพิ่งรีบไปไหน อยู่ช่วยพวกข้าก่อน”
จื้อเซินว่า “ว่าอะไรเรื่อยเปื่อย ให้ตายก็ไม่ไปไหน”
ไท่กงว่า “เอาเหล้ามาให้ท่านอาจารย์หน่อย อย่าดื่มจนเมาตายเสียก่อนล่ะ”
หลู่จื้อเซินว่า “ส่าเจียดื่มหนึ่งส่วนเก่งขึ้นหนึ่งส่วน ดื่มสิบส่วนพลังมาอีกสิบเท่า”
ไท่กงว่า “เช่นนั้นก็ดี เหล้ายาที่ข้ามี ก็เชิญท่านตามสบายเถิด”
ตอนก่อนหน้า : เมาสุราป่วนเขาอู่ไถ
https://www.blockdit.com/posts/651ac9b4ed72b0649a4193e5
ตอนถัดไป : เขาดอกท้อ
https://www.blockdit.com/posts/651d6e61c196d555280761d9
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย